รวบยกแก๊งต่างชาติ ปล้นทรัพย์นักเทรดหุ้นชาวอังกฤษ

15 ก.ค. 67

ตำรวจรวบยกแก๊ง 5 ชาวต่างชาติ มัดมือมัดเท้า-ปล้นทรัพย์ นักเทรดหุ้นชาวอังกฤษ

จากกรณีที่ตำรวจ สน.คลองตันนำกำลังจับกุม 5 ผู้ต้องหา คือ  Mr.Abdullahi Ahmed Saney Mohamed ชาวเดนมาร์ก , Ms.Shafiq Sumya ชาวอังกฤษ , Mr.Ahmed Saeed Yasin ชาวอังกฤษ , Mr.Hussein Mohamed Hassan Sheekh ชาวอังกฤษ และหญิงชาวต่างชาติไม่ทราบชื่อนามสกุล ที่ก่อเหตุปล้นทรัพย์ นักเทรดหุ้น (คริปโต) ชาวอังกฤษ

ทีมข่าวได้สอบถาม พันตำรวจเอกวชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน บอกว่า พฤติการณ์ของแก๊งต่างชาตินี้ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ผู้เสียหายได้รู้จักกับ 1 ผู้ก่อเหตุในสถานบันเทิง จากนั้นก็มีการชักชวนกันไปต่อ อ้างว่าไปกินเลี้ยงวันเกิดที่ ห้องพักแห่งหนึ่งย่านพระโขนง ผู้เสียหายจึงตามไปต่อในข่วงเวลาประมาณ 04.50 น.

1721031557288

จากนั้นผู้ต้องหาได้ทำร้ายร่างกาย และใช้เครื่องช็อตไฟฟ้า ใช้เทปและเชือกมัดผู้เสียหาย และเอาทรัพย์สินไป ทั้งเงินสด โทรศัพท์ นาฬิกา รวมถึงได้พยายามบังคับให้ผู้เสียหาย ส่งข้อความไปหาแฟนสาวคนไทยที่คอนโดบอกว่าจะมีเพื่อนเข้าไปเอาของที่ห้องพัก 

จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาก็ได้นำคีย์การ์ดและออกไปยังคอนโดดังกล่าวในข่วงเช้าของวันเดียวกัน เมื่อไปถึงคอนโด ก็เข้าไปเอานาฬิกา คอมพิวเตอร์ ก่อนจะออกจากคอนโดไป

1721031584887

จากนั้นผู้เสียหายพยายามดิ้นจนหลุดและมาแจ้งความ ทางตำรวจจึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนเมื่อวานนี้สามารถไล่ติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดพร้อมของกลางทั้งนาฬิกาจำนวน 2 เรือน เงินสด โทรศัพท์ บัตรเครดิต รวมกว่า 3 ล้านบาท

จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาไม่ให้การใดๆและขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น แต่จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มคนร้ายเข้ามาในไทยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว ไม่ได้ประกอบอาชีพ และเพิ่งก่อเหตุครั้งแรก ส่วนผู้เสียหายเข้ามาใช้วีซ่านักเรียน

1721031602939

เบื้องต้นแจ้งข้อหา ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัว, ร่วมกันทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นโดยมีอาวุธใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจ, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว, ร่วมกันกรรโชกโดยมีอาวุธติดตัวมาขู่เข็ญ,ร่วมกันเอาไปเสียเอกสารใดของผู้อื่น, ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร

โดยในวันพรุ่งนี้ทางตำรวจจะคุมตัวส่งศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขัง.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส