ร้องสายไหมต้องรอด เจอเพื่อนบ้านมหาภัย ยึดพื้นที่หน้าบ้านจอดรถ วางของใช้ถ่ายรูปโพสต์ขายของ เข้า-ออกบ้านไม่ได้นานร่วม 10 ปี
นางสาวลัดดา หรือ เล็ก อายุ 50 ปี เจ้าของบ้าน นำภาพถ่ายและคลิปวงจรปิดหน้าบ้านของเธอ มาขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กรณีเพื่อนบ้านยึดพื้นที่หน้าบ้านจอดรถ วางของใช้หน้าบ้านถ่ายรูปโพสต์ขายของ เข้า-ออกบ้านไม่ได้นานร่วม 10 ปี แจ้งความตำรวจ ร้องเทศบาลไปไม่มีความคืบหน้า
คุณเล็ก เล่าว่า เธออยู่บ้านหลังนี้กว่า 10 ปี เป็นบ้านท้ายซอย และมีเพื่อนบ้านที่อยู่บ้านติดกัน ก่อนหน้านี้เธอเห็นใจที่เพื่อนบ้าน ไม่มีพื้นที่หน้าบ้านเหมือนบ้านหลังอื่นๆเพราะบ้านอยู่ท้ายซอยและอยู่มุมเฉียง จึงให้นำของมาวางได้
แต่อยู่นานไปเพื่อนบ้านคนนี้เริ่มมีพฤติกรรมนำสิ่งของมาวางกีดขวางบริเวณหน้าบ้านเยอะขึ้น จนรุกล้ำมากินพื้นที่หน้าบ้าน บางครั้งนำรถยนต์มาจอดจนทำให้เธอไม่สามารถนำรถเข้าบ้านได้
ก่อนหน้านี้คุณเล็กเคยร้องเรียนกับประธานชุมชน เขาอ้างว่าเป็นเพียงแค่จิตอาสาไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ หรือบังคับใครได้ และที่ผ่านมาเธอได้พยายามพูดคุยกับเพื่อนบ้านแล้วแต่ก็อ้างว่าสุขภาพไม่ดี ไม่มีคนคอยช่วยเก็บของ โดยเพื่อนบ้านอ้างมาแบบนี้เรื่อยมา
พฤติกรรมสุดทนของเพื่อนบ้านไม่เพียงแต่วางของขวางหน้าบ้าน แต่ยังเลี้ยงสุนัขหลายตัวทำให้ส่งกลิ่นเหม็น และยังชอบตัดขนสุนัขปลิวเข้าบ้านของคุณเล็ก นอกจากนี้เพื่อนบ้านคนนี้ยังเอาของมาวางไว้หน้าบ้าน แล้วถ่ายรูปโพสต์ขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ ซึ่งสินค้านั้นมีทั้งประตูบ้าน รถ จักรยานเก่า โดยใช้พื้นที่หน้าบ้านตัวเองเป็นฉากหลัง คุณเล็กเคยไปตักเตือนแล้วก็ยังเหมือนเดิม
กระทั่งเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คุณเล็กไม่สามารถเปิดประตูรถเข้าบ้านได้ จึงไปเรียกและมีปากเสียงกัน เพื่อนบ้านมีการข่มขู่ และท้าทายให้ตัวเองไปแจ้งความหรือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาผิด เธอจึงร้องเรียนไปที่เทศบาลบางคูรัด
ต่อมามีเจ้าหน้าที่มาเจรจาไกล่เกลี่ย ขอให้คู่กรณีเก็บข้าวของออก แต่ก็เก็บออกเพียงบางส่วน และไม่นานก็กลับมาวางใหม่ เยอะขึ้นกว่าเดิม คุณเล็ก ร้องเรียนแบบนี้ 2 ครั้ง รวมถึงได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.บางบัวทอง 4 ครั้ง จนถึงตอนนี้ผ่านมาหลายปีแล้วไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหากับเพื่อนบ้านหลังนี้ได้ เนื่องจากทางเทศบาลบางคูรัดอ้างว่าเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล.
_2.jpg)
