ปิดถนนล้อมจับคนขับเก๋งเมาเกือบ 400 มก. ซิ่งชนดะ ต่อสู้ตำรวจชุลมุนกลางถนน

29 มิ.ย. 67

ปิดถนนล้อมจับคนขับเก๋ง เมาซิ่งชนดะ 3 คัน ตำรวจควบคุมตัวต่อสู้ชุลมุนกลางถนน เป่าเมาสูงเกือบ 400 มก. เจอแจ้งข้อหาหนักถึงสองโรงพัก 

วันที่ 29 มิ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีพลเมืองดีและผู้เสียหายใช้โทรศัพท์บันทึกภาพเหตุการณ์ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรปิดล้อม และพยายามเรียกให้ชายคนขับรถเก๋งสีดำเปิดประตูออกมามอบตัว แต่คนขับรายนี้กลับไม่ยอมมอบตัวแต่โดยดี และเอะอะโวยวาย แถมยังต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนาย และพลเมืองดีต้องช่วยกันล็อกตัว เพื่อจะใส่กุญแจมือ แต่ก็ไม่ยอม สุดท้ายมีการควบคุมตัวชายคนดังกล่าวข้ามถนน เพื่อจะนำตัวไปยังตู้จราจร 

ระหว่างนั้นชายคนขับรายนี้กลับต่อสู้ และพยายามชกหน้าตำรวจ ทำให้ต้องใช้ยุทธวิธีควบคุมตัวอีกครั้ง สุดท้ายใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมตัวชายคนดังกล่าวได้สำเร็จ เล่นเอาเจ้าหน้าที่เหงื่อตกไปตามๆ กัน 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถนนเทพารักษ์ใกล้สี่แยกเคหะเมืองใหม่บางพลี ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ 

จากการสอบถามเรื่องราวดังกล่าว ทราบว่าชายคนดังกล่าวคือนายมานิต อายุ 50 ปีขับรถเก๋งสีดำ พุ่งชนรถคันอื่นๆ ที่บนถนนเทพารักษ์ กม.17 จำนวน 2 คัน จากนั้นได้ขับรถเก๋งหลบหนีเข้าปั้มน้ำมัน และได้ถอยชนรถในปั๊มอีก ต่อมาคนขับชายคนดังกล่าวได้ขับรถหนีไปบริเวณถนนเทพารักษ์ มุ่งหน้าบางบ่อ และมาจนมุมขณะรถกำลังจอดติดไฟแดงเคหะบางพลี ซึ่งเจ้าหน้าที่ไล่ล่าติดตามตัว กระทั่งชายคนดังกล่าวซึ่งนั่งอยู่ในรถ เจ้าหน้าที่พยามเจรจาให้ชายคนดังกล่าวลงมา เพื่อเรียกประกันมาคุยกับผู้เสียหายที่ถูกชน แต่ชายคนดังกล่าวนั้นไม่ยอม 

กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องออกแรง นำตัวออกมาจากรถอย่างชุกละหุก พบว่าชายคนดังกล่าวใบหน้าแดงกร่ำ มีกลิ่นคล้ายเมาสุรา ดจาไม่รู้เรื่อง และพยายามโวยวายเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมตัว เจ้าหน้าที่จึงจำต้องใส่กุญแจมือ แต่ใส่ได้เพียงข้างเดียวล็อกตัวไว้ เพื่อป้องกันการหลบหนี และเป็นการระงับเหตุ 

เบื้องต้นซึ่งชายคนดังกล่าวพยายามขัดขืน และหันมาด่าทอจนเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ และพาตัวเข้าไปที่บริเวณข้างฟุตบาธ ชายคนดังกล่าวยังคงเอะอะโวยวาย และพยายามจะใช้มือทำร้ายตำรวจอีก จนเจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเมืองดีแถวนั้นช่วยกันอุ้มชายคนดังกล่าวไปไว้ที่ป้อมตำรวจจราจรของ สภ.บางเสาธง เมื่อมาถึงตำรวจจึงบอกว่าดื่มน้ำเย็นไหม แต่ชายคนนี้พยายามยืนขึ้นชี้หน้า และปรี่จะชกตำรวจ จนตำรวจต้องจับมือไพล่หลัง และใส่กุญแจมือทั้งสองข้าง 

ด้านนายตาล เจ้าหน้าที่อาสาสมัครศิวะ อายุ 31 ปี พลเมืองดีที่เข้าช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ บอกว่า ขณะที่ตนเองขับรถบนถนนเทพารักษ์ สังเกตมีรถผู้ก่อเหตุ และรถชาวบ้านขับขี่ไล่ตามกันด้วยความเร็ว ตอนแรกคิดว่าแข่งกันมา จนตามมาถึงสี่แยกจึงทราบเรื่องและมีการตะโกนจากผู้เสียหายให้ช่วยจับคนขับรายนี้ ตนเองจึงเข้าไปช่วยเจ้าหน้าที่แต่ก็ชุลมุนพอสมควรกว่าจะจับตัวได้ 

จากเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นการก่อเหตุในสองพื้นที่ ซึ่งพนักงานสอบสวนของ สภ.บางพลีได้ควบคุมตัวนายมานิตไปทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์พบว่าพุ่งสูงถึง 368 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น 

ขณะที่ พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง ระบุว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ถึงแม้ว่าต้นเรื่องจะเกิดขึ้นที่ สภ.บางพลี แต่ผู้ก่อเหตุขับรถเข้าเขตบางเสาธงและยังต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในขณะจับกุม ทำร้ายเจ้าพนักงานตำรวจ ตนจึงสั่งให้รับตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มจาก สภ.บางพลี โดยจะแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ,ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในขณะปฎิบัติหน้าที่,ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่นและทำร้ายร่างกายและจิตใจของเจ้าหน้าที่ในขณะปฎิบัติงาน

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส