ผ่อนบ้านไม่ไหว ปล่อยให้ธนาคารยึดดีไหม? หรือทางออกมีมากกว่าที่คิด

ผ่อนบ้านไม่ไหว... อย่าเพิ่งถอดใจ! ถึงแม้ความฝันที่จะมีบ้านเป็นของตัวเองอาจกลายเป็นฝันร้าย เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาผ่อนชำระไม่ไหว ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม หลายคนอาจคิดว่าการปล่อยให้ธนาคารยึดบ้านไปเป็นทางออกที่ง่ายที่สุด แต่ในความเป็นจริงแล้ว นี่อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด และอาจนำมาซึ่งผลกระทบร้ายแรงในระยะยาวที่คุณคาดไม่ถึง

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

ยึด ไอซ์-เฮโรอีน ล็อตใหญ่ ซุกพระพุทธรูป

ทนายสายหยุด แจงแล้ว หลังเจอเพจดังแฉร่ำรวยผิดปกติ มีเมียหลายคน

ผ่อนบ้านไม่ไหว ปล่อยให้ธนาคารยึดดีไหม? หรือทางออกมีมากกว่าที่คิด

SAM อยากเตือนใจถึงความยากลำบากที่หลายคนกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ภาวะ "ผ่อนบ้านไม่ไหว" ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการตกงานกะทันหัน ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงิน และเมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ หลายคนอาจคิดว่าการปล่อยให้ธนาคารยึดบ้านไปเป็นทางออกที่ง่ายที่สุด แต่ในความเป็นจริงแล้ว นี่อาจเป็นการตัดสินใจที่นำมาซึ่งผลเสียมากมายในระยะยาว

ผลกระทบร้ายแรงจากการปล่อยให้ยึดทรัพย์

• ภาระดอกเบี้ยท่วมท้น: เมื่อผิดนัดชำระหนี้ ดอกเบี้ยจะถูกคิดในอัตราที่สูงขึ้นอย่างมาก ยิ่งปล่อยไว้นาน ยอดหนี้ก็จะยิ่งบานปลายจนยากจะรับมือ ตัวอย่างเช่น หากมียอดหนี้คงค้าง 1 ล้านบาท และถูกคิดดอกเบี้ยผิดนัด 18% ต่อปี ภายในเวลาเพียง 5 ปี ยอดหนี้จะพุ่งสูงขึ้นเกือบเท่าตัว
• เสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี: กระบวนการทางกฎหมายในการยึดทรัพย์นั้นซับซ้อนและใช้เวลานาน นอกจากจะสูญเสียบ้านไปแล้ว ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการดำเนินคดีอีกด้วย
• เครดิตพัง ยากต่อการกู้ยืมในอนาคต: ประวัติการผิดนัดชำระหนี้จะถูกบันทึกในเครดิตบูโร ทำให้ยากต่อการขอสินเชื่อใดๆ ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการซื้อรถยนต์ การขอสินเชื่อส่วนบุคคล หรือแม้แต่การเช่าบ้าน
• อาจถึงขั้นล้มละลาย: หากการขายทอดตลาดบ้านไม่สามารถครอบคลุมยอดหนี้ทั้งหมด เจ้าหนี้มีสิทธิ์ฟ้องร้องให้ลูกหนี้ล้มละลาย ซึ่งจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อชีวิตในหลายด้าน ทั้งการประกอบอาชีพและการทำธุรกรรมทางการเงิน

ทางออกที่ดีกว่า การเจรจาและปรับโครงสร้างหนี้

การสื่อสารกับเจ้าหนี้อย่างตรงไปตรงมาและแสวงหาทางออกร่วมกันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เจ้าหนี้ส่วนใหญ่มักยินดีที่จะเจรจาเพื่อหาทางออกที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย การปรับโครงสร้างหนี้อาจรวมถึง

• การขยายระยะเวลาผ่อนชำระ ทำให้ค่างวดลดลงฃ
• การลดอัตราดอกเบี้ยชั่วคราวหรือถาวร
• การพักชำระเงินต้นชั่วคราว

SAM พร้อมช่วยเหลือทุกท่าน

ทุกปัญหาหนี้บ้านมีทางออก คุณสามารถ เจรจาขอปรับโครงสร้างหนี้กับทางเจ้าหนี้ เพื่อหาทางออกร่วมกันได้ และหากท่านเป็นลูกค้า SAM ทุกท่านสามารถติดต่อเราเพื่อขอรับคำปรึกษา หรือยื่นคำขอปรับโครงสร้างหนี้ได้ เรามีนโยบายให้ความช่วยเหลือด้วยเงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม พร้อมสนับสนุนให้ท่านสามารถรักษาที่อยู่อาศัยของท่านไว้ได้ ท่านสามารถลงทะเบียนเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้และรับคำปรึกษาจาก SAM ได้ที่ คลิก

SAM หรือ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย เรามีภารกิจหลักในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ หรือ NPL ของระบบสถาบันการเงิน โดยทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญของภาครัฐในการแก้ไข พัฒนา และฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยการมอบโอกาสให้ลูกค้า SAM สามารถเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการเงินของแต่ละท่านได้อย่างเหมาะสม

อย่าปล่อยให้ปัญหาหนี้บ้านกลายเป็นอุปสรรคขวางกั้นความสุขของคุณ

จำไว้ว่าคุณไม่ได้ต่อสู้กับปัญหานี้อยู่เพียงลำพัง การสื่อสารอย่างเปิดเผยกับเจ้าหนี้และการขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น SAM สามารถช่วยให้คุณพบทางออกที่เหมาะสมที่สุดได้ อย่าปล่อยให้ความกลัวหรือความกังวลทำให้คุณตัดสินใจผิดพลาด การแก้ไขปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้คุณรักษาบ้านของคุณไว้ได้ และกลับมามีชีวิตทางการเงินที่มั่นคงอีกครั้ง

ติดต่อ SAM วันนี้ เพื่อเริ่มต้นเส้นทางสู่การแก้ไขปัญหาหนี้บ้านอย่างยั่งยืน เราพร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือคุณในการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อให้คุณสามารถผ่อนคลายความกังวลและกลับมามีชีวิตที่สดใสอีกครั้ง ติดต่อ SAM ได้ที่ โทร: 02-610-2252 หรือ 02-620-8996 จำไว้ว่า การปล่อยให้ปัญหาลุกลามไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายใด อย่ารอช้าที่จะขอความช่วยเหลือ และร่วมกันหาทางออกที่ดีที่สุแต่ทุกปัญหาหนี้บ้านมีทางออก คุณสามารถ เจรจาขอปรับโครงสร้างหนี้กับทางเจ้าหนี้ เพื่อหาทางออกร่วมกันได้