ชาวเน็ตจวกเละ สาวให้อาหารหมาหน้าบ้านคนอื่น เจ้าของบ้านไปเตือนเจอวีนกลับฉ่ำ ล่าสุดโดนแจ้งความเอาผิดแล้ว
วันที่ 8 กรกฎาคม 2567 จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่งได้โพสต์คลิปเหตุการณ์หญิงรายนึงได้ขี่รถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงข้างได้นำข้าวมาให้สุนัขบริเวณหน้าร้านแห่งหนึ่ง โดยมีชายเจ้าของร้านออกมาต่อว่าหญิงที่นำข้าวมาให้สุนัขกิน ซึ่งสุนัขตัวดังกล่าวเป็นสุนัขจรจัด ควรเอาข้าวไปให้ที่อื่นไม่ใช่หน้าร้าน ส่วนหญิงในคลิปก็ได้พูดสวนกลับไปและมีการท้าทายให้เจ้าของร้านไปแจ้งความ
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหน้าร้านสศพลมั่งคั่ง จำหน่ายอุปกรณ์การเกษตร ตำบลพิจิตร อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พบกับป้าของเจ้าของร้าน โดยบอกกับผู้สื่อข่าวว่าชายคนในคลิปคือหลานชาย ก่อนจะพาผู้สื่อข่าวไปดูสุนัขจรจัดที่เป็นประเด็น เบื้องต้นพบว่าสุนัขตัวดังกล่าวเป็นลูกสุนัขพันธ์ุไทยสีขาวลายจุดดำและน้ำตาล ส่วนสุนัขตัวสีน้ำตาลมี 3 ขา เป็นสุนัขที่เจ้าของร้านเลี้ยงเอาไว้ ซึ่งได้โดนรถชนจนขาขาด ส่วนเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา
โดยทางคุณป้าของเจ้าของร้านได้เล่าว่า ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่หญิงคนดังกล่าวได้นำอาหารมาให้สุนัข และตนได้บอกให้เอาสุนัขไปเลี้ยงเอง แต่หญิงคนดังกล่าวไม่เอา อ้างว่าที่เอาข้าวมาให้เพราะสงสาร ตนเลยบอกกลับไปว่า ทีหลังก็อย่ามา แต่พบว่าวันหลังก็มาอีก กระทั่งมาเจอหลานชายและเกิดเหตุการณ์ตามคลิป
ส่วนที่สถานีตำรวจภูธรนาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา ผู้สื่อข่าวได้พบกับคุณต้น หลานชายเจ้าของร้าน ได้เล่าว่า วันนี้เดินทางมาแจ้งความกรณีทางหญิงที่ให้ข้าวสุนัขโพตส์คลิปวิดีโอลงในโซเชียล ส่วนในวันเกิดเหตุนั้นก็มีผู้ประสงค์ดีได้นำอาหารมาให้สุนัขจรจัดบริเวณหน้าร้าน ซึ่งตนได้เดินออกไปและขอความร่วมมือให้ช่วยขยับไปหน่อย แต่ไม่รู้เกิดการสื่อสารยังไง เข้าใจผิดเป็นอย่างอื่น ก็เลยโทรหาตำรวจให้เข้ามาช่วยพูดคุยในวันนั้น ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วตนไม่ได้ติดใจอะไร แค่ไปขอความร่วมมือแค่นั้นเอง
ส่วนหญิงคนที่ถ่ายคลิปและคนที่นำข้าวมาให้สุนัขที่เป็นคู่กรณี ผู้สื่อข่าวยังไม่สามารถติดต่อได้
ส่วนข้อกฎหมายการให้อาหารสัตว์ในที่สาธารณะเป็นครั้งคราวด้วยความเมตตา อาจถือว่าเป็นการทิ้งสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยลงบนที่หรือทางสาธารณะ มีโทษปรับไม่เกินสองพันบาท ตามมาตรา 32 แห่งพ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองพ.ศ. 2535 และหากเข้าข่ายเป็นเหตุรำคาญตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.สาธารณสุขพ.ศ.2535 โทษจำคุกไม่เกินสามเดือนหรือปรับไม่เกินสองหมื่นห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.
