ล่าตัว "เหน่ง อภิวัฒน์" แก๊งค้ายานรก ยิงสู้ตำรวจหนีข้ามวันข้ามคืน

24 ต.ค. 67

ล่าตัว "เหน่ง อภิวัฒน์" แก๊งค้ายานรก ยิงสู้ตำรวจหนีข้ามวันข้ามคืน ผกก.สน.สายไหม แกะเส้นทางติดตามไล่ล่า บอกคนร้ายมียาเสพติดผลิตรูปแบบใหม่ แสงแวววาววิบวับ 

จากกรณีเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม ปะทะ แก๊งค้ายาเสพติด สามารถจับกุมคนร้ายได้ 2 คน ส่วนนาย อภิวัฒน์ ตันเจริญ หรือ เหน่ง อายุ 35 ปี ยิงเปิดทางหลบหนีไปได้ เหตุเกิด ถ.สายไหม ซอย 10 ในช่วงเวลา 22.30 น. ของวันที่ 22 ต.ค. 67 ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ 

ล่าสุดวันที่ 24 ต.ค. 67 พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผู้กำกับ สน.สายไหม เปิดเผยว่า ข้อมูลการหลบหนีของนายเหน่ง ทราบว่ามีแหล่งที่อยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ช่วงที่หลบหนีมีเครื่องมือติดต่อสื่อสาร คือโทรศัพท์มือถือ จึงคาดว่าน่าจะมีการโทรศัพท์ติดต่อให้มีคนมารับหลบหนีไป พร้อมกันนี้ในระหว่างปฏิบัติการไล่ล่า นายเหน่งเป็นคนใช้อาวุธปืนโผล่หน้าเอี้ยวตัวออกจากรถมา เพื่อยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อตรวจค้นรถก็พบอาวุธปืนของรุ่น .38 ลูกโม่ แต่ไม่พบอาวุธปืนจึงคาดว่าน่าจะมีการพกพาอาวุธปืนติดตัวไปด้วย ตอนนี้ให้สืบสวนแกะรอยเส้นทางไล่ล่า 

“ข้อมูลพ่อของนายตั้ม หนึ่งในผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้ และนายเหน่ง ทำงานอยู่ในพื้นที่ จ.ระยอง ทั้งคู่ได้ไปเอารถของพ่อมาที่ จ.ระยอง และเดินทางมุ่งหน้ามายังพื้นที่เขตสายไหม เพื่อรับยาเสพติด แม้ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหา 2 คนไม่ยอมรับสารภาพ แต่ได้เค้นสอบจนสารภาพว่าดำเนินการกันอย่างไรบ้าง ขณะ น.ส.แม้ว เคยทำงานคาราโอเกะและเป็นพนักงานขายปลาอยู่ที่ตลาดมหาชัย มีลูกกับสามีเก่าสองคน ก่อนมาพบรักกับนายเหน่ง ได้ประมาณ 2-3 เดือนได้พยายามเค้นถามเรื่องของอาวุธปืนแต่เจ้าตัวยังให้การอักเสบว่าไม่เคยเห็นอาวุธปืนจากนายเหน่งเลย” 

พ.ต.อ.รังสรรค์ กล่าวต่อว่า ส่วนกระบวนการขนยาเสพติดในครั้งนี้ ยาเสพติดล็อตนี้มีความพรีเมียม มีส่วนผสมของยาไอซ์เล็กน้อย ทำให้สีของยาเสพติดอ่อนลงและมีแสงแวววาววิบวับ และมีราคาแพงกว่ายาเสพติดรูปแบบปกติ แต่เนื่องจากแก๊งค้ายาเสพติดขายยาเสพติดไม่ออก จึงมีการประสานให้เครดิตแก๊งนายเหน่ง รับยาเสพติดล็อตนี้ออกไปปล่อยขาย และค่อยจ่ายเงินในภายหลัง จึงอยู่ระหว่างการไล่ล่าแก๊งยาเสพติดที่นำยามาส่งให้แก๊งนายเหน่งด้วย 

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากความเสียหายของรถจักรยานยนต์เจ้าหน้าที่ตำรวจยังมีความเสียหายของพี่น้องประชาชน ซึ่งมีประมาณ 10 คน ดำเนินการเข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 6 คน ตอนนี้จะเร่งรวบรวมผู้เสียหายทั้งหมด แม้พบว่ารถยนต์ของผู้ต้องหาทำประกันภัยชั้นหนึ่งภาคสมัครใจเอาไว้ ดำเนินการชดใช้ 100%  รวมถึงการชดใช้ตามกฏหมายแพ่ง ผู้ต้องหาจะต้องรับผิดชอบตามกระบวนการกระทำความผิดอยู่แล้ว จากนั้นเป็นตัวกฎหมายในการคุ้มครองของกรมคุ้มครองสิทธิ์แก่ผู้เสียหายในแง่ของการปกครองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และของสถานีตำรวจ สน.สายไหม 

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 6 นายที่ปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ ก็จะได้รับการดูแลขวัญและกำลังใจและดูแลตามอำนาจหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส