นับตั้งแต่ปี 2023 Tesla ได้ลดจำนวนพนักงานทั่วโลกลงเหลือเพียง 121,000 คน รวมถึงพนักงานชั่วคราว ตามบันทึกภายในที่ชี้ว่า บริษัทได้ลดจำนวนพนักงานลงมากกว่า 14% จนถึงปีนี้
ล่าสุด Tesla ได้ประกาศลดพนักงาน เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เมื่ออีลอน มัสก์ส่งอีเมลทั่วทั้งบริษัทเพื่อแจ้งพนักงานว่า บริษัทจะลดจำนวนพนักงานลงมากกว่า 10% และในขณะนี้เอง การเลิกจ้างดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า อีลอน มัสก์ตั้งเป้าลดพนักงานมากถึง 20% และตัวเลขอาจมากกว่านี้อีก โดยในผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทในเดือนเมษายน มัสก์กล่าวว่า Tesla ได้มาถึงระดับความไร้ประสิทธิภาพที่ 25-30% หลังจากยุคความเจริญรุ่งเรืองอันยาวนานที่เริ่มขึ้นในปี 2019
ที่ผ่านมา บริษัทได้ทำการแก้ไขบางอย่างระหว่างทาง แต่ถึงเวลาแล้วที่จะต้อง ‘จัดระเบียบบริษัทใหม่’ เพื่อการเติบโตในระยะต่อไป ซึ่งในไฟล์ลิ่งไตรมาสที่ 4/2023 Tesla เผยจำนวนพนักงานทั่วโลก ณ สิ้นเดือนธันวาคมอยู่ที่ 140,473 คน โดยรวมทั้งพนักงานเงินเดือนและพนักงานค่าจ้างรายชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขของจำนวนพนักงานล่าสุด จากการนับพนักงานที่อยู่ในรายชื่อการส่งอีเมลของ Tesla ณ วันที่ 17 มิถุนายน โดยสำนักข่าว CNBC อยู่ที่ประมาณ 121,000 คน แสดงให้เห็นว่า Tesla ได้ลดจำนวนพนักงานโดยรวมลงอย่างน้อย 14% นับตั้งแต่สิ้นปี 2023 โดยส่วนหนึ่งมาจากการยุบทีม Supercharging ที่มีพนักงานหลายร้อยคน ซึ่งต่อมาบริษัทได้จ้างคนเหล่านั้นกลับมาอีกครั้ง
การปรับลดพนักงานในวงกว้างเกิดขึ้นพร้อมกับยอดขายที่ลดลงของ Tesla เนื่องจากบริษัทคำนึงถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่เริ่มมีอายุมากขึ้นและการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในจีน รวมถึงการเสื่อมถอยของแบรนด์ ซึ่งการสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก ‘การแสดงตลก’ และ ‘การโวยวายทางการเมือง’ ของมัสก์ ที่กระทบไปถึงรายได้ในไตรมาสแรกลดลง 9% ซึ่งลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2012
ส่วนการปลดพนักงานในอนาคต สำนักข่าว CNBC เผยว่า พนักงานของ Tesla ท่านหนึ่งที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ บอกกับ CNBC ว่า คนงานในโรงงานบางคนกลัวว่าจะมีการเลิกจ้างอีกในเดือนกรกฎาคม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลประกอบการในไตรมาสสอง ที่คาดว่าจะประกาศในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม
ทางด้านอีลอน มัสก์ให้คำสัญญากับนักลงทุนว่า บริษัทจะเผยแพร่ ‘แผนมาสเตอร์’ ใหม่เร็วๆ นี้ ซึ่งจะเป็นแผนฉบับที่ 4 ของเขา และ Tesla ก็จะเปิดเผยการออกแบบสำหรับโรโบแท็กซี่ หรือแท็กซี่ไร้คนขับ ในวันที่ 8 สิงหาคม 2567 นี้
ที่มา CNBC