MK เสนอความอิ่มอร่อย สะดวก รวดเร็ว กับ "ชุดสุกี้ลูกชิ้นรวมมิตร" พร้อมปรุง เพียง 69 บาท วางจำหน่ายแล้วที่ 7-Eleven ทั่วประเทศ
บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เดินหน้าขยายฐานลูกค้าสุกี้ มุ่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ล่าสุดเปิดตัว "ชุดสุกี้ลูกชิ้นรวมมิตร" รูปแบบพร้อมปรุง สะดวก พกพาง่าย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งความสะดวก รวดเร็ว เหมาะกับผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีเวลาน้อย อร่อยเหมือนทานที่ร้าน ด้วยน้ำจิ้มสุกี้เอ็มเคสูตรต้นตำรับ เหมาะสำหรับทานคนเดียว หรือ ทานเป็นครอบครัวในราคาเพียง 69 บาท หาซื้อง่ายได้ 24 ชั่วโมง ที่ร้าน 7-Eleven
น้ำจิ้มสุกี้เอ็มเค สูตรต้นตำรับ บุก 7-11 สะดวกทุกที่ ทานได้ทุกเวลา
นอกจาก ชุดสุกี้ลูกชิ้นรวมมิตร แล้วทาง MK ยังได้นำ น้ำจิ้มสุกี้เอ็มเค สูตรต้นตำรับที่หลายคนหลงรัก วางจำหน่ายแล้วที่ 7-Eleven ในรูปแบบบรรจุขวด ขนาด 350 กรัม ราคา 65 บาท หลังจาก มีขายเฉพาะภายในร้าน ออกวางจำหน่ายในรูปแบบบรรจุขวด เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา
โดยมี 2 ขนาดให้เลือก ขวดใหญ่ 830 กรัม ราคา 119 บาท และขวดเล็ก 350 กรัม ราคา 65 บาท สำหรับช่องทางจำหน่าย
จากข้อมูลข้างต้น แสดงให้เห็นว่า MK สุกี้ มุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม เข้าถึงไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ล่าสุดกับ "ชุดสุกี้ลูกชิ้นรวมมิตร" รูปแบบพร้อมปรุง สะดวก พกพาง่าย ในราคาเพียง 69 บาท หาซื้อง่ายได้ 24 ชั่วโมง ที่ร้าน 7-Eleven กว่า 14,500 สาขาทั่วประเทศ
MK สุกี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้นำตลาดสุกี้เจ้าดัง แต่เวลานี้ กำลังเจอ สุกี้ตี๋น้อย ผู้ท้าชิงที่หายใจรดต้นคอ และพร้อมท้าชิงบัลลังก์สุกี้จาก MK เจ้าตลาดสุกี้หม้อไฟไทย ทำให้ทาง MK อยู่เฉยต่อไปอีกไม่ได้ ดังนั้นเราจึงเริ่มเห็น MK รุกตลาด Convenience Store โดยเริ่มจาก 7-Eleven วางจำหน่าย “ชุดสุกี้ลูกชิ้นรวมมิตรพร้อมปรุง” กลยุทธ์นี้ไม่ใช่แค่การขยายช่องทางจำหน่าย (Distribution) แต่แฝงไปด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่ชาญฉลาด และในอนาคตเราคงจะได้เห็น MK พัฒนากลยุทธ์นี้เพิ่มเติมได้ดังนี้
หาซื้อสินค้าได้ 24 ชั่วโมง
จุดอ่อนสำคัญของ MK สุกี้ ที่สุกี้ตี๋น้อยมี คือ หากินได้เกือบ 24 ชั่วโมง เนื่องจากร้าน สุกี้ตี๋น้อย ส่วนใหญ่จะเป็นร้าน Stand Alone จึงสามารถเปิด-ปิดเวลาไหนก็ได้ต่างจาก MK สุกี้ ที่จะอยู่ในห้างเป็นหลักทำให้มีเวลาเปิดปิดจำกัด แต่การวางขาย ชุดสุกี้ลูกชิ้นรวมมิตร ใน 7-Eleven อาจเป็นตัวช่วยได้เพราะผู้คนในปัจจุบันมีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย บางคนทำงานกะดึก บางคนชอบช้อปปิ้งตอนกลางคืน การหาซื้อสินค้าได้ 24 ชั่วโมง ช่วยให้พวกเขาสามารถซื้อสินค้าที่ต้องการได้ โดยไม่ต้องรอเวลาเปิดปิดร้าน และยังเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่
นอกจากนี้การจำหน่ายชุดสุกี้ผ่าน 7-Eleven ก็เป็นการขยายช่องทางการขาย เข้าถึงลูกค้าใหม่ ๆ ได้จริง แต่ MK Restaurants ยังสามารถขยายตลาดได้กว้างขึ้นอีกดังนี้
เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม เข้าถึงไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ และรักษาความอร่อยของสุกี้เอ็มเคไว้เช่นเดิม หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติ บวกกับคนไทยนิยมทานอาหารในร้านมากขึ้น นอกจากนี้อีกสาเหตุสำคัญคือ ต้นทุนลดลง วัตถุดิบบางชนิดมีแนวโน้มราคาลดลงโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 รวมถึงบริษัทฯ มีกำรปรับราคาขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้ และ สัดส่วนการทานที่ร้านที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ กำไรสุทธิ ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นของการทานที่ร้านนั้นสูงกว่าแบบดิลิเวอรี สำหรับสัดส่วนรายได้ แบ่งตามช่องทางการขาย ดังนี้
ปัจจุบัน บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มีแบรนด์ร้านอาหารในเครือทั้งหมดกว่า 10 แบรนด์ โดย MK สุกี้ ยังคงเป็น แบรนด์หลัก ที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทมากที่สุด คิดเป็น 75% ของรายได้รวม (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ร้านเอ็มเค สุกี้ มีจำนวนทั้งหมด 448 สาขาทั่วประเทศ) รองลงมาคือ ยาโยอิ (18%) แหลมเจริญซีฟู้ด (6%) และ อื่นๆ (1%)
ผลประกอบการย้อนหลัง 5 ปีของบริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ในปี 2566 MK เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มีรายได้ 16,974 ล้านบาท กำไร 1,682 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของกลยุทธ์ต่างๆ ที่บริษัทฯ นำมาใช้ รวมไปถึงความนิยมในแบรนด์ MK สุกี้ ที่ยังคงเป็นแบรนด์หลักที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทมากที่สุด