ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล 4.0 อย่างเต็มตัว! BAM หรือ บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ฉลองครบรอบ 25 ปีแห่งความสำเร็จ ด้วยการประกาศยุทธศาสตร์การทรานส์ฟอร์มองค์กรครั้งใหญ่ มุ่งสู่การเป็น DIGITAL ENTERPRISE พร้อมเดินหน้าภารกิจสำคัญในการช่วยเหลือลูกหนี้ แก้ไขปัญหาหนี้เสีย และฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย
เนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปีแห่งการดำเนินงาน บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ประกาศความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาหนี้เสียให้กับลูกหนี้กว่า 160,000 ราย พร้อมเดินหน้าสู่ปีที่ 25 ด้วยการทรานส์ฟอร์มองค์กรครั้งใหญ่สู่ DIGITAL ENTERPRISE เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (AMC) ในยุค 4.0
BAM ได้กำหนดยุทธศาสตร์การทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE อย่างเต็มรูปแบบ โดยมุ่งเน้นเป้าหมาย 3 ประการหลัก ได้แก่
ยุทธศาสตร์การทรานส์ฟอร์มองค์กรดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับองค์กรให้พร้อมสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว นอกจากนี้ BAM ยังได้จัดทำ “อิสระ เดอะซีรีส์” 2 เรื่องราว เพื่อประชาสัมพันธ์กระบวนการประนอมหนี้แก่ลูกหนี้ BAM และส่งเสริมการขายทรัพย์สินให้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยจะเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ของ BAM Thailand ได้แก่ Facebook, YouTube และ TikTok ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป
นายบัณฑิต อนันตมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM กล่าวถึงบทบาทสำคัญของ BAM ในฐานะผู้บริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) และทรัพย์สินรอการขาย (NPA) โดยมีภารกิจหลักในการช่วยเหลือลูกหนี้ แก้ไขปัญหาให้กับสถาบันการเงิน และฟื้นฟูธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผ่านการพัฒนาทรัพย์สินรอการขายให้ได้มาตรฐาน ตอบสนองความต้องการของตลาด
ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา BAM ได้พิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในการเป็นองค์กรหลักเพื่อพลิกฟื้นสินทรัพย์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยสามารถช่วยเหลือลูกหนี้ให้ได้ข้อยุติจากการแก้ไขปัญหาหนี้สินไปแล้วกว่า 160,000 ราย คิดเป็นภาระหนี้เงินต้นกว่า 480,000 ล้านบาท เปรียบเสมือน "แก้มลิง" ที่ช่วยรองรับหนี้เสีย ป้องกันไม่ให้ไหลเข้าท่วมระบบสถาบันการเงิน นอกจากนี้ BAM ยังจำหน่ายทรัพย์สินรอการขายไปแล้วกว่า 53,000 รายการ คิดเป็นมูลค่าราคาประเมินกว่า 123,000 ล้านบาท ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบเศรษฐกิจไทย
BAM ดำเนินนโยบายเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ทุกรายเข้ามาเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อหาข้อยุติร่วมกันด้วยเงื่อนไขที่ยืดหยุ่น อาทิ การปรับลดหนี้ การโอนทรัพย์ชำระหนี้ และการให้ลูกหนี้ซื้อคืนทรัพย์หลักประกัน พร้อมทั้งจัดทำโครงการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ เช่น "โครงการสุขใจได้บ้านคืน" ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่มุ่งเน้นการคืนทรัพย์หลักประกันทั้งที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้แก่ลูกหนี้
โดย BAM ได้มีการรับซื้อหนี้เสียจากสถาบันการเงินในขณะนี้ไปแล้ว 7,000 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นปี จะรับซื้อได้ประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 9,000 ล้านบาท และปี 2568 ตั้งเป้ารับซื้อหนี้จากสถาบันการเงินที่ 9,000 ล้านบาท
ลูกหนี้ที่มีหลักประกันไม่เกิน 25 ล้านบาท สามารถชำระหนี้เพียง 80% ของราคาประเมิน พร้อมรับอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 25 เดือน ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 25 ปี
"โครงการ BAM ช่วยฟื้นคืนธุรกิจ" สำหรับลูกหนี้กลุ่ม Startup และ SME ที่มีภาระหนี้เงินต้นไม่เกิน 25 ล้านบาท โดยสามารถชำระหนี้เพียง 80% ของราคาประเมิน พร้อมรับอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 25 เดือน ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 25 ปี
นอกจากนี้ BAM ยังได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เป็นระยะเวลา 6 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 30 พฤศจิกายน 2567) สำหรับลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้และยังคงผ่อนชำระอยู่
นายบัณฑิต กล่าวเพิ่มเติมว่า “BAM เปิดโอกาสให้ลูกหนี้ทุกรายเข้ามาเจรจาประนอมหนี้ โดยพิจารณาจากความสามารถและกำลังในการผ่อนชำระที่แท้จริง เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินที่เหมาะสม ดังนั้น หากลูกหนี้ได้รับจดหมายเชิญเข้ามาประนอมหนี้กับ BAM ขออย่าลังเลใจ BAM พร้อมดูแลลูกหนี้ทุกรายเสมือนเป็นลูกค้าชั้นดีของธนาคารพาณิชย์”
ดร.ธนกร หวังพิพัฒน์วงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM กล่าวถึงการปรับตัวขององค์กรเพื่อรับมือกับกระแสเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในปัจจุบัน โดย BAM ได้กำหนดเป้าหมายการทรานส์ฟอร์มองค์กร (Transformation) 3 ด้านหลัก เพื่อก้าวสู่ยุคดิจิทัล 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ
ด้านแรกคือ Transformation for People มุ่งเน้นการยกระดับประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ BAM โดยเฉพาะลูกหนี้ BAM มุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนกระบวนการต่างๆ สู่ระบบดิจิทัล (Digitalization) เช่น การส่งจดหมาย Hello Letter หรือจดหมายเชิญประนอมหนี้ เพื่อความสะดวก รวดเร็ว รวมถึงการพัฒนาระบบ Mobile Application ที่ชื่อว่า BAM Choice ซึ่งช่วยให้ลูกหนี้สามารถเข้าถึงแผนประนอมหนี้ที่เหมาะสม ขอเจรจาปรับเปลี่ยนแผน และชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบาย ยิ่งไปกว่านั้น BAM ยังนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ และวิเคราะห์แผนการปรับโครงสร้างหนี้ที่เหมาะสม เพื่อให้ลูกค้าได้รับแผนประนอมหนี้ที่ตรงกับความต้องการและเงื่อนไขของตนเองอย่างรวดเร็ว
ด้านที่สอง Transformation for Growth มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและผลักดันการเติบโตขององค์กร โดย BAM พัฒนาช่องทางการสื่อสารกับลูกค้าแบบครบวงจร (Digitalization Channel) เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีจากทุกจุดบริการ และนำข้อมูล (Data) มาวิเคราะห์ (Data Analytics) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารหนี้ ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มยอดผลเรียกเก็บ
ด้านสุดท้าย Transformation for Efficiency มุ่งเน้นการพัฒนาระบบบริหารจัดการสินทรัพย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามและแก้ไขหนี้สิน โดย BAM จัดหาเครื่องมือทางด้านดิจิทัล ที่ช่วยให้พนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลในระบบสารสนเทศระดับองค์กร (Enterprise Information System: EIS) และนำมาใช้ในการดำเนินงานและตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปี BAM ได้จัดทำซีรีส์ "อิสระ เดอะซีรีส์ : BAM ทางออกสู่อิสระ" จำนวน 2 เรื่อง ได้แก่ "BAM อิสระจากวังวนหนี้" นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับการประนอมหนี้ และการช่วยเหลือให้ลูกหนี้สามารถซื้อคืนทรัพย์หลักประกันได้ และ "BAM ฝันมีทรัพย์เป็นจริง" นำเสนอเรื่องราวการซื้อทรัพย์ของ BAM ทั้งเพื่ออยู่อาศัยและการลงทุน โดยมุ่งเน้นกลุ่มคนทำงานวัยเริ่มต้น ซีรีส์ทั้ง 2 เรื่อง จะเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ของ BAM Thailand ได้แก่ Facebook, YouTube และ TikTok ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน – 20 ธันวาคม 2567