"บู๊" พี่เมีย แจ๊ส ชวนชื่น ปากแข็งยืนยันไม่ได้ขโมยรองเท้า  ขอโทษที่ท้าทายระบบ

22 มิ.ย. 67

 

"บู๊" พี่เมีย แจ๊ส ชวนชื่น ปากแข็งยืนยันไม่ได้ขโมยรองเท้า ขอโทษที่ท้าทายระบบอำนาจรัฐ จนถูกรวบตัว อึ้งมีประวัติเคยถูกดำเนินคดีมาอื้อ 

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 มี.ค. 67 แจ๊ส ชวนชื่น ศิลปินตลกชื่อดัง เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.มีนบุรี หลังถูกคนร้ายบุกบ้านย่านถนนสุวินทวงศ์ พร้อมขโมยรองเท้าที่สะสมไปหลายรายการ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 300,000 บาท 

กระทั่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี นำเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ขอศาลอนุมัติออกหมายจับ นาย บู๊ พี่ชายของ แจง ปุณณาสา ภรรยาแจ๊ส ในข้อหา ลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยการทำอันตรายกับสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ ส่วนนาย บู๊ ได้ไลฟ์สดใน TikTok ว่าได้พังประตูบ้านแล้วเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ คือรองเท้าที่ แจ๊ส สะสมไว้ไปแจกจ่ายให้กับบุคคลภายนอก พร้อมบอกว่า “ข้อหาหมั่นไส้เมียมึง” 

จนเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 67 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น. หรือ สารวัตรแจ๊ะ นำกำลังชุดสืบสวนนครบาล เข้าจับกุมตัวนาย บู๊ ได้ในพื้นที่ จ.สระแก้ว ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ 

ต่อมาวันที่ 22 มิ.ย. 67 ชุดสืบสวนนครบาลคุมตัวนาย ภูมิพัฒน์ ศักดิ์นุภาพ หรือ บู๊ อายุ 41 ปี พี่ชายของภรรยา แจ๊ส ชวนชื่น มาสอบสวนที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล หลังจับกุมได้ที่ริมชายแดนไทย-กัมพูชา  จ.สระแก้วเมื่อคืนวานนี้ โดยนายบู๊ เป็นพี่ชายของภรรยาแจ๊ส และได้ก่อเหตุบุกเข้าไปลักทรัพย์รองเท้าของสะสมของแจ๊ส มูลค่ากว่า 300,000 บาท ไปจากบ้านพักย่านสุวินทวงศ์ 

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากทั้งผู้เสียหายและประชาชนว่า ระหว่างหลบหนี นายบู๊ยังโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก และไลฟ์สด ตอบโต้ ยั่วยุ คุกคามผู้เสียหายอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังกล่าวท้าทายตำรวจว่าไม่สามารถจับกุมตนเองได้ จึงได้ส่งชุดสืบสวน "สารวัตรแจ๊ะ" ปฏิบัติการตะลุยชายแดนบูรพา ร่วมกับตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดสระแก้ว และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ติดตามจับกุมนายบู๊ แต่ก็ต้องใช้เวลาสักพัก เนื่องจากนายบู๊มีสาย ซึ่งเป็นกลุ่ม "ผีข้างบ่อน" คอยรายงายความเคลื่อนไหวของตำรวจให้นายบู๊ทราบ 

แต่นายบู๊ก็ยังชอบโพสต์ข้อความยั่วยุไล่ให้เจ้าหน้าที่ถอนกำลัง ตำรวจจึงแกล้งถอนกำลัง ล้มเลิกภารกิจตามจับนายบู๊ ให้นายบู๊ตายใจ ส่วนตำรวจก็แอบสะกดรอบตามกลุ่มสายข่าวของนายบู๊อย่างเงียบๆ จนกระทั่งไปเจอตัวนายบู๊ที่จุดตรวจทหารพรานที่ 1201 อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ปิดเกมในที่สุด 

ทั้งนี้ระหว่างจับกุม นานบู๊ยังไม่สลด บอกกับชุดสืบสวนด้วยว่า “ดีแล้วที่มาจับผม ไม่งั้นสัปดาห์หน้าจะกลับไปแก้แค้นผู้เสียหาย" 

ส่วนการสอบปากคำ นายบู๊ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอ้างว่า ไม่ได้ขโมยรองเท้าของแจ๊สไป แต่น่าจะเป็นความเข้าใจผิดกัน และไม่เคยบุกรุกบ้านหลังดังหล่าว เพราะตนเองมีชื่อในทะเบียนบ้านมา 15 ปีแล้ว และที่ผ่านมาก็เข้าๆ ออกๆ ปกติ ส่วนรองเท้าไม่ทราบว่าหายไปได้อย่างไร เพราะขณะเกิดเหตุตนเองถูกจับอยู่ ไม่ได้อยู่บ้าน ส่วนรูปที่ไปถ่ายหน้าบ้าน ก็เพียงแวะไปถ่ายรูป เพราะผ่านไปแถวนั้นพอดี และไม่ได้เข้าไปในบ้าน 

ส่วนกับแจง ไม่ได้มีปัญหาโกรธเคืองกัน แค่ทะเลาะกระทบกระทั่งกันเล็กน้อยตามประสา และตนเองก็แค่ไลฟ์สดเหน็บแนม ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากันเรื่องเงิน แต่ตนเองมีปัญหากับอีกคนหนึ่ง แต่ไม่ขอพูด 

เมื่อถามว่ามีอะไรอยากจะบอกกับน้องสาวหรือไม่ นายบู๊ บอกว่าไม่มีอะไรต้องพูด เพราะตัดขาดกันแล้ว และที่อีกฝ่ายบอกว่าต้องอยู่อย่างหวาดผวาเพราะตนเองนั้น ไม่จริง เพราะตนเองมองว่าอีกฝ่ายน่ากลัวว่า โดยเมื่อ 7-8 เดือนก่อนมีคนใส่หมวกกันน็อก ขี่รถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พกปืนมาที่บ้านตนเอง ตนเองก็ไปแจ้งความไว้แล้วที่ สน.มีนบุรี ส่วนจะเป็นใครจ้างวานมานั้น ให้ไปถามน้องสาวตนเองน่าจะรู้ 

หลังจากนี้ตนเองจะอยู่ในที่ของตนเอง ตราบใดที่ไม่มีใครมารังแกก่อน พร้อมย้ำว่า ตนเองไม่เคยพูดว่าจะกลับมาแก้แค้น และขอโทษที่ท้าทายอำนาจรัฐ 

หลังสอบปากคำเบื้องต้นแล้วเสร็จ ชุดสืบสวนจะนำตัวนายบู๊ส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เจ้าของคดี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยคาดว่าจะนำตัวไปฝากขังต่อศาลฯ ในวันที่ 24 มิ.ย. นี้ 

สำหรับนายบู๊ มีประวัติเคยถูกดำเนินคดี 8 คดี ตั้งแต่ปี 2546-2548 ทั้งคดีร่วมกันปล้นทรัพย์ฯ , ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราฯ , ร่วมกันชิงทรัพย์ฯ , ร่วมกันพยายามฆ่า , ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นฯ , ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราในลักษณะโทรมหญิง เคยถูกศาลตัดสินจำคุก 9 ปีกว่า และได้รับการปล่อยตัวเมื่อเดือน ก.ย. 2563 หลังพ้นโทษออกมาก็ยังไม่สลด ถูกดำเนินคดีหมิ่นประมาทอีก 2 คดี ก่อนจะมาก่อเหตุครั้งนี้

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส