ทนาย แฉแก๊งรีด 20 ล้าน พร้อมนำคลิปหลักฐานเด็ด 512 เมกะไบต์ มอบตำรวจ บก.ปปป.

ทนาย แฉแก๊งรีด 20 ล้าน ขู่ บอสพอล ไม่จ่าย พาเหยื่อออกรายการดัง พร้อมนำคลิปหลักฐานเด็ด 512 เมกะไบต์ มอบตำรวจ บก.ปปป. เตรียมเอาผิด 1 นักร้องเรียนผู้หญิง - 1 ทนายความผู้ชาย 

วันที่ 22 ต.ค. 67 ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นาย วิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนาย วรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เจ้าของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป กล่าวว่า วันนี้ตนมาหาทีมงานของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำหลักฐานมาให้ก่อน และวันพฤหัสบดีช่วงเย็นๆ ตนจะเดินทางมาแจ้งความอีกครั้งกับ1 นักร้องเรียนผู้หญิง และ 1 ทนายความผู้ชาย 

ทั้งนี้ตนเพิ่งออกมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังจากได้พูดคุยกับนายพอล เขาบอกว่าก็ต้องรักษาสิทธิ์ของเขา โดยยื่นดำเนินคดีกับ 1 นักร้องเรียนผู้หญิง และ 1 ทนายความผู้ชาย เบื้องต้นในข้อหากรรโชกทรัพย์ ซึ่งตนได้นำคลิปวิดีโอมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนไม่ทราบว่ามีทั้งหมดกี่คลิป แต่มีขนาด 512 เมกะไบต์ สามารถใช้เป็นพยานหลักฐานได้เห็นหน้าชัดเจน 

นาย วิฑูรย์ กล่าวต่อว่า ซึ่งเป็นคลิปที่มาจากคนที่เก็บหลักฐาน เขาติดกล้องไว้ตรงหมวกช่วงที่มีการจ่ายเงินคนละ 100,000 -200,000 บาท ซึ่งในคลิปมีอยู่ประมาณ 10 กว่าคน แต่ตนถามตัวลูกความ เขาบอกว่าประมาณ 80 กว่าคนที่เขาจ่าย 

โดยเหตุการณ์เพิ่งเกิดช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่ง 10 กว่าคนนี้อยู่ในกลุ่มเดียวกับนักร้องเรียนผู้หญิง เขาอ้างว่าเสียหาย ขายของไม่ได้ ซึ่งเขาก็ควรจะดำเนินคดีกับบริษัทอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่ว่าฉันจะร้องเรียนคุณว่าผิดแบบนั้นแบบนี้ แต่คุณไม่ไปยื่นเรื่องร้องเรียนตามระบบ เช่น สคบ. หรือ ปคบ. จะให้มาจ่ายเงินจ่ายทองแล้วจบกันไปแบบนี้เหรอ ซึ่งมันก็ไม่ถูก 

นาย วิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในคลิปวิดีโอเป็นวันจ่ายเงิน และตนก็ต้องไปตามหาคลิปอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก เพื่อนำมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตนต้องทำเรื่องเยี่ยมบอสผู้หญิงแล้ว เพื่อไปสอบถามว่าคลิปเหล่านี้อยู่ที่ไหนอีก 

เมื่อถามว่า หลักฐานมาจากเป้ากางเกงตามที่มีการกล่าวอ้างก่อนหน้านี้หรือไม่ นาย วิฑูรย์ กล่าวว่า ครจะเอากล้องติดเป้ากางเกง เขาก็ซื้อกล้องจิ๋วติดหมวกติดกระดุม ไม่ได้ติดเป้ากางเกง แบบนั้นเสียงมันก็ไม่ชัด ทั้งนี้วันที่มีการจ่ายเงิน นายพอลไม่ได้อยู่ด้วย ซึ่งเป็นบอสคนอื่น 3 คน และมีเลขาของแต่ละคนที่อยู่ด้วยในการจ่ายเงิน โดยตอนนั้นยังไม่มีคดีนี้เกิดขึ้น เขาจ่ายเงินก็เพื่อต้องการตัดปัญหา ซึ่งนักธุรกิจหลายคนก็เป็นอย่างนั้น 

เมื่อถามว่า จ่ายตัดปัญหานี่คือต้องการตัดปัญหาในเรื่องอะไร นาย วิฑูรย์ กล่าวว่า ความยุ่งยากของชีวิต และการทำธุรกิจเขามากกว่า เพราะคนเป็นนักธุรกิจเขาไม่อยากมีปัญหาจริงๆ 

เมื่อถามถึงกรณีที่ได้เข้าพบนายพอล ได้พูดคุยถึงนาย ส.ที่จะยื่นฟ้องด้วยหรือไม่นั้นนาย วิฑูรย์ กล่าวว่า ไม่ครับ เพราะเราไม่ได้จ่ายให้เขา ซึ่งตนได้ข้อมูลมาแบบนี้ ตนได้รับออเดอร์มาว่าให้เอาเฉพาะ ก.ไก่คนเดียว และตนก็เอา ก.ไก่คนเดียว คนอื่นตนไม่แตะ 

เมื่อถามว่า นอกจาก ก.ไก่แล้วยังมีคนอื่นอีกหรือไม่ ทนายความ กล่าวว่า ตนพุ่งเป้า ก.ไก่คนเดียว ตอนนี้หลักฐานที่เราได้มาจากการติดกล้องกับหมวกพนักงานคนที่จ่ายเงินเขาก็ติดไว้เป็นการตั้งใจเก็บภาพไว้เอาไว้เป็นหลักฐาน เผื่อวันนึงเราถูกหักหลังก็จะเอาคลิปมาเปิดเผย ซึ่งคลิปเหล่านี้ตนก็พึ่งมาเห็นเมื่อวาน และหลักฐานทั้งหมดอยู่กับตน และนำขึ้นระบบคลาวด์ไว้หมดแล้ว ถ้าตนเป็นอะไรไป ทนายคนอื่นก็จะเอาหลักฐานนี้ไปยื่นตำรวจได้อยู่ดี 

เมื่อถามว่า บอสพอลเคยติดกล้องไว้กับตัวเองบ้างหรือไม่ ทนายความ กล่าวว่า ตนถามแล้วในบอสพอลแล้วไม่มี และไม่เคยติด 

เมื่อถามว่า จากที่ได้พบบอสพอลวันนี้ได้มีคุยเรื่องการประกันตัวหรือไม่ ทนายความ กล่าวว่า นายพอลยืนยันว่าอยู่ได้ ไม่ต้องห่วง ขอให้ทางทีมทนายสู้คดีให้เต็มที่ และไม่จำเป็นต้องยื่นประกันตัว เพราะยื่นไปก็ไม่ได้ จึงไม่ยื่น รวมถึงคนอื่นๆ ด้วย ซึ่งในส่วนของบอสดารา ตนไม่ได้พูดคุยด้วย ตนพูดคุยด้วยกับบอสๆ ของตน 

เมื่อถามว่า วันนี้มีใครเรียกร้องอะไรเพิ่มเติมบ้างหรือไม่ ทนายความ กล่าวว่า ไม่มี วันนี้คุยเพียงแค่ว่าตนต้องทำอะไรบ้าง งานตนมีอะไรบ้างแต่ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ รับรองว่าหลังจากนี้จะสนุกแน่ ตนอาจจะทำคลิปหลุดก็ได้

เช่น เป็นคลิปเสียงที่จะพาคนไปออกรายการหนึ่ง ขอ 20 ล้านบาท ตนแกล้งทำหลุดออกมาเดี๋ยวก็รู้กันเองว่าเป็นใคร ซึ่งเป็นรายการโคตรดังในช่องน้อยสี แต่ไม่ใช่เจ้าของรายการ เป็นนักร้องเรียนท่านหนึ่งเป็นในลักษณะการเรียกรับ เหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดขึ้นในปีนี้ก่อนมีเรื่อง ซึ่งยืนยันว่า ไม่ใช่ตัวละครใหม่แต่เป็นตัวละครเดิมๆ 

“ผมก็ไม่อยากปล่อยคลิป แต่ถ้ามาโจมตีผมมากๆ มาท้าทายผมมากๆ ผมมือลั่นขึ้นมาก็ยุ่งเลยนะ ผมบอกเลย” 

เมื่อถามว่า นี่เป็นการขู่คนที่มาโจมตีบอสใช่หรือไม่ ทนายความ กล่าวว่า โจมตีตนด้วยโจมตีบอสด้วย 

เมื่อถามว่า กังวลเรื่องความปลอดภัยหรือไม่ ทนายความ กล่าวว่า “ก็กังวลแหละ แต่อย่ามายุ่งอะไรกับผมมาก ขอให้ผมได้ทำงานไปเถอะ แต่ถ้าผมข่มขู่ผมมากๆ ผมก็จะมือลั่นขึ้นมา โดยเฉพาะมาข่มขู่ผมให้ระวังตัวไว้” 

เมื่อถามว่า ใช่คนที่พูดคือคนที่อยู่หน้าสื่อทุกวันนี้หรือไม่ ทนายความ กล่าวว่า วันนี้มีคนเอ่ยชื่อตน บอกว่าให้เงียบปากไป ตนก็เลยบอกว่าไม่เป็นไร ผมไม่เงียบ 

ทนายความ กล่าวว่า สรุปที่ผ่านมาบอสพอลจ่ายไปกับนักร้องเรียนคนนี้ประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มาร้องเรียนด้วย และนักร้องได้เท่าไหร่ ตนให้บอสพอลให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว ส่วนทนายความนั้นตนไม่ทราบว่าเขาแบ่งกันอย่างไร แต่เขาเป็นกลุ่มเดียวกัน ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นคนที่ขายของไม่ได้แล้วมาขอให้เราช่วยรับผิดชอบเท่านั้นเอง พอมาก็มาคุยดีๆแล้วก็ไม่จ่าย พอเราไม่จ่ายเขาก็มากล่าวหาเราว่าเป็นขายตรงหรือไม่ จะไปร้องตามที่ต่างๆ และจะแบกโลงศพไปร้อง สคบ.บ้าง ซึ่งตนได้ข้อมูลมาแบบนี้ 

นาย วิฑูรย์ กล่าวว่า ทั้งนี้บอสพอลเขาบอกว่าปรับตัวได้กับในเรือนจำ ส่วนเรื่องคดีก็ไม่ได้มีความกังวลอะไร เขาบอกให้ตนทำเต็มที่ไม่ต้องห่วงว่าเขาจะอยู่นานขนาดไหน ส่วนที่มีเจ้าหน้าที่ไปค้นบ้านแม่ของบอสพอลนั้น ก็ไม่เป็นไร ก็ค้นไปสิ ไม่มีอะไรผิดกฎหมาย ตนรู้ว่าเขาจะเอาข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรกับใคร ตนเป็นทนายหลายปี รู้ว่าเขาต้องการค้นหาสิ่งที่ผิดกฎหมาย แต่เข้าไปก็ไม่เจอกัน ก็ไม่ทราบว่าตำรวจเขามองอย่างไร อาจจะมองว่าผู้เสียหายมีจำนวนมาก จึงลองตั้งข้อหานี้หรือไม่ แต่หากรู้ว่าหลักฐานไม่มีก็คือไม่มี 

ส่วนกรณีที่กล่าวหาว่าทางเราได้เงินจากกลุ่มจีนสีเทามานั้น ขณะนี้มีทนายท่านหนึ่งกำลังดูเรื่องนี้ว่าจะดำเนินการฟ้องกลับหรือไม่ ซึ่งใครพูดเรื่องนี้ โดยเฉพาะประเด็นปั่นเงินคริปโตต่างๆ ระวังตัวเอาไว้ เพราะทนายอีกท่านหนึ่งโหดมาก ซึ่งในบริษัทดิไอคอนฯนี้ ไม่มีใครสูงสุดกว่านี้บอสพอลแล้ว ยืนยันว่าไม่มีบอสที่ใหญ่กว่าเทวดา และยืนยันว่านายธเนตร วงษา นักธุรกิจพันล้าน และอดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้