ผอ.ย้ำไม่ได้มีพฤติกรรมซาดิสม์ ขอสานสัมพันธ์พยาบาลสาวต่อ

2 ก.ค. 67

ชี้แจงแล้ว! ผอ.ยันไม่มีพฤติกรรมซาดิสม์ ตัดพ้อถูกสังคมโจมตีหนัก ยันไม่ได้คบชู้ รู้แค่ฝ่ายหญิงเลิกรากันไปนานแล้ว ขอสานสัมพันธ์พยาบาลสาวต่อ

จากกรณี นายเอ นามสมมุติ อายุ 30 ปี มาร้องขอความช่วยเหลือจาก "กัน จอมพลัง" โดยว่า ภรรยาสาววัย 28 ปี ที่เป็นพยาบาลที่อยู่กินกันมา 5 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน แอบไปมีสัมพันธ์กับ ผอ.โรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง ภายหลังจากจับได้ด้วยการเปิดดูโทรศัพท์มือถือ เห็นทั้งแชตข้อความ ทั้งคลิปขณะร่วมเพศ และตัวภรรยาเองก็ยอมรับ และเล่าให้ฟังหมดเปลือกว่าที่แอบไปคบหากับ ผอ.เพราะชอบในรสนิยมเซ็กส์แบบรุนแรง ใช้โซ่ แส้ กุญแจมือ น้ำตาเทียน มีสัมพันธ์กันนอกสถานที่และถ่ายคลิป

ก่อนที่นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ได้เซ็นคำสั่งย้าย ผอ.รพ. คนดังกล่าวไปช่วยราชการที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี เพื่อทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย. 2567 จนกว่าจะสอบสวนแล้วเสร็จ

ล่าสุดวันนี้ (2ก.ค.67) นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ได้เรียก ผอ.คนดังกล่าว และพยาบาลสาว เข้าชี้แจง และแถลงข้อเท็จจริงกับนักข่าว

โดย ผอ.ยืนยันว่าไม่รู้มาก่อน ว่าฝั่งโน้นมีครอบครัวแล้ว ตนเองรับทราบแค่ว่า ฝ่ายหญิง เลิกกับสามีเก่าไปนานแล้ว และหลังเกิดเรื่องยอมรับ ว่าได้รับผลกระทบ ทั้งตัวเอง หัวหน้างาน ลูกน้อง และคนที่เกี่ยวข้อง กลายเป็นว่าทุกคนต้องมาเดือดร้อนกับเรื่องที่เกิดขึ้นจากตัวเอง ย้ำว่า ตนเองไม่ได้เป็นชู้กับฝ่ายหญิง และไม่ได้มีพฤติกรรมซาดิสม์ อย่างที่ถูกกล่าวหา ที่ผ่านมาต้องถูกสังคมโจมตีอย่างหนักและได้มีการพูดคุยกับทนาย ถึงเรื่องการฟ้องร้อง ที่ทำให้ตนเองเสียหาย โดยว่าไปตามกระบวนการข้อเท็จจริง

ขณะที่ นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข บอกว่า จากการสอบถามทั้งคู่มีความสัมพันธ์กัน 4 ครั้ง โดยครั้งที่ 3 ครั้งที่ 4 เป็นการสร้างความตื่นเต้น เรื่องของการอยู่ด้วยกัน แต่ว่าไม่ใช่เรื่องรสนิยมของความผิดปกติทางจิต เพราะ จากการตรวจสอบร่างกายของฝ่ายหญิง ไม่ว่าจะเป็นแขนหรือขาที่สามารถดูได้ ก็ยังพบว่าผิวปกติดี ไม่มีร่องรอยของการทำร้ายร่างกาย จึงถือเป็นเรื่องของความตื่นเต้นในช่วงเวลานั้น และอุปกรณ์ ก็ใช้ในช่วง เวลาที่มีความสัมพันธ์กันแค่นั้น ดังนั้นการที่สามีเก่า ไปพบอยู่รอยหยดเทียนที่เสื้อ เป็นเพียงการแสดงความรู้สึกที่ชัดเจนว่าไม่ต้องการอยู่กับสามีแล้ว

ส่วน ในอนาคตนับจากนี้ผอ.และพยาบาล ก็ยืนยันว่าจะคบกันต่อ เพราะไม่ได้เป็นการทำผิดศีลธรรมแต่อย่างใด เพราะฝ่ายหญิงกับสามีเก่าไม่ได้จดทะเบียนสมรส และฝ่ายหญิง ก็ได้ยืนยันชัดเจน ว่าได้จบความสัมพันธ์กับสามีเก่าไปนานแล้ว

ขณะที่ผอ.ก็ยืนยันว่า จะสานสัมพันธ์ กับพยาบาลสาวต่อ แต่อยากให้พยาบาลสาว ไปเคลียร์ตัวเอง ให้ชัดเจน เพราะทางฝ่ายสามีเก่า ยังมีความสัมพันธ์คลุมเครืออยู่

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส