ลิลลี่ เหงียน พูดแล้ว! ลั่นไม่ได้เป็นเมียน้อยทักษิณ เคยคบอดีตประธานรัฐสภา

25 ก.ค. 67

 

ลิลลี่ เหงียน พูดแล้ว! ลั่นไม่ได้เป็นเมียน้อยทักษิณ ยืนยันไม่เคยเป็นเมียน้อยใคร เผยเคยคบอดีตประธานรัฐสภา พร้อมสาบานพูดความจริง แจ้ง เอิร์ก เลเดอเรอร์อีก1 ข้อหา 

วันที่ 25 ก.ค. 67 น.ส.ลิลลี่ เหงียน ให้สัมภาษณ์กรณีที่กล่าวผ่านรายการหนึ่งว่าเคยคบหากับอดีตนักการเมือง ที่เป็นถึงระดับประมุขของประเทศนั้นว่า ตนต้องขอโทษ และขอชี้แจงว่า ตนเข้าใจผิด แต่ความเข้าใจคำว่าประมุขของประเทศไทย ซึ่งอดีตแฟนของตนคนที่ 3 เป็นนักการเมืองตนสามารถพูดได้อย่างเปิดอกเลยว่า ตอนที่คบกับท่าน ท่านไม่เคยมีภรรยา ท่านเป็นอดีตประธานสภาฯและตอนที่ตนอยู่กับท่านก็ได้ยินว่าตำแหน่งประธานสภาฯ ก็เป็นเหมือนตำแหน่งประมุขของประเทศ ซึ่งตนก็ไม่ค่อยเข้าใจความหมายมาก ก็ต้องขอโทษจริงๆ 

ส่วนที่ตนโดนกล่าวหาว่าเป็นเมียน้อยนั้น ณ วันนี้ตนขอชี้แจงอีกครั้งอย่างชัดเจน และกล้าพูดด้วยจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ของตน และตนก็ขอได้ขออนุญาตปะป๊าแล้ว ซึ่งเป็นแฟนเก่าของตน และท่านก็อนุญาต จริงๆ ก็สามารถพูดชื่อได้เลย แต่ว่าตนเคารพปะป๊า และยังเคารพครอบครัวปะป๊าอยู่ ท่านก็ยังมีความเมตตาให้กับตนอยู่ เนื่องจากเราเลิกกันมานานแล้ว 10 กว่าปีแล้ว ตนไม่อยากให้ท่านต้องมาลำบากใจในเรื่องนี้ และตนเชื่อว่าทุกคนคงรู้ว่าท่านคือใคร แต่ตนจะไม่ขอเอ่ยชื่อ 

น.ส.ลิลลี่ เหงียน กล่าวต่อว่า ตนขอย้ำชัดเจนตรงนี้ว่า ก่อนที่ท่านจะมาเจอตน และตนเจอท่าน ตนเลิกกับแฟนแล้วมาเจอท่าน และท่านก็ได้เลิกกับอดีตภรรยาแล้ว และเราไม่มีใคร เราคบกันด้วยใจที่บริสุทธิ์ ไม่มีผิดศีลธรรมใดๆ ทั้งสิ้น เราคบกันอย่างเปิดเผย และภาคภูมิใจ อยู่ด้วยกันหลายปี ตนก็เข้าบ้านท่าน และท่านก็เข้าบ้านตนแล้ว ที่สำคัญคือตนไม่เคยเป็นเมียน้อยของใคร เพราะตนเคยพูดแล้วว่าตนมีปมตอนเด็ก คือพ่อกับแม่แยกทางกัน คุณพ่อเอาคนใช้มาทำภรรยา และมีแม่เลี้ยงใจร้ายมากและแม่เลี้ยงก็ทำให้แม่ของตนเสียใจมาก และตนก็ไม่อยากเป็นแบบนั้น มันคือปมของตน และนี่คือกฎเหล็กของตน ตนไม่เคยเป็นเมียน้อยใคร 

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการพาดพิงถึงนาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น น.ส.ลิลลี่ เหงียน กล่าวว่า ตนกราบขออภัยจริงๆ ตนไม่มีเจตนาจริงๆ โดยส่วนตัวเคยเห็นข่าวท่าน แต่ไม่เคยเจอท่าน ไม่รู้จักท่านโดยส่วนตัว ตนต้องขอประทานอภัยครอบครัวของท่านทักษิณ ถ้าตนทำให้เดือดร้อน ตนขอโทษจริงๆ ตนเข้าใจความหมายผิด 

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการแฉว่า หากมีการไม่พอใจใครจะเอาปืนไปขู่เขา น.ส.ลิลลี่ เหงียน กล่าวว่า ที่บ้านมีปืนหลายกระบอกมาก แต่เป็นปืนของของลูกชาย ตนไม่เคยทำกิริยาแบบนั้น จะใส่ร้ายตนอะไรยังไงก็ได้ ตนยอมได้ จะว่าตนเป็นเมียน้อย ติดยาได้หมด ตนยอมรับได้ เพราะมันคือนิสัยของนาย เอิร์ก เลเดอเรอร์ อยู่แล้ว แต่ตนไม่อยากให้เขามาแตะต้องผู้มีพระคุณ ไม่ว่าจะเป็นอดีตสามี 1 คน และอดีตแฟน 3 คน 

“ตนก็พูดตรงนี้ด้วยความภาคภูมิใจว่า พวกเขาคือผู้มีพระคุณ และทำให้ตนเติบโตมาได้อย่างสวยงาม และการที่ตนคบกับอดีตประธานรัฐสภา เราคบกันด้วยใจที่บริสุทธิ์ และเหตุผลที่ตนเลิกกับป๊า เพราะตนทำตามกฎของป๊าไม่ได้ เลิกกันเพราะเงิน เพราะตนใช้จ่ายเงินเยอะ เพราะก่อนมาคบกับป๊า ตนก็มีอดีตสามีที่เลี้ยงดูเราด้วยเงิน พอมามีป๊า เป็นผู้ชายคนเดียวที่อุปถัมภ์ และให้เงินน้อยที่สุด เพราะพยายามสอนให้เราทำงาน ให้เราเรียนรู้ชีวิตของโลก แต่ตนก็ไม่สามารถทำตามข้อตกลงของป๊าได้เราก็เลยเลิกกันไป” 

น.ส.ลิลลี่ เหงียน กล่าวว่า ส่วนเรื่องการติดยานั้น ตนขอพูดความจริงว่าตนไม่เคยเล่นสารเสพติดอย่างอื่น แต่ตนเคยดูดกัญชากับอดีตสามี แต่เลิกนานแล้ว เพราะตอนอยู่กับอดีตสามี เพราะกัญชามีฟีลรัก 

เมื่อถามว่า จะดำเนินคดีกับ นาย เอิร์ก เลเดอเรอร์ ที่ออกมาแชร์เรื่องราวเหล่านี้หรือไม่ น.ส.ลิลลี่ เหงียน กล่าวว่า หลักฐานที่เขาโชว์เงินในคอนโดตอนนั้น นั่นคือเงินที่เขามาเอาเงินจากตน ตนยังไม่ได้เงินจากนาย เอิร์ก เลเดอเรอร์ สักบาทเดียว มีแค่ช่วงที่เขายืมเงิน และเขาเอาเงินมาคืนแล้วก็ยืมอีก เพื่อให้ตนตายใจ 

ด้านนาย แทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต สส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นาย เอิร์ก เลเดอเรอร์ เป็นผู้ต้องหา และเป็นจำเลยในศาลในคดีที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงประชาชน น.ส.ลิลลี่ เหงียน โดนไป 50 ล้านบาท เงินสดประมาณ 36.8ล้านบาท และไถ่ถอนคอนโดที่ให้ไปใช้ในการทำสัญญากู้ยืม และไปหลอกนักลงทุนอื่นๆ อีกที่ตนไปช่วย รวมแล้ว 500 กว่าล้านบาท จากนั้นนาย เอิร์ก เลเดอเรอร์ก็หลบหนีไปต่างประเทศหลายประเทศ จนตนได้ประสานกับตำรวจอินเตอร์โพล หรือตำรวจสากลที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และได้หมายจับมาเรียบร้อย เป็นหมายแดงหากเจอที่ไหนก็สามารถจับได้ที่นั่น 

2 ปีที่ผ่านมาตนไม่ได้ทิ้งเรื่องนี้ ยอมรับว่าไม่ง่าย แต่ตอนนี้รู้แล้วว่า นาย เอิร์ก เลเดอเรอร์ อยู่ประเทศไหน และรู้ที่อยู่ชัดเจนแล้ว เหลือเพียงแค่ว่าจะรีบประสานให้ตำรวจ  ทางนั้นดำเนินการ และดูว่ามีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ ถ้ามีตำรวจก็ไปจับกุมมาแล้วส่งตัวกลับมา เราอยากให้เขากลับมาสู้คดี หากยืนยันว่าตัวเองไม่ผิด เพราะจำเลยก็มักจะพูดแบบนี้ทุกครั้งว่าตัวเองบริสุทธิ์ ขอให้กลับมาสู้คดี และศาลเป็นคนตัดสินตามการพิจารณาพยานหลักฐาน ซึ่งเขาก็ยังมีสิทธิ์ในการต่อสู้อยู่ และผู้เสียหายก็มีหลักฐานจริงๆ ยืนยันว่าเราจะดำเนินคดี ยิ่งพูด ยิ่งขุดคุ้ยใส่ความหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณามันชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะจริงหรือว่าเท็จ ก็ไม่มีสิทธิ์ไปใส่ความคนอื่น และจะดำเนินคดีที่นาย เอิร์ก เลเดอเรอร์ ได้กระทำต่อ น.ส.ลิลลี่ เหงียน และทุกคนที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้จะต้องไปตรวจสอบว่าเขาทำผิดกี่กรรมกี่วาระ ยิ่งโพสต์อย่าคิดว่าอยู่ต่างประเทศแล้วจับไม่ได้ เพราะตนจะหาวิธีการจับตัวกลับมาให้ได้ 

น.ส.ลิลลี่ เหงียน กล่าวต่อว่า สำหรับคดีหมิ่นประมาทนั้น ตนขอบอกว่าตนรักลูกของตนมาก ถ้าตนไม่มีลูก และบอกว่าตนเป็นเมียน้อย ตนยังทำใจได้ แต่ตนมีลูก และลูกเป็นเด็กน่ารัก เป็นเด็กมีความรู้ ถ้าเกิดไปโรงเรียนไปข้างนอกมีเพื่อน หรือมีคนบอกว่าเป็นลูกเมียน้อยแล้วลูกของตนจะทำอย่างไร เพราะฉะนั้นตนรักลูกตนมาก และยังเคารพรักอดีตสามี และอดีตแฟนทั้ง 4 คน จะไม่ให้ใครหน้าไหนมาแตะต้องเพราะฉะนั้นตนจะฟ้องหมิ่นประมาทนาย เอิร์ก เลเดอเรอร์ อีกหนึ่งข้อหา 

“ตนต้องผ่านความทุกข์ทรมาน กินยาเป็นกำๆ เกือบฆ่าตัวตาย ต้องปลอบตัวเอง ร้องไห้ตลอดเวลาหลายเดือน มันแย่มาก ตนก็ยังรู้สึกว่า นาย เอิร์ก เลเดอเรอร์ จะสำนึก แต่มาวันนี้ความสำนึกไม่มีเลย” 

จากนั้น น.ส.ลิลลี่ เหงียน ได้กล่าวคำสาบานยืนยันว่าพูดความจริงทุกประการ

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส