สอบเครียดสารวัตร สภ.ดังเชียงใหม่ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝากขัง-ค้านประกันตัว

20 ก.ค. 67

 

สอบเครียด พ.ต.ท. ระดับสารวัตร สภ.ดังเชียงใหม่ พัวพันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ร่วมลูกสาวติดตั้งซิมบ็อกซ์ หิ้วตัวฝากขัง คัดค้านการประกันตัว 

จากกรณีผู้ใช้แอปพลิเคชั่น “X” ที่ใช้ชื่อว่า “Red Skull” โพสต์ภาพตำรวจนายหนึ่ง พร้อมข้อความระบุว่า “สุดพีก! ตำรวจเชียงใหม่ เป็นหัวหน้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ให้ลูกคอยดูแลระบบ และชวนเพื่อนมาทำงาน ด้านเจ้าตัวขอมามอบตัววันที่ 22 นี้” 

“ล่าสุดวันที่ 19 ก.ค. 67 ชุดสืบสวนภาค 5 ขยายผลจากการจับกุมคดีดังกล่าว โดยทราบว่าบิดาของผู้ต้องหาคือ พ.ต.ท.บัณฑิต (สงวนนามสกุล) ตำแหน่งสารวัตรอำนวยการ สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และคนบงการในการติดต่อ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และให้ลูกชวนเพื่อนมาร่วมกันดูแลระบบ” ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ 

ต่อมาวันที่ 20 ก.ค. 67 ที่ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวพ.ต.ท.บัณฑิต ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานความผิดร่วมกันทำ มีใช้ นำเข้านำออกหรือค้า ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต, ร่วมกับกับตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต, ร่วมกันใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคมฯ 

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบิกตัวออกจากห้องควบคุมขึ้นไปสอบสวนในห้องประชุมชั้น 3 และจากการสอบถามผู้ต้องหารายนี้ไม่ยอมให้การแต่อย่างใด 

การจับกุมครั้งนี้ผลจากการขยายผล หลังจาก พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นำกำลังชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 บุกทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 3 จุดพร้อมกัน ที่โครงการบ้านเอื้ออาทรเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่, โครงการบ้านเอื้ออาทรป่าตัน ต.ป่าตัน อ.เมือง จ. เชียงใหม่ และโครงการบ้านเอื้ออาทรสันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 

โดยที่ห้องพักบนชั้น 4 อาคาร 1 โครงการบ้านเอื้ออาทรเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่พบเครื่อง GSM Gateways หรือ ซิมบ็อกซ์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับแปลงสัญญาณการโทรศัพท์ผ่านระบบอินเทอร์เนตให้เป็นเบอร์โทรศัพท์ภายในประเทศ จำนวน 4 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์จ่ายไฟ ซึ่งทั้งหมดยังเปิดใช้งานอยู่ ส่วนที่บ้านเอื้ออาทรอีก 2 จุด พบเครื่องซิมบ็อกซ์อีก ห้องละ 4 เครื่อง รวมทั้งหมด 12 เครื่อง 

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหารวม 4 ราย 1 ในนั้นเป็นลูกสาวของ พ.ต.ท.รายดังกล่าว และมีคู่รักชายอายุ 21 ปี และหญิงอายุ 25 ปี ที่เป็นคนเช่าห้องทั้ง 3 ห้อง 

สอบสวนเบื้องต้นทั้งสองสารภาพว่าเป็นผู้เช่าห้องพักทั้ง 3 จุด และเป็นคนคอยเฝ้าดูแลอุปกรณ์ทั้งหมด ได้ค่าจ้างจุดละ 8,000 บาท ต่อเดือน แต่อ้างว่าไม่ทราบว่าอุปกรณ์ทั้งหมดคืออะไร สาเหตุที่ทำ เพราะรายได้ดี 

ด้านพล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนที่ สภ.ช้างเผือกแล้ว ซึ่งจากการสอบสวนในเบื้องต้นนั้น ลูกสาวของเขาได้ไปรับซิมบ๊อก หรือเครื่องกระจายสัญญาณโทรศัพท์มาวางตามจุดต่างๆ โดยมีพ่อเป็นคนช่วยหาสถานที่ และช่วยเอาไปวาง ถือว่าเป็นร่วมกันกระทำความผิด จึงมีการออกหมายจับ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคมตามหมายจับ ส่วนโทษทางราชการนั้น ขณะนี้ทางผู้บังคับการตำรวจกองจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนโทษวินัยร้ายแรง และจะสั่งให้ออกจากราชการเอาไว้ก่อน 

ขณะนี้ทางตำรวจกำลังสอบสวนขยายผลเครือข่ายขบวนการคนที่สั่งการคนที่อยู่เบื้องหลัง พร้อมกับเส้นทางการเงินของเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้ ส่วนความเสียหายทางการเงินนั้นยังตรวจสอบไม่พบ เพราะว่าเป็นการจับกุมซิมการ์ดในเบื้องต้นอยู่อยู่ระหว่างการขยายผลการที่ผู้ต้องหาที่เราจับได้ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งขององค์กรอาชญากรรม ซึ่งตอนนี้กำลังขยายผลว่าจะมีการเชื่อมโยงกับใครบ้าง ส่วน พ.ต.ท.รายนี้ วันนี้ก็จะนำตัวไปฝากขัง และทางพนักงานสอบสวนก็จะมีการคัดค้านการประกันตัว

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส