บอสดิไอคอน ทยอยพบตำรวจ ยังออกหมายจับ ไม่แจ้งข้อหา ไม่อายัดบัญชี

12 ต.ค. 67

 

ตำรวจแถลง คดีดิไอคอน 3 วันมีเหยื่อแจ้งความ 488 ราย เสียหาย 178 ล้าน ขณะที่ บอสดิไอคอน ทยอยพบตำรวจ ยังออกหมายจับ ไม่แจ้งข้อหา ไม่อายัดบัญชี 

เมื่อเวลา 16.18 น. วันที่ 12 ต.ค. 67 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงความคืบหน้าการดำเนินคดี บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ปว่า วันนี้ (12 ต.ค.) มีประชาชนมาเดินทางแจ้งความที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเพิ่มอีก จำนวน 235 ราย ทำให้ยอดรวมในรอบ 3 วันที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. ถึงจนปัจจุบันมียอดรวมผู้เสียหายรวมทั้งสิ้น 488 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 178 ล้านบาท 

ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ขออนุมัติหมายค้นต่อศาลอาญาดำเนินการตรวจค้นบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป และบริษัทในเครือ รวมทั้งโกดังสินค้าในพื้นที่ กทม.และ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี รวมทั้งทั้งสิ้น 9 จุด ในขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจค้นและทราบว่า นาย วรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เจ้าของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป (The iCon Group) ได้เดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค 

ทั้งนี้ประชาชนที่จะเดินทางมาแจ้งความ กรณีที่อยู่ต่างจังหวัด สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีวิทยุสั่งการด่วนที่สุดให้พนักงานสอบสวนทุกท้องที่ที่ท่านมีภูมิลำเนา หรือสะดวก ไม่จำเป็นต้องเข้ามาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สามารถเดินทางไปแจ้งความได้ พร้อมกับส่งประเด็นการสอบสวนให้พนักงานสอบสวนทุกพื้นที่แล้ว ยืนยันทุกคำให้การของผู้เสียหายจะถูกส่งกลับมารวบรวมที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่ออำนวยความสะดวกต่อประชาชน ขณะที่กทม. ได้จัดพนักงานสอบสวนประมาณ 70 นายดูแลประชาชนในแต่ละวันด้วย 

เมื่อถามว่า การตรวจค้นวันนี้เจออะไรหรือไม่ พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า จากการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. เป็นต้นมา สิ่งสำคัญที่สุดที่เราได้คือพยานบุคคล แต่คำให้การในส่วนนี้บางส่วนต้องมีรายละเอียดที่ต้องเชื่อมโยง และหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เช่น พยานวัตถุกับพยานเอกสาร เพราะคำให้การบางราย โดยเฉพาะแม่ทีมต่างๆ หลายท่านที่มารู้จักแต่เพียงชื่อเล่น ซึ่งเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะต้องแสวงหา และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์การกระทำความผิดให้ครบถ้วนทุกมิติ 

ทั้งนี้เมื่อวานนี้ ทาง น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนักนายกรัฐมนตรีได้เชิญสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ปปง. ทุกหน่วยงานเข้าไปหารือว่าจะทำอย่างไรให้คดีดังกล่าวมีความรวดเร็ว เพื่อดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด และในวันนี้เจ้าหน้าที่ของ สคบ.และดีเอสไอก็มาร่วมกับเรา ก่อนหน้านี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังที่ดูแลเรื่องกฎหมายการกู้ยืมเงิน และฉ้อโกงประชาชนก็มาให้ข้อเสนอแนะและให้ข้อคิดเห็นในฐานะที่เป็นหน่วยงานรัฐโดยตรงในการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งก็มีข้อคิดเห็นที่เสนอแนะต่อทีมพนักงานสอบสวนด้วย 

เมื่อถามว่า ในฐานะพนักงานสอบสวน ถือว่าหลักฐานเพียงพอต่อการออกหมายจับแล้วหรือยัง พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า ตอนนี้เรากำลังรวบรวมอยู่ และทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ ส่วนการตรวจค้นโกดังนั้นก็พบสินค้าบางส่วนแ ละตอนนี้เรากำลังดูดข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ด้วย ซึ่งเป็นเพราะข้อมูลสำคัญ ตรงนี้อาจจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีพร้อมทั้งมีผู้เชี่ยวชาญดูในส่วนงบดุลบริษัทกับตัวสินค้า ส่วนที่บอกเป็นสต๊อกลมนั้นเราต้องไปดูยอดรายการสินค้ามีจำนวนเท่าไหร่ และบัญชีที่เขาแสดงไว้มีเท่าไหร่ ต้องดูพยานหลักฐานที่ตรวจค้น ซึ่งวันนี้คาดว่าจะมีประโยชน์อย่างยิ่ง เพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย และวันนี้เรามีการแยกประเภทข้อหาด้วย เพราะบางคนเสียเงินไปไม่เท่ากัน ดังนั้นเราก็ต้องมาพิจารณาดูในส่วนนี้ 

ส่วนการอายัดบัญชีนั้น พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า เราได้ดำเนินการเร่งรัดตั้งแต่วันแรกและส่งหนังสือไปให้ ปปง. ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา และรัฐมนตรีก็พยายามเร่งรัดในส่วนนี้อยู่ ซึ่งทาง ปปง.ได้ส่งทีมทำงานมาร่วมกับเรา เพราะรายละเอียดและข้อเท็จจริงต้องได้จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปด้วย ก็ต้องมาพูดคุยกับพนักงานสอบสวนในส่วนนี้ ส่วนความคืบหน้านั้นต้องถามทาง ปปง. 

เมื่อถามว่าตัวละครสำคัญทยอยพบพนักงานสอบสวน ยังมีความจำเป็นในการออกหมายจับใช่หรือไม่ พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า ณ วันนี้อย่างที่ทราบ เขายังไม่มีหมายจับ เราก็ต้องดำเนินการตาม ป.วิอาญา มาตรา 134 

เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าเป็นนกรู้ก่อนที่ตำรวจออกหมายจับ พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน การดำเนินการของเราตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมาในเรื่องการฉ้อโกงและแชร์ลูกโซ่ เอกสารมีเป็นจำนวนมากส่วน ในวันนี้ที่เขามาพบตำรวจเพื่อสอลปากคำก็ในฐานะผู้ต้องหา เพราะบางคนถูกกล่าวหาไปแล้ว เช่นนายพอล ในส่วนข้อหาต้องดำเนินการตาม ป.วิอาญา มาตรา 134  

เมื่อถาม นายพอลมาวันนี้ ตำรวจจะแจ้งข้อหาอะไร พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า เราต้องดำเนินการตามป.วิอาญา มาตรา 134  คือแจ้งการกระทำที่ผู้กล่าวหากล่าวหาตัวนายพอล โดยมีการร้องทุกข์กล่าวหาเกี่ยวกับความผิดการกู้ยืมเงิน และฉ้อโกงประชาชน โดยมีประชาชนได้รับความเสียหาย และจ่ายเงินไปบางรายที่มีแม่ทีม แต่รายละเอียดบางอย่างต้องขอสงวนไว้เพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวน และการแยกประเภทและพิจารณาร่วมกัน หากมีความคืบหน้าตำรวจจะแจ้งให้ทราบต่อไป 

เมื่อถามว่า สรุปวันนี้นายพอลจะต้องถูกดำเนินคดีหรือไม่ พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า  วันนี้นายพอลถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด เขาก็เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเองโดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีการออกหมายจับ หรือหมายเรียกใดๆ จากนั้นจึงแจ้งการกระทำที่ฝ่ายผู้เสียหายแจ้งให้เขาทราบ วันนี้จึงยังไม่มีการควบคุมตัว เพราะเรายังไม่ได้ออกหมายจับ แม้ว่านายพอลถือเป็นผู้ต้องหาแล้ว แต่ไม่มีการออกหมายจับ 

เมื่อถามว่า เมื่อนายพอลเป็นผู้ต้องหา แต่ไม่มีการจับกุม ไม่กลัวเขาหนีหรืออย่างไร พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า ยังไม่มีพฤติการณ์ที่นำไปสู่จุดนั้น เมื่อถามย้ำว่า หากมีการหลบหนี เรามีมาตรการป้องกันหรือไม่ พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า เราต้องดำเนินการตามกรอบกฏหมาย ในเรื่องของทรัพย์แม้ยังไม่มีการยึด แต่เรามีการสืบทรัพย์ไปแล้วและมีขั้นตอนเก็บข้อมูลและดำเนินการ ผบ.ตร.กำชับให้ดำเนินการให้ครบถ้วน รอบคอบ โดยเร็ว และตรงไปตรงมา ณ ตอนนี้เขายังไม่มีหมายจับ ยืนยันว่าเราต้องทำตามกรอบกฎหมายก่อน การที่เขาชิงมาพบตำรวจก่อนก็ถือเป็นสิทธิ์ของเขา คดีนี้ไม่ใช่คดีแรกที่ปฏิบัติในลักษณะนี้ เรายืนยันความเท่าเทียมและตรงไปตรงมา 

เมื่อถามว่า เหตุใดเลขนำหน้าบัตรประชาชนของนายพอลจึงเป็นเลข 5 ขึ้นนำหน้า นายพอลเป็นคนไทยหรือไม่ พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า กระบวนการตรงนี้อาจจะต้องมีการประสานงานกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อที่จะดูในรายละเอียดว่าที่มาของการได้บัตรประชาชนนี้เป็นอย่างไร เมื่อถามว่า เหตุผลที่ขอใช้เลข 5 เพราะอะไร พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า ขอให้ไปถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเราไม่ได้ดูแลเรื่องนี้โดยตรง เมื่อถามย้ำว่า เป็นคนสองสัญชาติหรือไม่ พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า ตำรวจขอไม่ออกความเห็น ซึ่งเป็นประเด็นที่เราต้องดำเนินการตรวจสอบต่อไป ถ้ามีความชัดเจนก็จะแจ้งให้ทราบต่อไป

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส