วุ่นศึกแย่งศพ ลูก-เมียใหม่พ่อ ญาติฝั่งคนตายผสมโรง

ชุลมุนกลางศาลาวัด ศึกแย่งศพพ่อ ระหว่างลูกกับเมียใหม่ ญาติฝั่งพ่อผสมโรงด้วย อ้างผู้ตายสั่งเสียไม่ให้ลูกเอาร่างพ่อไปทำพิธีที่อื่น

วันที่ 23 มิ.ย.67 เมื่อช่วง 08.00 น.นายสายยนต์ อายุ 67 ปี ได้เสียชีวิตลงที่บ้านเกิดในพื้นที่ ม.7 ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีด้วยโรคมะเร็ง ทางภรรยาใหม่และทางญาติของผู้เสียชีวิต ได้นำศพมาเพื่อบำเพ็ญกุศลที่วัดเนินแสงทอง แต่ทางลูกสาวนั้นมีความประสงค์จะนำร่างพ่อไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ จ.ลพบุรี เนื่องจากลูกรับราชการทหารอยู่ที่ จ.ลพบุรี

โดยทางญาติๆผู้เสียชีวิตและภรรยาใหม่นั้น ได้มีการทำพิธีทางศาสนาในช่วงเช้าเสร็จสิ้นแล้ว ก่อนที่จะให้ทางลูกสาวนำศพไป แต่ระหว่างที่ลูกสาวมารับศพพ่อนั้น เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันกับทางญาติของพ่อ (น้องสาวพ่อ) และภรรยาใหม่จนชุลมุนเกือบมีการกระทบกระทั่งกันกับทางญาติๆของฝ่ายผู้เสียชีวิตและภรรยาใหม่ คนในงานได้พากันเข้ามาห้าม

ทางญาติๆและภรรยาคนใหม่ของนายสายยนต์นั้น ได้พากันเข้าไปพูดคุยกับนายสายยนต์ก่อนเสียชีวิต โดยมีการถ่ายคลิปวิดีโอไว้ ในคลิปวิดีโอจะได้ยินว่านายสายยนต์ ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องถ้านายสายยนต์เสียชีวิต โดยพูดว่า"ลูกนั้นมีความหวังดีกับพ่อ อยากทำให้พ่อมีหน้ามีตา แต่ตระกูลเราอยู่ที่นี่ เราต้องทำอยู่ที่นี่ ญาติพี่น้องพ่อเขาก็ดีกับพ่อกันทุกคนใจ ลูกอยากเอาไปแต่พ่อไม่ไป ดวงวิญญาณพ่ออยู่ที่นี่บอกลูกแล้ว"

ทางด้านนางลำดวน อายุ 65 ปี (น้องสาวคนเสียชีวิตดูแลส่งเสีย) กล่าวว่าพี่ชายตนล้มป่วยมาเป็นปีแล้ว ลูกไม่เคยมาดูแลเลย พอเสียลูกจะเอาศพไป เวลาพ่อป่วยทำไมไม่มาแย่งพ่อไปรักษา ทางญาติก็ไม่ได้ติดใจถ้าลูกจะเอาไปก็ให้เอาไป คนตายก็ได้สั่งเสียไว้กับญาติทุกคนว่า ถ้าพี่เสียชีวิตแล้วอย่าให้ลูกเอาไปนะ เพราะพ่อแม่บ้านเกิดเมืองนอนอยู่ที่นี่ ที่ลูกเขาเอาเจ้าหน้าที่สัจจะ (ประกัน) มาพ่อเขายังไม่เสียชีวิตเลยทำไมรีบเอารถสัจจะมา

นางสัมฤทธิ์ (ภรรยาใหม่) กล่าวว่าทางลูกเขาจะนำศพไปทำพิธีที่โน้น ตนก็บอกลูกเขาว่าอย่าเอาไปเลย พ่อเขาอยากอยู่ที่นี่ แต่เขาจะเอาไป ทางตนก็ขัดไม่ได้ ตนกับพ่อของเขาเราอยู่กินกันมา 30 ปี แล้ว ดูแลสู้ชีวิตด้วยกันมาตลอด ทางผู้เสียชีวิตได้เลิกกับแม่ของเขาแล้ว และผู้เสียชีวิตก็ได้มาอยู่กับตนอย่างเป็นทางการ แต่ไปเที่ยวไปหา แกก็ไปอยู่แต่ไม่ได้ไปยุ่งไปอะไ รก่อนใกล้จะสิ้นใจแกได้บอกว่าอย่าเอาแกไปนะ แกอยากอยู่ที่นี่ อย่าให้ลูกเอาแกไป แกบอกได้เกิดอยู่ที่นี่พ่อแม่อยู่ที่นี่จะให้แกไปได้ยังไง ถ้าลูกเขาจะเอาไปตนก็ไม่ว่า ตนก็จะทำบุญตามประเพณีให้แกอยู่ที่นี่

ทางด้านนางสาวกาญจนา (ลูกสาวคนโต) กล่าวว่า ตนมีพี่น้องกัน 3 คน ตนเป็นคนรักษาพ่อมาตลอด มีบิลค่ารักษาทุกอย่าง ตนก็อยากเอาพ่อไปทำพิธีที่ลพบุรี เพราะทำงานอยู่ที่โน้นกัน แต่ทางญาติพี่น้องเขาจะแย่งเอาไว้เพื่ออะไรก็ไม่รู้ เขาคิดว่ามีเงินประกันแต่ตนก็ทำให้พ่อมาตั้งนาน เพราะตนทำงานรับราชการทหาร ก่อนหน้านั้นตนก็มีการพูดคุยกับทางนั้น พอมาถึงเวลาเขาก็มากลับคำแบบนี้ก็เลยได้ทะเลาะกัน

เบื้องต้นได้ทราบว่าทางลูกสาวได้มีการทำประกันชีวิตไว้ให้กับพ่อ จึงอยากนำศพพ่อไปจัดพิธีทางศาสนาให้อย่างสมเกียรติเป็นครั้งสุดท้าย เนื่องจากว่าลูกสาวนั้นรับราชการทหาร.