BYD จ่อสร้างโรงงานผลิต EV ในเวียดนาม หลังเข้าพูดคุยกับรองนายกรัฐมนตรี หวังผลิตรถยนต์ป้อนประเทศอื่นๆ โดยรอบ เดินหน้ารุกตลาดอาเซียนหลังจากครองอันดับหนึ่ง (รวม PHEV และ BEV) ในประเทศจีน และทั่วโลก
จากการรายงานของสำนักข่าว Bloomberg ในวันที่ 5 พ.ค. Wang Chuanfu ประธานและผู้ก่อตั้ง BYD ได้เดินทางเข้าพบ Tran Hong Ha รองนายกรัฐมนตรีของเวียดนามในเมืองฮานอย เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างเวียดนามและ BYD
จากรายงานของรัฐบาลเวียดนามหลังการประชุมดังกล่าว นายหวังกล่าวว่าเขาหวังว่ารัฐบาลเวียดนามจะออกนโยบายที่เอื้อต่อการลงทุน และการตั้งโรงงานการผลิตของ BYD โดย BYD หวังว่าจะได้ยึดเวียดนามเป็นฐานการผลิต เพื่อป้อนสินค้าให้กับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน
หลังจากมีข่าวการประชุมดังกล้าวออกมา โฆษกของ BYD ได้ออกมายืนยันแล้วว่า BYD มีแผนจะสร้างโรงงานในเวียดนามจริง แต่ยังไม่ได้เปิดเผยว่าจะลงทุนเป็นมูลค่าเท่าไหร่ หรือตั้งใจที่จะลงทุนในพื้นที่ไหน
นอกจากเวียดนามแล้ว ก่อนหน้านี้ BYD ได้เข้ามาตั้งโรงงานผลิตแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียนในไทยแล้วที่นิคมอุตสาหกรรม WHA บนพื้นที่ 600 ไร่ จ.ระยอง โดยคาดว่าจะมีกำลังผลิตถึง 150,000 คันต่อปี ป้อนทั้งตลาดภายในประเทศ และตลาดอาเซียน รวมไปถึงตลาดยุโรป และมีแผนไปตั้งโรงงานผลิตในประเทศอื่นๆ ในอาเซียนอีก อย่างเช่น ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
ดังนั้น การที่ BYD เข้าไปตั้งโรงงานการผลิตในเวียดนามจึงสะท้อนถึงความตั้งใจของ BYD ที่จะเข้ามาตีตลาดเป็นผู้เล่นรายใหญ่ของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคนี้ หลังตีตลาดแตกไปแล้วในบ้านเกิด
จากข้อมูลของ Counterpoint Research ในปี 2022 รถยนต์ไฟฟ้า (รวม PHEV และ BEV) ของ BYD ครองส่วนแบ่งอันดับหนึ่งตลาด EV ในจีนที่ 29.7% ตามมาด้วย GM, Tesla, Geely และ Changan นอกจากนี้ ยังขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลก ด้วยยอดขาย 1.86 ล้านคัน แบ่งเป็น รถยนต์ BEV 9.11 แสนคัน และรถยนต์ไฟฟ้า PHEV 9.46 แสนคัน
นอกจากนี้ ปัจจุบันในสี่เดือนแรกของปี 2023 รถจาก BYD ยังครองรถยนต์ไฟฟ้า BEV ที่มียอดจดทะเบียนสูงที่สุดในไทย นำโดย BYD Atto 3 ที่มียอดจดทะเบียนรวม 7,285 คันระหว่างเดือน ม.ค. - เม.ย. 2023 คิดเป็น 39.17% ของยอดจดทะเบียน BEV ทั้งหมด 18,599 คัน
ปัจจุบันนอกจาก BYD แล้วมีผู้ผลิตนถยนต์ไฟฟ้ามากมายเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานผลิตในไทย ส่วนใหญ่เป็นค่ายรถจากจีน ทั้ง ไม่ว่าจะเป็น MG , Great Wall Motor และ Hozon สะท้อนว่าในตอนนี้ตลาด EV กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด โดยเฉพาะผู้ผลิตรถยนต์ EV จากจีนที่กำลังรุกคืบเข้ามาในตลาดอาเซียน และมองหาพื้นที่ตั้งฐานการผลิตหลักในภูมิภาค
ที่มา: Bloomberg, Counterpoint Research