Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN (Thailand) ได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ผ่านรายงานสองฉบับที่น่าสนใจ ไปที่ภาพรวมความสุขของคนไทย ซึ่งพบว่ายังคงทรงตัวแม้เผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ด้านแนวโน้มการใช้จ่ายยังคึกคัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มวัย 40-49 ปี
นอกจากนี้ Hakuhodo ยังได้เสนอ 3 กลยุทธ์สำคัญที่แบรนด์สามารถนำไปปรับใช้เพื่อเข้าถึงและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคไทยในยุคปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะสรุปข้อมูลสำคัญจากรายงานทั้งสองฉบับ พร้อมทั้งนำเสนอข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์จาก Hakuhodo เพื่อเป็นแนวทางให้ธุรกิจสามารถปรับตัวและเติบโตในตลาดที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป
Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN (Thailand) ได้เผยแพร่รายงานสรุปภาพรวมความสุขของคนไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 โดยพบว่าดัชนีความสุขโดยเฉลี่ยยังคงที่ 64 คะแนน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกหลายประการที่ช่วยส่งเสริมความสุข อาทิ เทศกาลและกระแสสังคมต่างๆ แต่ปัจจัยลบ เช่น ความกังวลด้านเศรษฐกิจ สภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้น และสภาพอากาศที่ร้อนจัดจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ก็ยังคงส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าคนไทยยังคงมีความหวังในอนาคต โดย 45% ของผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่าระดับความสุขจะเพิ่มขึ้นในอีก 3 เดือนข้างหน้า ขณะที่ 49% คาดว่าจะลดลง และ 6% คาดว่าจะคงที่ Hakuhodo ได้สรุปว่าแม้ภาพรวมความสุขของคนไทยในครึ่งปีแรก 2567 จะยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่ความคาดหวังในอนาคตที่สดใสกว่าเดิมสะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและการปรับตัวของคนไทยต่อสถานการณ์ต่างๆ
สำหรับผลสำรวจแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 โดยพบว่าภาพรวมการใช้จ่ายมีความคึกคักและมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา สำหรับดัชนีชี้วัดความตั้งใจในการใช้จ่าย (Average Score of Intention to Consume) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 66 คะแนน เพิ่มขึ้นจาก 64 คะแนนในช่วงเดียวกันของปี 2563 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความพร้อมในการจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค
ปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญ
แต่ถึงแม้ว่าแม้ว่าดัชนีความตั้งใจในการใช้จ่ายจะลดลงเล็กน้อยในเดือนเมษายน 2567 (62 คะแนน) เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2567 (65 คะแนน) และมิถุนายน 2567 (65 คะแนน) แต่โดยรวมแล้วแนวโน้มการใช้จ่ายในครึ่งปีแรกของปี 2567 ยังคงเป็นไปในทิศทางบวก และคาดว่าจะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ดังนั้นหากมองภาพรวมจะดูสดใส แต่ผู้ประกอบการและนักการตลาดควรติดตามสถานการณ์และปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN (Thailand) ได้เปิดเผยรายงานวิเคราะห์แนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 โดยพบว่าภาพรวมการใช้จ่ายยังคงคึกคัก โดยมีดัชนีความตั้งใจในการใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 66 คะแนน เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับนี้ได้เน้นย้ำถึงความแตกต่างในการใช้จ่ายที่เห็นได้ชัดเจนระหว่างกลุ่มอายุต่างๆ
ภาพรวมการใช้จ่าย ดัชนีความตั้งใจในการใช้จ่ายเฉลี่ย: 66 คะแนน (+1% เทียบกับปีที่แล้ว)
พฤติกรรมการใช้จ่ายตามช่วงอายุ
Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN (Thailand) ได้เปิดเผยรายงานวิเคราะห์แนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 โดยพบว่าภาพรวมการใช้จ่ายยังคงคึกคัก โดยมีดัชนีความตั้งใจในการใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 66 คะแนน เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับนี้ได้เน้นย้ำถึงความแตกต่างในการใช้จ่ายที่เห็นได้ชัดเจนระหว่างกลุ่มอายุต่างๆ
ภาพรวมการใช้จ่าย ดัชนีความตั้งใจในการใช้จ่ายเฉลี่ย: 66 คะแนน (+1% เทียบกับปีที่แล้ว)
พฤติกรรมการใช้จ่ายตามช่วงอายุ
ข้อสังเกตเพิ่มเติม
ข้อมูลจาก Hakuhodo ชี้ให้เห็นว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคไทยในครึ่งปีแรก 2567 ยังคงมีแนวโน้มเติบโต แม้จะมีความผันผวนในบางช่วงเวลา การทำความเข้าใจพฤติกรรมการใช้จ่ายที่แตกต่างกันในแต่ละกลุ่มอายุจะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด และหากฉายภาพให้เห็นถึงความหลากหลายในการใช้จ่ายของผู้บริโภคไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างของความต้องการและแรงจูงใจในการจับจ่ายของแต่ละกลุ่มอายุ การทำความเข้าใจถึงความแตกต่างเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคแต่ละกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN (Thailand) เสนอ 3 แนวทางหลักเพื่อให้แบรนด์สามารถตอบสนองต่อพฤติกรรมผู้บริโภคไทยที่เปลี่ยนแปลงไปในปี 2567 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้
1.BrandFest สร้างเทศกาลของแบรนด์เพื่อตอกย้ำคุณค่าและความเชื่อ
2.Emphasize Thainess สื่อสารอารมณ์และตัวตนของแบรนด์ด้วยอัตลักษณ์ความเป็นไทย
3.New wave of Mutelu นำ "มูเตลู" มาเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์อย่างยั่งยืน
จากข้อมูลและข้อเสนอแนะจาก Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN (Thailand) จะเห็นได้ว่าปี 2567 เป็นปีแห่งความท้าทายและโอกาสสำหรับแบรนด์ต่างๆ ในประเทศไทย การทำความเข้าใจถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการปรับตัวให้เข้ากับกระแสใหม่ๆ อย่างรวดเร็ว จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์สามารถประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วนี้