ผู้เชี่ยวชาญ จับผิด บัสมรณะ วางถังแก๊ส-เดินท่อแก๊สผิดปกติ เปรียบผู้โดยสารนั่งอยู่บนเตาแก๊ส

ผู้เชี่ยวชาญ จับผิด บัสมรณะ วางถังแก๊ส-เดินท่อแก๊สผิดปกติ ไม่ได้มาตรฐาน เปรียบเหมือนทุกคนนั่งอยู่บนเตาแก๊ส วอนเข้มงวดเรื่องรถยนต์มากขึ้น 

จากเหตุการณ์ รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยา จ.อุทัยธานี เกิดเหตุไฟลุกไหม้ บริเวณหน้าเซียร์รังสิต ถนนวิภาวดี หน้าอนุสรณ์สถาน เหตุเกิดช่วงเที่ยงของวันนี้ พบมีครูและนักเรียนเสียชีวิตหลายราย และบาดเจ็บจำนวนมาก ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ 

วันที่ 1 ต.ค. 67 ทีมข่าว “อมรินทร์ทีวี” สัมภาษณ์พิเศษ “ต่อ สุธี” ผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถและแก๊สถึงเรื่องดังกล่าวว่า จากกรณีรถบัสไฟไหม้ ถ้านับจากอายุรถประมาณ 15-16 ปีแล้ว ย้อนกลับไปถึงเทคโนโลยีการติดตั้งแก๊สสมัยนั้น เป็นแก๊ส NGV โดยเครื่องรถยนต์ดีเซลของรถบัส จะมีประเภทการติดตั้งอยู่ 2 แบบ คือ 1) NGV ร่วม ดีเซล 2)การแปลงเครื่องยนต์ดีเซลให้เป็นเบนซิน แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบว่ารถบัสใช้วิธีไหน แต่รถมีการตรวจสภาพรถมาแล้ว แสดงว่าต้องได้รับการรับรองว่าการติดตั้งแก๊สถูกต้องหมดแล้ว

แต่สิ่งที่ตนสงสัยและสะดุดสายตา คือการวางถังแก๊ส และการเดินท่อแก๊ส ปกติจะต้องวางหันหัวแก๊สไปในทางเดียวกัน แต่ในภาพที่เห็นไม่ใช่ มีถังบนที่หันไปอีกด้าน ทำให้การเดินท่อค่อนข้างไกล และวิธีการเดินท่อดูแล้วไม่ได้มาตรฐาน ปกติท่อแต่ละเส้นต้องมีการขดเป็นวงกลม เพื่อให้มีระยะยืดหยุ่นได้ แต่ที่เห็นมีความบิดเบี้ยว และจากลักษณะการชน ไม่ได้เกิดจากแรงกระแทรกแน่นอนที่ทำให้บิดเบี้ยว ที่สำคัญอายุการใช้งาน 15-16 ปีแล้ว มีการตรวจสภาพรถละเอียดแค่ไหน ตรวจไปถึงตามข้อต่อท่อแก๊สไหม เพราะจุดนั้นเป็นจุดหลักที่เกิดการรั่วซึม 

ผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถและแก๊ส กล่าวต่อว่า ถามว่าเกิดจากสาเหตุการระเหยของแก๊สไหม จริงๆ แก๊ส NGV เป็นแก๊สที่ได้รับประกันว่าปลอดภัย เพราะเวลารั่วซึมจะระเหย แต่การระเหยจะระเหยขึ้นทางอากาศ และตำแหน่งการติดตั้งแก๊สของรสบัสคันนี้เป็นบริเวณห้องเก็บของ ดังนั้นเวลาแก๊สจะระเหย จะระเหยขึ้นข้างบนไปถึงห้องโดยสารแน่นอน ถ้าจำลองเป็นเหตุการณ์ลักษณะนี้เหมือนเป็นการที่เราจุดเตาแก๊สไว้ และเอาวัสดุโฟมต่างๆไปใส่ไฟ เหมือนเป็นการช่วยกระตุ้นเชื้อเพลิง ทุกคนเหมือนนั่งอยู่บนเตาแก๊ส ณ ตอนนั้น ส่วนกรณีที่สงสัยว่าแก๊สเข้าไปตามท่อแอร์หรือเปล่า เป็นไปได้ยากมากสำหรับรถบัส เพราะแอร์ไม่ได้ดูดอากาศจากข้างล่าง 

ส่วนวิธีป้องกันตัวกรณีเกิดไฟไหม้รถแบบนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ประตูหนีไฟ แต่เสียดายที่เคสนี้เปิดไม่ได้ เพราะโดยสัญชาตญาณของคน ไม่มีทางวิ่งลงไปหาไฟ ทุกคนจะพยายามหนีไป จึงต้องย้อนไปถึงการตรวจสอบรถว่ามีความพร้อมมากแค่ไหน สำหรับการนำมาใช้งาน โดยการย้อนเริ่มจากการประกอบโครงสร้างรถ เพราะประเทศเรามีโรงงานประกอบรถเยอะมาก มันสามารถทำเองได้ควรมีมาตราฐานในการประกอบ ตนไม่ได้ว่าประเทศไทยไม่มีมาตราฐาน แต่อยากให้ช่วยตรวจสอบการประกอบ เช่นการแต่งเสริม อุปกรณ์อื่นๆนอกจากของเดิม และ ณ วันนี้ตรวจสภาพตรวจครบดีหรือยัง ตรวจถึงพัสดุที่ทำมาใช้ติดไฟง่ายหรือเปล่า เป็นเชื้อเพลิงดีแค่ไหน ไม่ใช่แค่ตัวระเบบเบรก ฯลฯ 

ส่วนใบประวัติรถถึงจะมีข้อมูลรายละเอียดจริง แต่พอถึงเวลาจริงบอกได้ไม่ถึง 20% ว่ารถคันนี้ทำถูกต้องไหม อย่างที่รู้กันว่าสมัยนี้ไม่ต้องตรวจก็สามารถ ตรวจสภาพผ่านได้แล้ว รถอยู่ตามท้องถนนเยอะมาก รถหลายคันที่สภาพไม่น่าจะจดทะเบียนได้ก็วิ่งกันเต็มถนน สุดท้ายสำหรับเรื่องนี้ ตนอยากให้หันมาเข้มงวดเรื่องรถยนต์มากขึ้น ตนไม่ได้โทษว่าเด็กไม่ควรไปทัศนศึกษา จริงๆสิ่งเหล่านี้มีประโยชน์ แต่เราต้องช่วยกันแก้ปัญหาในเรื่องของรถยนต์ รถบัสต่างๆมากกว่า ก่อนที่จะนำมาใช้ และก่อนจะประดับอะไรเพิ่มเติมเข้าไป ต้องคำนึงก่อนว่าจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาหรือไม่