รวบหลานอดีตนักการเมืองดังเมืองสี่แคว พรากผู้เยาว์เด็กสาววัย 13 ปี

26 ก.ค. 67

 

รวบหลานอดีตนักการเมืองดังเมืองสี่แคว พรากผู้เยาว์เด็กสาววัย 13 ปี ลวงมีสัมพันธ์สวาทในห้องน้ำวัด ก่อนตั้งท้อง แต่ฝ่ายชายท้าทายระบบ ปัดความรับผิดชอบ

วันที่ 26 ก.ค. 67 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ปิยะพร เรียนสุทธ์ สว.กก.4 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายกฤตพรต (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี 

ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครสวรรค์ ที่ 314/2567 ลงวันที่ 23 ก.ค.  67 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบสามปี ซึ่งมิใช่ภริยาของตนเองโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาจาร, พาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และกระทำเราเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” 

สถานที่จับกุม บริเวณริมถนนซอยสะพานโคกม่วง ต.โคกม่วง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา 

สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นหลานของอดีตนักการเมืองชื่อดังของ จ.นครสวรรค์ ได้สนิทสนมกับหญิงสาว ผู้เสียหายซึ่งขณะนั้นอายุ 13 ปี โดยทั้งสองได้ตกลงคบหากัน ต่อมาเมื่อช่วงประมาณกลางเดือน ส.ค. 63 ผู้ต้องหาได้ชักชวนผู้เสียหายให้เดินทางไปพบ และมีเพศสัมพันธ์กันภายห้องน้ำวัดแห่งหนึ่งใน ต.หนองตางู อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ 

ภายหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์กันแล้ว ยังได้มีการนัดมาหา และมีเพศสัมพันธ์กันที่บ้านของผู้เสียหายเรื่อยมา จนมาถึงช่วงประมาณเดือน มี.ค.65 ผู้เสียหายพบว่าตนเองตั้งท้อง จึงได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ผู้ปกครองฟัง ผู้ปกครองจึงได้พาผู้เสียหายมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความที่ สภ.บรรพตพิสัย แต่หลังจากที่ทางผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว จากนั้นจึงได้มีการติดต่อให้ทางผู้ต้องหามาพบเพื่อเจรจาตกลงกันในการดูแลเด็กในท้อง แต่ผู้ต้องหากลับท้าทายไม่เกรงกลัว และบอกกับผู้เสียหายว่าจะไม่รับผิดชอบ ทางผู้เสียหายเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นหลานชายของอดีตนักการเมืองชื่อดังใน จ.นครสวรรค์ จึงได้ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. จับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. ได้รับการประสานจาก สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีการจับกุมมาหลบซ่อนตัวในพื้นที่ภาคกลาง จึงได้ร่วมกันสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาได้มาอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.โคกม่วง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันวางแผนเข้าจับกุมและได้พบตัวผู้ต้องหาที่บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าแสดงตัวและทำการจับกุม จากนั้นนำตัวมาทำบันทึกจับกุมที่ สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา และนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.บรรพตพิสัย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส