ล้วงคองูเห่า รองสารวัตรสู้ชีวิตขับแท็กซี่หลังออกเวร ถูกหนุ่มหลอกขอเช่ารถ

26 ก.ค. 67

 

ล้วงคองูเห่า รองสารวัตรสู้ชีวิตขับแท็กซี่หลังออกเวร ถูกหนุ่มอีสานบ้านเดียวกัน หลอกขอเช่ารถหน้าโรงพัก บิดไม่จ่ายเงิน ไม่คืนรถ 

วันที่ 26 ก.ค.67 ร.ต.อ.มานพ ทาหนองบัว รอง สว.ป.สภ.บางกรวย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้รับการประสานจาก นายกันตณา หรือ เอ็ม อายุ 33 ปี คนรู้จักได้ขอให้ตนนำรถแท็กซี่ ยี่ห้อ โตโยต้า อัลติส สีส้ม-ขาว ทะเบียน ทห 9842 กทม.  มาปล่อยเช่า เนื่องจากตกงานไม่มีงานทำ โดยได้นัดพูดคุยเจรตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายในการเช่ารถแท็กซี่ ที่ลานจอดรถหน้าเสาธง สภ.บางกรวย แต่ไม่ได้ทำสัญญาเช่าแต่อย่างใด 

จากนั้นนายเอ็มก็ได้ขับรถแท็กซี่ออกจากโรงพักแล้วหายไปติดต่อไม่ได้ จนกระทั่งถึงตอนนี้ระยะเวลากว่า 1 เดือน ไม่จ่ายค่าเช่า และไม่ยอมนำรถมาคืน แจ้งความไว้แล้วที่ สภ.บางกรวย 

ร.ต.อ.มานพ เปิดเผยว่า ตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ สภ.บางกรวย อยู่งานป้องกันและปราบปราม แต่ตอนนี้มาทำหน้าที่สอบสวนชั่วคราว ซึ่งทุกวันหลังจากตนเลิกปฏิบัติหน้าที่ตำรวจ ตนมีอาชีพเสริมคือเป็นโชเฟอร์แท็กซี่ เนื่องจากรายได้หลักยังไม่สามารถเลี้ยงดูครอบครัว ลูกและภรรยาได้ ก็มีรายได้เพิ่มขึ้นมาวันละ 800-1,000 บาท ตนก็นำมาจุนเจือครอบครัว 

แต่เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา น้องเอ็มซึ่งเป็นน้องที่รู้จักกัน เคยติดต่อขอเช่ารถแท็กซี่กับตนเมื่อปี 66  ล่าสุดได้โทรมาบอกกับตนว่า ตกงานไม่มีเงิน ขอเช่ารถแท็กซี่ของตนไปขับเพื่อหารายได้  ตนจึงโทรนัดนายเอ็มคุย ที่หน้าลานจอดรถหน้าเสาธงของสภ.บางกรวย  มีการตกลงกันว่าผู้เช่าจะเช่ารถไปวันละ 600 บาท โดยมีข้อตกลงกันว่าทุกๆ สองวันจะต้องเอารถมาให้ตนตรวจสภาพ และจ่ายค่าเช่า 1,200 บาท ทุกครั้งที่เอามาตรวจสภาพ แต่ไม่มีการทำสัญญาเช่ากัน หลังจากพูดคุยตกลงกันเรียบร้อยนายเอ็มก็ขับรถออกจากหน้าโรงพักไป ก็คงไปขับรถส่งผู้โดยสารตามปกติ 

ร.ต.อ.มานพ กล่าวต่อว่า แต่พอหลังจากนั้นประมาณวันที่ 26-27 มิ.ย.67 นายเอ็มได้หายไป ไม่ติดต่อมาตามข้อตกลง ตนจึงได้โทรไปหาแต่ไม่มีการรับสาย ทักไม่ตอบ จนกระทั่งวันที่ 1 ก.ค.67 จู่ๆ นายเอ็มได้ทักมาขอเลขบัญชีแล้วโอนเงินมาให้จำนวน 4,200 บาท ซึ่งคิดเป็นค่าเช่าทั้งหมด 7 วัน ตามยอดแล้วก็ยังขาดอยู่ไม่ครบ จากนั้นนายเอ็มก็ได้หายไปจากตนและทักมาอีกในวันที่ 6 ก.ค.67 ว่าจะโอนเงินให้อีกจำนวน 4,200 บาท แต่หลังจากนั้นจนถึงตอนนี้ก็หายไป แล้วมีการอ้างว่าโทรศัพท์ไม่ค่อยดี 

ร.ต.อ.มานพ กล่าวอีกว่า ต่อมาตนจึงได้การแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวนก็ได้มีการรับเรื่องเรียบร้อยแล้ว ตามจริงแล้วตนไม่ได้ต้องการอยากเอาเรื่องอะไรแค่ต้องการจะได้รถคืน เพื่อตนจะได้นำไปขับหาเงินจุนเจือครอบครัวและเลี้ยงชีพ ตนต้องส่งค่างวดรถเดือนละ 19,000 บาท เดือนที่แล้วตนก็ไม่ได้ส่ง รถก็ไม่ได้ขับ หนำซ้ำรถยังหาไม่พบอีก ตอนนี้ตนรู้สึกเครียด กินไม่ได้นอนไม่หลับ เป็นเดือนแล้วน้ำหนักลดไป 5 กิโลกรัม โดยเริ่มแรกตนได้มีการรู้จักกับนายเอ็ม ได้เคยได้มาเช่ารถตนไปขับแล้วครั้งหนึ่งเมื่อกลางปี 66 ก็จ่ายเงินตนครบตามปกติ แล้วยังเป็นคนอีสานบ้านเดียวกันแท้ๆ ตนจึงไว้ใจและให้เช่ารอบนี้ต่อแบบไม่ต้องทำสัญญาอะไร นายเอ็มมาบอกกับตนว่า ตอนนี้ผมไม่มีงานทำไม่มีเงินกินข้าวอยากมาขอเช่ารถกับตนอีก ด้วยความสงสาร ตนจึงให้เช่าแต่ไม่คิดว่าจะหายไปแบบนี้ หลังจากที่หายไปก็ได้ติดตามจนพบรถของตัวเอง ล่าสุดวันที่ 21 ก.ค.67 เวลา 19.45 น. อยู่แถวอ้อมน้อย อ.กระทุ่งแบน จ.สมุทรสาคร นายเอ็มก็ยังขับรถรับส่งผู้โดยสารตามปกติ 

“ตอนนี้อยากได้รถคืน แต่ก็ยังไม่เข้าใจนายเอ็มที่ทำแบบนี้ เพราะว่าตอนมาเช่าได้มาเช่าที่หน้าโรงพักเลย ตอนนั้นเข้าเวรอยู่ โดยที่ผู้เช่าก็รู้ว่าตนเป็นตำรวจ ตอนพูดคุยกัน ตนใส่เครื่องแบบเต็มยศ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงกล้าทำขนาดนี้ ตนได้มีการไปตามตามปั๊ม NGV 6-7แห่ง ก็ไม่เจอจึงอยากให้สื่อช่วยติดตาม ลักษณะของรถเป็นรถแท็กซี่สีส้ม คาดขาวของสหกรณ์แท็กซี่กาญจนาภิเษก ทะเบียน ทห9842 กรุงเทพมหานคร และมีเบอร์โทรของตนอยู่ที่ด้านหลังรถและ ด้านข้างรถทั้งสองข้าง หมายเลขคือ 089-479-0518  ใครพบเบาะแสตนมีรางวัลนำจับให้ รถคันนี้เป็นรถทำมาหากินของตน อยู่กับตนมา 6 ปีแล้ว เหลือผ่อนอีกประมาณ 10 งวด เท่านั้นตอนนี้ไม่มีรายได้ที่จะเอามาผ่อนรถ  และสุดท้ายตนอยากฝากถึงนายเอ็มว่า ถ้าเอาไปก็เอามาคืนพี่ เพราะที่ทำอยู่อย่างนี้มันไม่ถูกต้อง ตนเห็นใจเห็นว่าเป็นคนอีสานเหมือนกัน ตนจึงได้ให้เช่าไป โปรดเห็นใจกันด้วย”

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส