ผัวเมียชาวเกาหลีธุรกิจพัง คิดสั้นลาโลกดับทั้งคู่คาบ้านพัก

12 ก.ค. 67

 

ผัวเมียชาวเกาหลีธุรกิจ เครื่องสำอาง-ผลิตภัณฑ์เสริมความงามพัง คิดสั้นลาโลกดับทั้งคู่คาบ้านพัก เจอหนังสือเพิกถอนอายัดห้ามออกนอกประเทศไทย 

วันที่ 12 ก.ค. 67 พ.ต.ต.เอกศักดิ์ ขวัญหวาน สว.(สอบสวน) สภ.กะรน จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งพบศพชาวต่างชาติ 2 ศพ เสียชีวิตภายในห้องพักในตลาดไนท์พลาซ่า พื้นที่ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุด้วย 

หลังรับแจ้งจึงรายงาน พ.ต.อ.คุณเดช ณ หนองคาย ผกก.สภ.กะรน ทราบพร้อมแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ตและเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต รุดไปตรวจสอบ 

ที่เกิดเหตุพบศพชายหญิง 2 ศพ เป็นสามีภรรยาชาวเกาหลีเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน เบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิต เป็นนักธุรกิจชาวเกาหลีเปิดร้านขายเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมความงามของประเทศเกาหลี 

ทราบชื่อผู้ตายคือ Mr.Eun Ki Hong อายุ 52 ปี สัญชาติเกาหลี และ Ms.Eun Young Lee อายุ 44 ปี สัญชาติเกาหลี จากการสอบสอน ทราบว่า ผู้ตายทั้งคู่ได้เช่าอาคารพาณิชย์ดังกล่าว ซึ่งด้านล่างเปิดเป็นร้านบิวตี้โคเรียนคอสเมติก Buety Korean Cosmatic ส่วนด้านบนเป็นที่พัก กำหนดสัญญาเช่า 2 ปี และเดือน ต.ค. 67 จะครบ 1 ปี 

ล่าสุดบ่ายวันที่ 12 ก.ค. 67 เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภูเก็ต พร้อมด้วยแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทราบว่า ตึกหลังดังกล่าวมี 3 ชั้น ชั้นล่างสุดเปิดเป็นร้านเสริมความงาม และขายเครื่องสำอาง และอาหารเสริม ส่วนชั้น 2 เป็นห้องนอน และมีกลิ่นคละคลุ้งเหม็นไปทั่วทั้งตึก บริเวณราวบันไดชั้น 2 พบผู้เสียชีวิตผู้ชายนอนคว่ำหน้า ส่วนผู้หญิงนอนหงายบริเวณลำคอทั้งสองคนมีเชือกยืดแบบรัดของโยงลงมา และใกล้ศพพบเก้าอี้ จำนวน 2 ตัว ซึ่งคาดว่าทั้งสองได้แขวนคอตายจากชั้น 3 โดยยืนบนเก้าอี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจชั้น 3 มีร่องรอยเท้าของผู้ชายคาดว่าผู้ชายน่าจะผูกคอผู้หญิงก่อน แล้วจึงผูกคอตัวเองตายตาม 

คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน เพราะตามร่างกายทั้งสองมีสภาพอืดลิ้นจุกปาก เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในห้องพักพบเอกสารต่างๆ เป็นภาษาเกาหลี และมีหนังสือของทางราชการไทยเกี่ยวกับการเพิกถอนอายัดห้ามออกนอกประเทศไทย 

จากการสอบถามผู้ดูแลตึกหลังดังกล่าวที่สองผัวเมียชาวเกาหลีได้มาเช่าเปิดธุรกิจเสริมความงาม และขายเครื่องสำอาง ซึ่งสัญญาเช่า 2 ปี และในเดือน ต.ค. 67 ที่จะถึงจะครบ 1 ปี แต่ขณะนี้ยังค้างค่าเช่าอยู่ 2 เดือน ค่าเช่าเดือนละ 60,000 บาท 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า สาเหตุการผูกคอตายในครั้งนี้ เกิดจากเศรษฐกิจซบเซา ธุรกิจเสริมความงามไม่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ จึงทำให้เกิดความเครียด และผูกคอตายดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงมอบศพให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตนำศพไปยังโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายอย่างละเอียด ก่อนประสานสถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทย เพื่อติดต่อญาติของทั้งสองเพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส