อ้างเป็นนักการเมือง ปิดหน้าแฉมหาวิทยาลัยชื่อดัง ซื้อขายวุฒิจริง

อ้างเป็นนักการเมือง ปิดหน้าแฉมหาวิทยาลัยชื่อดังเมืองพิษณุโลก เล่าปากเปล่ามีซื้อขายวุฒิจริง แถมมหาวิทยาลัย เคยวิ่งเต้นไม่ให้ถูกสั่งปิด 

จากกรณีที่มีข่าวว่า น.ส.วิไลลักษณ์ หรือ ซ้อลักษณ์ และ นายแม่ปุ๊กกี้ อดีตสมาชิกมูลนิธิเป็นหนึ่ง ออกมาเปิดเผยข้อมูลพาดพิง น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง กรณีอ้างว่ามีการเสนอซื้อขายวุฒิการศึกษา ป.ตรี จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก  พร้อมกันนี้ยังได้แอบอ้างเสนอซื้อขายตำแหน่งทางการเมือง จนกลายเป็นประเด็นดังในช่วงที่ผ่านมา ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ 

ต่อมาวันที่ 6 ก.ค. 67 ที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กทม. น.ส.วิไลลักษณ์ หรือ ซ้อลักษณ์ พร้อมด้วย นายแม่ปุ๊กกี้ อดีตผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเป็นหนึ่ง นำนายเอ (นามสมมติ) อาชีพนักการเมือง เข้ามาให้ข้อมูลเรื่องการเสนอซื้อขายวุฒิการศึกษาปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก ต่อมูลนิธิฯ 

โดยนายเอ กล่าวอ้างว่า ตนยืนยันว่า สิ่งที่เป็นข่าวตอนนี้ในเรื่องการซื้อขายวุฒิการศึกษาของมหาวิทยาลัยดังกล่าวเป็นเรื่องจริง และส่วนตัวมีความพันธ์กับ นายแม่ปุ๊กกี้ เพราะเป็นเพื่อนกันและรู้จักกัน และตนได้รับทราบถึงกระบวนการซื้อขายวุฒิการศึกษาจากบุคคลหนึ่งที่เป็นผู้หญิง และเป็นบุคลากรในมหาวิทยาลัยนั้น ทำหน้าที่ประสานการซื้อขายวุฒิการศึกษา 

นายเอ กล่าวว่า รายละเอียดขั้นตอนกระบวนการซื้อขายเป็นอย่างไรนั้น ตนไม่ทราบ แต่ทราบว่ามีการซื้อขายปริญญาตรีจริงในวงเงิน 3 แสนบาท เพราะทราบจากการพูดคุย แต่ไม่มีหลักฐานทางเอกสาร หรือคลิปเสียง ตนสามารถเล่าเรื่องได้เท่านั้นว่าแค่จ่ายเงินเขาก็ทำเรื่องให้ โดยนำชื่อใส่ย้อนหลังให้ พร้อมคำนวนช่วงจบการศึกษา ส่วนจะมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่ทราบว่าเป็นแบบ วัน สตอป เซอร์วิส อีกทั้งเมื่อเดือน มี.ค. 67 มหาวิทยาลัยดังกล่าวเคยวิ่งเต้นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เพื่อไม่ให้ถูกสั่งปิด แต่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่เอาด้วย 

ด้านนายรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นข้อมูลส่วนหนึ่งที่มาสมทบความจริง ที่ก่อนหน้าที่มีการเปิดเผยข้อความแชตเรื่องการซื้อขายวุฒิการศึกษา และทางนายเกษีญรที่พูกพาดพิงได้ไปลงบันทึกประจำวันกับประธานมูลนิธิฯ ก็สอดรับข้อมูลต่างๆ ยืนยันได้ว่าข้อมูลที่เราออกมาเปิดเผยนั้นเป็นข้อมูลข้อมเจจริ ส่วนใครจะเกี่ยวข้องก็ต้องสืบสาวราวเรื่องกันต่อไป เพราะเรื่องแบบนี้ทำคนเดียวไม่ได้แน่ๆ ทั้งนี้วันพรุ่งนี้ (7 ก.ค. 67) ทีมทนายความของมูลนิธิฯ กับซ้อลักษณ์จะเดินทางไป สภ.สกลนคร เพื่อแจ้งความดำเนินคดี ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และการปลอมเอกสารลายเซ็นของซ้อลักษณ์เพื่อนำไปเปิดมูลนิธิต่อไป 

วันนี้ที่นักกฎหมายกูรูต่างๆ ออกมาบอกว่าเป็นเรื่องเพื่อนหักหลังกันเองนั้น ท่านต้องตั้งสติ ต้องแยกให้ออก เพราะวันนี้ประเด็นการซื้อขายวุฒิการศึกษา มีขบวนการนี้จริง เพราฉะนั้นท่านเป็นนักกฎหมายควรติดตาม และแยกแยะให้ออก มันเกินคำว่าเพื่อนหักหลังเพื่อน ถามว่าถ้าเพื่อนทำผิดต้องสนับสนุนเพื่อนหรืออย่างไร ถ้าทำแบบนี้ประเทศจะไปอย่างไรต่อ