คนบันเทิง-คนข่าวเล่าประสบการณ์ เตือนบอสดาราสิ่งไหนต้องระวังในรั้วเรือนจำ

คนบันเทิงเล่าประสบการณ์-เตือนชีวิตในรั้วเรือนจำ หลัง มิน พีชญา กันต์ กันตถาวร และ แซม ยุรนันท์ ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว

ยังคงถูกจับตาอย่างต่อเนื่อง สำหรับคดีดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่งมีคนบันเทิงระดับท็อปของวงการเกี่ยวพัน ไม่ว่าจะเป็น มิน พีชญา วัฒนามนตรี , แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี  และ กันต์ กันตถาวร ซึ่งเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญารัชดาพิเคราะห์เหตุแห่งคดี มีการทำเป็นขบวนการและมีการแบ่งหน้าที่กันทำ นับเป็นเรื่องร้ายแรงกระทบเป็นวงกว้าง ประกอบกับคำคัดค้านของพนักงานสอบสวนและผู้เสียหาย เกรงว่าจะมีการหลบหนีหรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรืออาจจะกระทำการใดกระทบกระเทือนต่อการแสวงหาข้อเท็จจริงในคดี จึงยกคำร้องการปล่อยตัวชั่วคราว เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว

โดยทางด้าน กันต์ กันตถาวร และ แซม ยุรนันท์ ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ด้าน มีน พีชญา ถูกนำตัวเข้าทัณฑสถานหญิงกลาง ทางเรือนจำได้นำตัวทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการกักโรคโควิด-19 ระยะเวลา 5 วัน จะสิ้นสุดการกักโรคในวันที่ 22 ต.ค. นี้ และเปิดให้ญาติเข้าเยี่ยมได้นั้น

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เคยมีคนดังในวงการบันเทิงหลายคนต้องโทษจำคุกด้วยคดีที่แตกต่างกันไปตามความผิดที่ได้ก่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติด ฟอกเงิน ฯลฯ และปัจจุบันได้พ้นโทษออกมาใช้ชีวิตโดยปกติสุข ก่อนจะบอกเล่าถึงชีวิตหลังรั้วเรือนจำที่ตนเองเคยเข้าไปอยู่ หลังเกิดกระแสจากคดีดิไอค่อนและมีคนบันเทิงเกี่ยวข้องด้วย

ยู่ยี่ อลิสา : ช็อก..ร่างกายปรับตัวได้ แต่สภาพจิตใจปรับยากมาก

ยู่ยี่ อลิสา อินทุสมิต อดีตนักร้องและนางแบบชื่อดัง เคยต้องโทษคดีพัวพันยาเสพติดประเภทโคเคนครึ่งกรัม โดนตัดสินโทษจำคุก 15 ปี 3 เดือน ก่อนจะได้ลดโทษเหลือ 6 ปีครึ่ง 

"นาทีที่เดินเข้าเรือนจำชีวิตของยี่เปลี่ยนเลย ถูกแยกจากโลกภายนอกไปแล้ว ไม่มีทางออกมาได้ เคว้ง ตั้งแต่วินาทีลงไปรอรถเรือนจำมารับตัว ของทุกอย่างที่มีในตัวเราถูกยึดไปหมดเลย กระเป๋าสตางค์ มือถือ มีญาติมาหาก็ต้องตะโกนคุยกัน ยี่ไม่ได้ร้องแต่ยี่ช็อกมากกว่า พอขึ้นรถไปที่เรือนจำ จำได้ว่าเขาพาไปที่สถานพยาบาลก่อน ไปถ่ายรูปหน้า-หลัง ตรวจร่างกายทั่วไป ให้ทานข้าว แล้วถึงจะถูกพาตัวไปแดนแรกรับ เพราะตอนนั้นที่เข้าไปนั้นยังไม่มีโควิด เข้าไปแดนแรกรับคนแน่นมาก เพราะมีนักโทษเยอะ มีทั้งคนที่รอระหว่างตัดสินคดี ตอนนั้นก็ยังอยู่ในสภาวะช็อกอยู่ เวลานอนก็ต้องเบียดกัน พลิกตัวไม่ได้ เพราะคนเยอะ ที่ตรงนั้นจะมีแม่ห้อง ที่คอยให้พื้นที่ เราก็จะนอนติดๆ กันแทบจะพลิกตัวไม่ได้เลย

ใช้ระยะเวลาปรับตัวนานมากค่ะ หมายถึงปรับข้างในจิตใจของเราอ่ะนาน แต่สภาพการอยู่ไม่นาน เพราะยี่ว่ามนุษย์ก็คือสัตว์อย่างหนึ่งที่พอเราเจออะไรเฉพาะหน้า เราปรับตัวได้เราปรับตัวง่าย มีอะไรก็กิน อยู่ยังไงก็อยู่ได้ แต่สภาพจิตใจมันแย่มันปรับไม่ได้"

ยี่รู้สึกว่ามันทรมาณเพราะรู้สึกว่าเราถูกแยกจากลูก ตอนนั้นลูกคนเล็ก 2 ขวบครึ่งค่ะ แล้วเรายอมรับไม่ได้ในคำตัดสิน คือโทษของที่มีกับโทษที่ได้รับมันไม่เมคเซนต์ว่าทำไมมันเยอะขนาดนั้น มันไม่ยุติธรรมสำหรับเรา เพราะเรารู้สึกว่าคนอื่นที่เขาพกกันยาน้อย โทษเขาก็ไม่เท่าไร แต่มันเป็นกฎหมาย

อยู่ข้างในเขาก็มีให้หมดนะคะ ไม่ว่าจะเป็น สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ซึ่งเราก็ใช้แค่นั้นแหละ อาหารก็มีให้ทาน นอนก็ตามสภาพ ห้องแอร์ไม่มีจริงค่ะ นอนพัดลม แม้จะเป็นโรงพยาบาลที่อยู่ข้างในก็เป็นพัดลม

มันทุกข์ทรมานทั้งคนที่อยู่ข้างในทั้งคนที่มาเยี่ยม จิตแพทย์ก็เคยบอกว่าถ้าเป็นลักษณะนี้ต่อเนื่อง แนะนำว่าไม่ให้มาเยี่ยมดีกว่า คือให้ลืมคนข้างนอกไปเลย เพราะโทษเราสูงแล้วเขากลัวเราอยู่ไม่ได้ แต่ว่าเราก็ทำไม่ได้อีก เราไม่สามารถจะตัดขาดลูก คือเราตัดขาดเขาและเขาล่ะ จะต้องตัดขาดแม่ มันก็ไม่แฟร์

ภาวะซึมเศร้ามันเป็นอยู่พักใหญ่เหมือนกันนะคะ มันเป็นเรื่องราวที่เราต้องค่อยๆ ทำความคุ้นเคย ในลักษณะการฟื้นฟูตัวเอง ให้กลับมาให้รู้ว่าปัจจุบันคืออะไร แล้วความรู้สึกมันแปลกไป ไม่รู้โลกเป็นยังไง คนจะยอบรับเราได้มากแค่ไหน แต่ยี่ก็คิดว่าตัวเองเป็นคนที่มีจิตใจดีแล้วก็ทำสิ่งที่ถูกต้องมาโดยตลอด ถึงจะมีผิดพลาดไป ก็ทำจากตรงนั้นแล้วก็มีคนรอบข้างที่รักเรา ยี่ไม่รู้ว่าความเครียดแต่ละคนจะขนาดไหน แต่ของยี่เป็นเยอะเพราะโทษเราค่อนข้างสูง ตอนยี่เข้าไปยี่เจอคนมากมายมาก มาจากหลายคดี มาจากทำจริงบ้าง ไม่ได้ทำจริงบ้าง ขายจริง เสพเฉยๆ ซึ่งพวกเรามีคุยกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่ยี่จะเป็นคนฟังแล้วก็จะร้องไห้ เพราะตอนนั้นยี่ร้องไห้ไม่หยุดเลย เดี๋ยวน้ำตาไหล มันพูดอะไรไม่ออกได้แต่ร้องไห้

 

เบนซ์ เรซซิ่ง : ไม่มีนักโทษวีไอพี ทันทีที่คุณก้าวขาเข้าไปในเรือนจำ การปฏิบัติตัวทุกอย่างเหมือนนักโทษแล้ว

เบนซ์ เรซซิ่ง หรือ อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช อดีตสามีแพท ณปภา ตันตระกูล นักแสดงและพิธีกรสาวชื่อดัง เคยถูกตำรวจบุกจับในข้อหาฟอกเงิน และเข้าเรือนจำนานกว่า 4 ปีเศษ ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2566

ผู้ต้องขังระหว่างสู้คดีกับนักโทษที่ตัดสินเด็ดขาดแล้ว จริงๆ แล้วในกฎระเบียบเขามีการวางมาตรการที่แยกจากกัน แต่ในทางปฏิบัติจริงยังทำไม่ได้ วันนี้คุณก้าวขาเข้าไปในเรือนจำ การปฏิบัติตัวทุกอย่างเหมือนนักโทษแล้วทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ผิดเลย สิ่งนี้ผมมองว่ามันก็ยังไม่ได้ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ เราควรจะให้สิทธิ์เขาด้วยในการพบญาติ พบทนายความ หรือเตรียมหาพยานหลักฐานก็ดี แต่ในวันนี้พอคุณก้าวเข้าไปแล้ว คุณเป็นเหมือนนักโทษคนหนึ่งแล้ว ยังไงสังคมตัดสินคุณไปแล้วว่าคุณผิด

มาตรการในการกักตัว 5 วัน เพื่อป้องกันโควิด หลังจาก 5 วันนี้ก็อาจจะไปเข้าสู่แดนแรกรับ แล้วก็สอบประวัติ จำแนกไปอยู่ตามแดนที่เหมาะสม ซึ่งแรกๆ เข้าไปผมเชื่อว่าคนก็ลุ้นว่าจะประกันตัวแล้ว ไม่มีใครคิดว่าจะต้องอยู่นานหรอก แต่มันก็เป็นความเครียดความทุกข์อยู่แล้ว กินไม่ได้นอนไม่หลับ มันต้องใช้เวลาปรับตัวเยอะเลย

โดยปกติแล้วทางราชทัณฑ์จะมีอาหารให้ผู้ต้องขังทุกวัน วันละ 3 มื้ออยู่แล้ว ส่วนคุณภาพจะให้ดีเลยมันก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ด้วยงบประมาณด้วย ผู้ต้องขังที่เยอะด้วย ถามว่ามันกินได้ไหมมันก็พอกินได้ พอประทังชีวิตไปได้ แต่ทีนี้หากบางคนที่เขามีญาติหรือพอมีฐานะมีเงิน เขาสามารถให้ญาติไปฝากเงินเข้าในบัญชีของเขาได้ บัญชีผู้ต้องขังนะครับ จะสามารถเบิกจ่ายใช้ซื้อของใช้อุปโภคบริโภคได้วันละ 500 คุณจะซื้อสบู่มาอาบน้ำ แชมพู จะซื้อข้าวกะเพราที่กองวิชาชีพเขามีขาย สามารถทำได้ ส่วนข้าวแดงสมัยนี้ไม่มีแล้วครับ มีเป็นข้าวขาวอะไรสักอย่างที่เป็นข้าวเกรดกลางๆ แต่อาหารก็จะมีผลัดเปลี่ยนไป มีพะโล้บ้าง ผัดผัก คือพอทานได้ แต่ไม่ได้ดี

ที่นอนบางคนอาจจะคิดว่าเป็นคนดังเป็นดาราจะเป็นผู้ต้องขังวีไอพีหรือเปล่าเข้าไป จริงๆ เวลาคดีไหนที่สื่อให้ความสนใจ เขาจะเรียกว่าเป็นผู้ต้องขังแบรนด์เนม เข้าไปราชทัณฑ์จะต้องกำชับเป็นพิเศษว่าคดีนี้สื่อให้ความสนใจนะ แต่ไม่ได้แปลว่าเขาจะต้องดูแลถึงขั้นเป็นวีไอพี เขาแค่ดูว่าคดีนี้อาจจะกลัวการโดนลอบทำร้ายหรือเปล่า สิทธิ์ในการดูแลปฐมพยาบาลในการเจ็บไข้ได้ป่วย คุณก็ต้องดูแลเขาเพราะถ้าวันนึงมันมีปัญหาขึ้นมา เขาก็ไม่ได้อยากมาเดือดร้อนตรงนี้ด้วย แต่ในการนอนการกินอยู่บนพื้นฐานเดียวกัน

การนอนก็จะมีผ้าสามผืน ผืนนึงอาจจะปูพื้นเพื่อนอน ผืนนึงมาพับเป็นหมอนอีกผืนนึงห่ม มันก็อยู่ในหลักเกณฑ์เดียวกัน นอนรวมครับ มันไม่เหมือนในหนังที่ห้องนึงมี 2 คน เตียงบน-ล่างไม่ใช่ ในเรือนนอนก็จะมีห้องใหญ่ๆ อาจจะ 50 ตารางเมตร นอนกัน 40-60 คน มีบล็อกเข้าห้องน้ำหนึ่งบล็อกที่มันไม่ได้มีอะไรปิดกั้น เพื่อป้องกันจะมีการทำร้ายอะไรกันหรือเปล่า ห้องน้ำอาบรวม เป็นบ่อน้ำยาวๆ เหมือนค่ายทหาร ตรงนี้ต้องอาบรวม มีเวลาให้เช้ากับเย็น แต่ทางของผู้หญิงผมได้ยินมาว่าจำนวนผู้ต้องขังหญิงมีจำนวนเยอะมาก แล้วก็ในกรุงเทพจะมีที่ขังเดียวคือทัณฑสถานหญิงกลาง เคยได้ยินแต่ไม่ทราบข้อเท็จจริง เขาบอกว่าอาบน้ำจำกัดแค่ 10 ขัน เพราะคนจำนวนเยอะน้ำไม่พอจริงๆ แต่ผมไม่แน่ใจว่าตอนนี้เขามีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหรือยัง

เหมือนมันตกสวรรค์อ่ะเนอะ เพราะผมเชื่อว่าไม่มีใครคิดหรอกว่าวันหนึ่งจะต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ มันค่อนข้างจะเกิดขึ้นไว มันยากในการปรับตัวอยู่แล้ว อยู่ดีๆ มันวูบเดียวเลย คุณต้องไปอยู่ในห้องขัง อยู่ในสถานที่ที่มีรั้วรอบขอบชิด มีลวดหนาม อยู่ใต้กฎระเบียบเดียวกัน ซึ่งมันยากที่จะปรับตัวมากๆ ครับ ต้องมีใจที่เข้มแข็งมากจริงๆ แต่มันต้องอยู่ให้ได้ เพราะถ้าอยู่ไม่ได้เขาก็ไม่ให้เราออกมาอยู่ดี ดังนั้นต้องอยู่ให้ ต้องได้เวลาปรับตัวครับ

จอยซ์ ไทรอัมพ์ส คิง ด้อม : เล่าชีวิตที่เคยอยู่ในเรือนจำ

เป็นอีกหนึ่งคนที่เคยสูญเสียอิสรภาพและเข้าไปอยู่ในเรือนจำ เพราะต้องโทษยาเสพติด นานถึง 8 ปี 10 เดือน ซึ่งปัจจุบันได้รับการปล่อยตัวมา 11 ปีแล้ว สำหรับ จอยซ์ กรภัสสรณ์ รัตนเมธานนท์ หรือจอยซ์ ไทรอัมพ์ส คิง ด้อม ซึ่งเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความในอินสตาแกรม joyce_tk เล่าถึงชีวิตที่เคยอยู่ในเรือนจำให้ฟังว่า

"คนที่เป็นอิสระมากๆ ไม่เคยอยู่ในกรอบในกฏอะไร จะเป็นคนที่ปรับตัวยากที่สุด

สิ่งที่มันเกิดมันคือผลของการกระทำที่แม้จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม เรื่องที่ไม่คาดคิดมันเกิดขึ้นได้เสมอกับคนทุกแบบ เพราะกับดักแห่งวัย ยุคสมัยมันมีตลอดเวลา คนมีความโลภความรัก ความอยาก ความสนุก ถึงเวลาจะโทษใครก็โทษใครไม่ลง กว่าที่ใครสักคนจะคิดได้ ล้วนต้องใช้เวลาของตัวเอง การใช้ชีวิตแบบไม่มีจุดหมาย ปลายทางในสถานการณ์นั้น สักวันจะตกผลึกได้เอง ระหว่างทางหาหนังสืออ่านสักเล่ม และจะค้นพบว่า มิตรแท้คือใจเรา กับหนังสือดีๆสักเล่ม"

พร้อมแคปชั่นระบุว่า "ขอบคุณหนังสือทุกเล่มที่ทำให้กาลครั้งนั้นมันผ่านมาได้ #วันนี้มีเรื่องเข้ามาในหัวเลยอยากเขียนขึ้นมาเฉยๆ ตอนนั้นอ่าน #เก็นเจ้าหนูสู้ชีวิต สนุกมากร้องไห้ #รหัสลับดาวินชี่ ตื่นเต้นระทึกใจสุด #พระคัมภีร์ไบเบิ้ลก็สนุก ทำให้มีแนวทางบางมุมในการดำเนินชีวิต และ อื่นๆอีกหลายเล่ม

หนังสือทุกเล่มคือสนุกมีทั้งหัวเราะและร้องไห้ด้วยกัน จริงๆเรื่องพวกนี้มันผ่านมานานและต้องการมูฟออนแล้ว จนกระทั่ง .. มีบางอย่างมาแตะให้ต้องระบายใจออกมา ถ้าข้อความนี้ไปรบกวนใคร ต้องขออภัยและอัลฟอลโล่กันได้เลยน้า  ใครไม่เก๊ต ข้ามได้เลย ขอระบาย แป๊ปเดียววว เดี๋ยวหาย #J36624 #จอยซ์เขียนเอง #11ปีแห่งอิสรภาพใครก็อย่าชวนทำอะไรให้กลับไปที่เดิม"

สรยุทธ สุทัศนะจินดา : เตือน 18 บอสให้ระวังตัวจะโดนหลอก

สรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ระหว่างที่เล่าข่าวบอสดาราเข้าเรือนจำ ในช่วงกรรมกรข่าว คุยนอกจอ 22 ตุลาคม 2567 ในฐานะคนที่เคยเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ก็ได้ออกปากเตือนสิ่งที่บรรดาบอสทั้งหลายต้องระวังขณะอยู่ในเรือนจำ

"เหล่าบอสทั้งหลายผมจะบอกนะ ในเรือนจำน่ะเยอะเลย คนที่จะไปหลอกพวกคุณอีกทีหนึ่ง ที่เรือนจำเวลาใครจะไปเยี่ยม เขาจะติดป้ายเลย ในเรือนจำก็จะบอกอย่าไปเชื่อใครที่จะมาบอกว่าช่วยคุณได้ ในนั้นมี มิจฉาชีพบานเลย นักตบนักรีด แล้วบางครั้งมีทนายประสานงานผ่านผู้ต้องขังข้างในให้ทนายมาหลอกเหยื่ออีกที ทำเหมือนกับว่ามาให้คำแนะนำ 18 บอส ต้องระวังนะ

อันนี้ยิ่งเขาเห็นว่ามีเงินทองทั้งนั้น ถ้าจะแนะนำก็คือ 18 บอส ถ้าทนายตัวจริงได้สื่อสารเข้าไปถึงในนั้นให้ตอบไปเลย แต่ถ้านักโทษด้วยกันมาบอกว่า เราช่วยได้ มีการประกัน วิ่งประกัน หรือมีการช่วยในทางคดีได้ แล้วบอสพอลลำบากเพราะไม่มีโทรศัพท์นะ

สิ่งเดียวที่จะตอบพวกนี้ไปได้ก็คือให้เข้าใจเห็นตรงกัน แล้วคุณมาอยู่ในนี้เหมือนกันได้ไง ทำไมไม่ช่วยตัวคุณเองก่อน แล้วพูดจริงๆ ว่ามีเยอะ ญาติก็ต้องระวังด้วย อย่าใช้คำว่าหวังดี ไม่มีเป็นอันขาด ป่านนี้โดนจ้องแล้ว บรรดา 18 บอส 7 คนอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง อีก 11 คนอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เขาก็จะรู้ว่าคนเหล่านี้มีเงิน เชื่อเถอะคนอยู่ในนั้นจะหมดสภาพกันทุกคนและพร้อมเป็นเหยื่อของบุคคลกลุ่มนี้"

ถือเป็นประสบการณ์ตรงจากคนที่เคยเข้าไปอยู่มาแล้ว เพื่อหวังให้ 3 คนบันเทิงที่กำลังเผชิญช่วงเวลายากลำบากในเรือนจำตอนนี้ ปรับตัวให้ทำใจให้ชิน รอวันถูกตัดสินถูก-ผิดจากเรื่องราวที่ได้ก่อขึ้นได้เป็นอย่างดี