Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
Hermès กับกลยุทธ์ที่ทำให้ Q3/24 ยอดขายพุ่ง 11% กวาดไป 1.3 แสนล้านบาท
โดย : ก่อกิจ เกตุบรรเทิง

Hermès กับกลยุทธ์ที่ทำให้ Q3/24 ยอดขายพุ่ง 11% กวาดไป 1.3 แสนล้านบาท

15 พ.ย. 67
13:30 น.
|
151
แชร์

Highlight

ไฮไลต์

  1. Hermes รายงานผลประกอบการ 3Q24 โดยมียอดขายรวม 3.7 พันล้านยูโร เติบโตขึ้น 11% ยอดขายในหลายภูมิภาคยังคงเติบโตได้ดี โดยเฉพาะยุโรป
  2. ภูมิภาคเอเชีย (ยกเว้นญี่ปุ่น) Hermès เติบโตเพียง 1% ใน 3Q24 ต่ำกว่าคาดที่ 2.3% และเป็นอัตราการเติบโตในภูมิภาคนี้ที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ 2Q20
  3. กลุ่มธุรกิจ เครื่องหนัง (Leather Goods) ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของ Hermès ด้วยการเติบโตที่ 14% ในไตรมาสนี้ ซึ่งเป็นผลจากยอดขายกระเป๋าไอคอนิก
  4. Hermès ใช้นโยบายการปรับราคาขายเพื่อสะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โดยปรับขึ้น 9% ในต้นปี 2024 และวางแผนปี 2025 จะปรับขึ้นในอัตราที่ลดลงเล็กน้อย
  5. Hermes ยังคงเน้นกลยุทธ์การสร้างสรรค์และการลงทุนในระบบการผลิตและการกระจายสินค้าที่มีประสิทธิภาพ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกและสถานการณ์ทางการเมืองจะมีความไม่แน่นอน

Hermès แบรนด์เครื่องหนังระดับตำนานจากฝรั่งเศส ยังคงครองใจเศรษฐีทั่วโลก ล่าสุดประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2024 กวาดรายได้ไปกว่า 1.3 แสนล้านบาท เติบโต 11% ตอกย้ำความแข็งแกร่งแม้เศรษฐกิจโลกผันผวน บทความนี้จะพาไปเจาะลึกเบื้องหลังความสำเร็จของ Hermès พร้อมวิเคราะห์ปัจจัย ความท้าทาย และโอกาสในการเติบโต ปิดท้ายด้วยข้อมูลน่ารู้สำหรับนักลงทุนที่สนใจ

Hermès กับกลยุทธ์ที่ทำให้ Q3/24 ยอดขายพุ่ง 11% กวาดไป 1.3 แสนล้านบาท

Hermès กับกลยุทธ์ที่ทำให้ Q3/24 ยอดขายพุ่ง 11% กวาดไป 1.3 แสนล้านบาท

Hermès International หรือที่รู้จักกันในชื่อ Hermès คือองค์กรสัญชาติฝรั่งเศสผู้ผลิตสินค้าลักซ์ชัวรีชั้นนำระดับโลก ชื่อเสียงของ Hermès นั้นเป็นที่ประจักษ์ในด้านความประณีตบรรจงแห่งงานฝีมือและการเลือกสรรวัตถุดิบชั้นเลิศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระเป๋าหนังระดับตำนานอย่าง Hermès Birkin และ Kelly ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงและมีมูลค่าในตลาดที่โดดเด่น อย่างไรก็ดี ความหรูหราของ Hermès มิได้จำกัดอยู่เพียงกระเป๋าหนังเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์อันหลากหลาย อาทิ ผ้าพันคอ นาฬิกา น้ำหอม เสื้อผ้า ready-to-wear เครื่องหนัง ฯลฯ

ด้วยพันธกิจในการรังสรรค์สินค้าคุณภาพสูงสุด Hermès ได้ขยายเครือข่ายสาขากว่า 300 แห่งทั่วโลก โดยมีฐานลูกค้าหลักอยู่ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งสร้างรายได้กว่า 52.5% ให้กับองค์กร ความสำเร็จของ Hermès ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากวิสัยทัศน์ของตระกูล Hermès ซึ่งยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ขององค์กรกว่า 66.7% อันสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการธำรงรักษามรดกแห่งความหรูหราและสืบสานธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่น

Hermès โชว์ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2024 สดใส ยอดขายพุ่ง 11%

Hermès ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2024 ด้วยยอดขายรวมที่แข็งแกร่งถึง 3.7 พันล้านยูโร หรือประมาณ 136,900 ล้านบาท เติบโตขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคิดที่อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการสินค้าลักซ์ชัวรีที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องแม้ในภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอน

ไฮไลท์สำคัญของผลประกอบการในไตรมาสนี้คือการเติบโตที่โดดเด่นในภูมิภาคยุโรป (ไม่รวมฝรั่งเศส) ซึ่งมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 18% โดยมีปัจจัยหนุนมาจากทั้งฐานลูกค้าท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ส่วนในฝรั่งเศสเองก็ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดีที่ 14% แม้จะได้รับผลกระทบจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมที่ผ่านมาซึ่งทำให้จำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้านลดลง ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นยังคงเป็นดาวเด่น ด้วยยอดขายที่พุ่งสูงขึ้นถึง 23% จากฐานลูกค้าท้องถิ่นที่เหนียวแน่น ส่วนในทวีปอเมริกาก็ยังคงรักษาโมเมนตัมการเติบโตไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 13%

Hermès เผยผลประกอบการแยกตามกลุ่มธุรกิจ เครื่องหนังยังคงเป็นดาวเด่น

Hermès ยังคงรักษาความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำตลาดสินค้าลักชัวรี โดยผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 2024 สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตในหลากหลายกลุ่มธุรกิจ นำโดยกลุ่มเครื่องหนัง (Leather Goods) ซึ่งยังคงเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนรายได้ ด้วยอัตราการเติบโตที่โดดเด่นถึง 14%

ความสำเร็จของกลุ่มเครื่องหนังเป็นผลมาจากยอดขายอันแข็งแกร่งของกระเป๋า Hermès รุ่นไอคอนิก เช่น Birkin และ Constance รวมถึงการเปิดตัวกระเป๋ารุ่นใหม่ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เช่น Constance Élan และ Bolide à dos ซึ่งช่วยเติมเต็มไลน์สินค้าและตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย

นอกจากนี้ กลุ่มสินค้าเครื่องแต่งกายสำเร็จรูปและเครื่องประดับ (Ready-to-wear & Accessories) ก็มีการเติบโตที่น่าประทับใจถึง 15% ขณะที่กลุ่มผ้าไหมและสิ่งทอเติบโต 2% และกลุ่มน้ำหอมและความงามเติบโต 7% โดยมีการเปิดตัวน้ำหอมกลิ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Barénia ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากกลิ่นอายอันอบอุ่นของหนัง

Hermès เผยภาพรวมตลาดเอเชีย-แปซิฟิก จีนยังคงเป็นความท้าทาย

แม้ผลประกอบการโดยรวมของ Hermès ในไตรมาส 3 ปี 2024 จะเป็นที่น่าพอใจ แต่ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) กลับพบว่ามีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลง โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นเพียง 1% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.3% และถือเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2020

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเติบโตในภูมิภาคนี้คือตลาดจีน ซึ่งมียอดขายทรงตัว โดยจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้านลดลงหลังช่วงเทศกาลตรุษจีน อย่างไรก็ตาม ยอดซื้อเฉลี่ยต่อคนมีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งช่วยชดเชยรายได้ที่หายไปได้บางส่วน

แม้จะเผชิญกับความท้าทายในระยะสั้น แต่ Hermès ยังคงให้ความสำคัญกับตลาดเอเชีย-แปซิฟิกอย่างต่อเนื่อง โดยมีการลงทุนขยายและปรับปรุงสาขาเดิม เช่น การเปิดร้าน Hermès สาขาเซินเจิ้นโฉมใหม่ รวมถึงการเปิดสาขาใหม่ในสิงคโปร์และเกาหลีใต้ เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว และตอกย้ำความมุ่งมั่นในการขยายฐานลูกค้าในภูมิภาคนี้

Hermès ปรับกลยุทธ์ราคาและเดินหน้าลงทุน เสริมความแข็งแกร่งรับอนาคต

Hermès กับกลยุทธ์ที่ทำให้ Q3/24 ยอดขายพุ่ง 11% กวาดไป 1.3 แสนล้านบาท

ล่าสุดทาง Hermès ได้ดำเนินนโยบายการปรับราคาขายอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ ในช่วงต้นปี 2024 Hermès ได้ประกาศปรับราคาสินค้าขึ้นโดยเฉลี่ย 9% อย่างไรก็ดี สำหรับปี 2025 Hermès มีแผนที่จะปรับราคาขึ้นในอัตราที่ลดลง เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตและผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยยังคงมุ่งเน้นการรักษาสมดุลระหว่างการขยายตัวทางธุรกิจและการสร้างมูลค่าสูงสุดให้แก่ลูกค้า

นอกเหนือจากกลยุทธ์ด้านราคา Hermès ยังให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการผลิตและรองรับความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้น โดยเมื่อเร็วๆ นี้ Hermès ได้เปิดโรงงานผลิตเครื่องหนังแห่งใหม่ในเมือง Riom ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายกำลังการผลิตอย่างยั่งยืน เพื่อธำรงไว้ซึ่งมาตรฐานความเป็นเลิศด้านงานฝีมือ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วโลกที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง

Hermès มั่นใจในวิสัยทัศน์ระยะยาว เดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์โลก แต่ Hermès ยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามวิสัยทัศน์ระยะยาว โดยให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ควบคู่ไปกับการลงทุนในระบบการผลิตและเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความเป็นเลิศด้านคุณภาพและตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วโลก

ด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง Hermès ยังคงตั้งเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยยืนยันความมุ่งมั่นในการรักษาระดับกำไรสุทธิและผลักดันการเติบโตในทุกภูมิภาค ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของแบรนด์และความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

กลยุทธ์ Hermès สู่ความสำเร็จในตลาดสินค้าลักชัวรีโลก

การวิเคราะห์ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2024 ของ Hermès International สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งขององค์กร แม้เผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจมหภาค Hermès ยังคงรักษาสถานะผู้นำในอุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือยได้อย่างมั่นคง ด้วยอัตราการเติบโตของรายได้ที่โดดเด่น กลยุทธ์ทางธุรกิจที่เฉียบคม และวิสัยทัศน์ระยะยาวที่ชัดเจน

ปัจจัยแห่งความสำเร็จ

  • ความมุ่งมั่นในคุณภาพและงานฝีมือ: Hermès ยังคงยึดมั่นในมาตรฐานความเป็นเลิศด้านคุณภาพและงานฝีมืออันประณีต ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องหนังยังคงเป็นกลไกขับเคลื่อนรายได้หลัก ด้วยยอดขายที่แข็งแกร่งของกระเป๋ารุ่นเอกลักษณ์ เช่น Birkin และ Constance ประกอบกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายและตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
  • กลยุทธ์การบริหารแบรนด์: Hermès ดำเนินกลยุทธ์การบริหารแบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพ ธำรงไว้ซึ่งภาพลักษณ์แห่งความหรูหรา และสร้างแรงบันดาลใจในหมู่ผู้บริโภค ซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่แบรนด์ในการกำหนดราคา โดยยังคงสามารถรักษาระดับยอดขายและความภักดีของลูกค้า
  • การลงทุนเชิงกลยุทธ์: Hermès ให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการขยายกำลังการผลิต การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการขยายเครือข่ายสาขา เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต

ความท้าทายในเวลานี้

  • ภาวะชะลอตัวของตลาดจีน: ตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงสำหรับ Hermès กำลังเผชิญกับภาวะการเติบโตที่ชะลอตัวลง ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ และการลดลงของจำนวนลูกค้าหลังช่วงเทศกาลตรุษจีน อย่างไรก็ตาม Hermès ยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายฐานลูกค้าในตลาดจีน ผ่านการลงทุนในสาขาใหม่ๆ และการปรับปรุงสาขาเดิมให้มีความทันสมัย
  • ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก: ภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงมีความผันผวนสูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม Hermès มีความสามารถในการปรับตัว และมีฐานลูกค้าที่มั่นคง ซึ่งช่วยลดทอนความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก

ทิศทางในอนาคต

Hermès ยึดมั่นในวิสัยทัศน์ระยะยาว และมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับนวัตกรรม การลงทุนในระบบการผลิต และการขยายเครือข่ายการจัดจำหน่าย ด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง และศักยภาพในการปรับตัว Hermès มีความพร้อมที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และธำรงไว้ซึ่งสถานะผู้นำในตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยในระยะยาว

สำหรับนักลงทุน (KS Global Invest Tips)

Hermès กับกลยุทธ์ที่ทำให้ Q3/24 ยอดขายพุ่ง 11% กวาดไป 1.3 แสนล้านบาท

ผลตอบแทนที่โดดเด่นของหุ้น Hermès ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของบริษัท และความเชื่อมั่นของนักลงทุน การลงทุนในหุ้น Hermès ไม่เพียงแต่เป็นการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ระดับตำนาน แต่ยังเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นอีกด้วย โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา หุ้น Hermès สร้างผลตอบแทนรวม (Total Return) ให้กับนักลงทุนสูงถึง 260.71% ซึ่งแสดงถึงประสิทธิภาพที่เหนือกว่าดัชนี EURO STOXX 50 ซึ่งเป็นตัวแทนของ 50 บริษัทขนาดใหญ่ที่สุดในยูโรโซน ที่ให้ผลตอบแทนรวมอยู่ที่ 40.09%

สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในหุ้น Hermès มีรายละเอียดที่ควรรู้ดังนี้

Market Cap (ณ วันที่ 06/11/2024)

220,956.8 ล้านยูโร

ตลาดหลักทรัพย์

Euronext Paris

Ticker Code

RMS FP

บริษัทมีร้าน Hermès มากกว่า

300 สาขาทั่วโลก

รายได้ส่วนใหญ่มาจากประเทศกลุ่มเอเชีย

52.50%

ถือหุ้นใหญ่โดย Hermès Family กว่า

66.70%

  • ตลาดหลักทรัพย์: หุ้น Hermès (RMS PA) จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ Euronext Paris ประเทศฝรั่งเศส
  • รหัสซื้อขาย: RMS FP
  • สกุลเงิน: การซื้อขายหุ้น Hermès ต้องใช้สกุลเงินยูโร (EUR)
  • จำนวนขั้นต่ำ: สามารถซื้อขายได้ขั้นต่ำ 1 หุ้น (Trade lot = 1)
  • มูลค่าตามราคาตลาด: ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2024 มูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap) ของ Hermès อยู่ที่ 220,956.8 ล้านยูโร

การลงทุนในหุ้น Hermès ถือเป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนในระยะยาว และต้องการเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ลักชัวรีชั้นนำระดับโลก อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

อ้างอิงจาก KSecurities

แชร์

Hermès กับกลยุทธ์ที่ทำให้ Q3/24 ยอดขายพุ่ง 11% กวาดไป 1.3 แสนล้านบาท