ทุกครั้งที่เอ่ยถึง ความตาย หลายคนคงนึกถึงความเศร้า ความสูญเสีย และความรู้สึกด้านลบอื่นๆ ที่ยากจะหลีกเลี่ยง แต่ในโลกของธุรกิจ ความตายกลับกลายเป็นสิ่งที่สามารถสร้างมูลค่าและโอกาสได้อย่างมหาศาล ภาพยนตร์ญี่ปุ่นชื่อดังอย่าง "Departures (Okuribito)" ได้ถ่ายทอดเรื่องราวอันงดงามและสะเทือนอารมณ์เกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับความตายและการค้นพบคุณค่าของชีวิต ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทั่วโลก แต่ยังเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความตายอีกด้วย
บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจโลกของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความตาย ผ่านเรื่องราวของ "โนคันชิ" ผู้ทำหน้าที่เตรียมร่างผู้วายชนม์ในประเทศญี่ปุ่น และภาพยนตร์ "Departures" ที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและคุณค่าของธุรกิจที่มักถูกสังคมมองข้าม เราจะมาถอดบทเรียนและข้อคิดที่ผู้ประกอบการสามารถนำไปปรับใช้ เพื่อสร้างธุรกิจที่ไม่เพียงแต่สร้างรายได้ แต่ยังสร้างคุณค่าและความหมายให้กับชีวิต แม้ในวาระสุดท้าย
ภาพยนตร์ญี่ปุ่นชื่อดัง Departures (Okuribito) เรื่องนี้คือหนึ่งในความทรงจำที่งดงามจนยากจะลืมเลือน แม้เวลาจะผ่านไปถึง 10 ปีแล้วก็ตาม (หนังฉายในปี 2008) นี่เป็นเครื่องยืนยันว่าผลงานที่ดีจะคงอยู่ในใจคนดูตลอดไป ไม่เพียงแต่เป็นภาพยนตร์ที่งดงามและสะเทือนอารมณ์เกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับความตายและการค้นพบคุณค่าของชีวิตเท่านั้น แต่ยังนำเสนอมุมมองเชิงธุรกิจที่น่าสนใจอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นของ "การสร้างธุรกิจจากสิ่งที่สังคมมองข้าม" และ "การสร้างคุณค่าและความหมายให้กับงานที่ทำ" ซึ่งสามารถเป็นกรณีศึกษาที่ทรงคุณค่าสำหรับผู้ประกอบการและนักธุรกิจ
เรื่องราวของโคบายาชิ อดีตนักเชลโลที่ต้องละทิ้งความฝันและกลับบ้านเกิดอย่างผู้พ่ายแพ้ เขาต้องหางานใหม่ และได้พบกับงาน "ผู้ช่วยส่งคนเดินทาง" ซึ่งแท้จริงแล้วคืองานแต่งหน้าศพ โคบายาชิรู้สึกอึดอัดและไร้ซึ่งความภาคภูมิใจในตอนแรก ในบริบทของสังคมญี่ปุ่น อาชีพสัปเหร่อ หรือ "โนคันชิ" ถือเป็นอาชีพที่ไม่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความตายและสิ่งที่ไม่เป็นมงคล อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า แม้แต่อาชีพที่สังคมมองข้าม ก็สามารถสร้างเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและมีคุณค่าได้ หากเรามองเห็นโอกาสและสามารถสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับมัน
ในเรื่อง โคบายาชิ จะเริ่มต้นด้วยความรู้สึกอับอายและลังเลที่จะบอกคนอื่นว่าเขาทำงานอะไร แต่อาชีพสัปเหร่อกลับทำให้เขาได้เรียนรู้คุณค่าของชีวิตและความสำคัญของการจากลาอย่างมีเกียรติ นี่คือบทเรียนสำคัญสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะประกอบอาชีพใดก็ตาม
นอกจากนี้ หนังยังมีประเด็นเกี่ยวกับปมในอดีตของพระเอกเรื่องพ่อ ซึ่งเมื่อนำมาร้อยเรียงกับเส้นเรื่องหลักเกี่ยวกับความตาย ก็กลายเป็นจุดพีคที่ทำให้ผู้ชมหลายคนเสียน้ำตา ในการเดินทางท่องเที่ยว เราอยากเก็บภาพความทรงจำที่สวยงาม แต่สำหรับการเดินทางครั้งสุดท้าย ความทรงจำเหล่านั้นมีไว้เพื่อคนที่ยังอยู่ พวกเขาอยากมีภาพความทรงจำสุดท้ายต่อคนที่รัก ให้งดงามที่สุดเสมอ นี่คือเหตุผลที่อาชีพ "ผู้ช่วยส่งคนเดินทาง" มีความสำคัญอย่างมาก
Departures (Okuribito) สอนให้เรารู้ว่า ทุกอาชีพมีคุณค่าและศักดิ์ศรี หากเรามองเห็นโอกาสและทำมันด้วยใจที่รักและทุ่มเท นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการสร้างคุณค่าและความหมายให้กับงานที่ทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะนำมาซึ่งความสุขและความสำเร็จในชีวิต
นิยามคำว่า "สัปเหร่อ" ครอบคลุมถึงผู้ปฏิบัติภารกิจเกี่ยวกับการจัดการศพ ตั้งแต่การเตรียมร่างไปจนถึงพิธีฝังหรือฌาปนกิจ อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากภาพยนตร์ญี่ปุ่น จะพบว่า บทบาทของสัปเหร่อในสังคมญี่ปุ่นมีความแตกต่างจากสัปเหร่อไทยอย่างมีนัยสำคัญ กล่าวคือ สัปเหร่อญี่ปุ่นไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับพิธีกรรมทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว หากแต่มีการแบ่งแยกภาระหน้าที่อย่างเป็นระบบตามลำดับขั้นตอนของพิธีกรรม ซึ่งสามารถจำแนกประเภทของสัปเหร่อญี่ปุ่นได้ดังต่อไปนี้
จากที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่า กระบวนการจัดการศพในญี่ปุ่นมีความละเอียดอ่อนและซับซ้อนกว่าในประเทศไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของพิธีกรรมและการให้ความเคารพต่อผู้วายชนม์ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น
แม้คำว่า "สัปเหร่อ" จะคุ้นหูคนไทยมากกว่า แต่ในญี่ปุ่น "โนคันชิ" คือผู้ทำหน้าที่คล้ายกัน แต่ด้วยความประณีตและละเอียดอ่อนเหนือระดับ พวกเขาไม่เพียงแค่จัดการร่างกายไร้วิญญาณ แต่ยังเป็นเสมือนผู้เตรียมความพร้อมให้ผู้ล่วงลับ ก่อนเดินทางสู่โลกหน้า
ภารกิจของโนคันชิครอบคลุมตั้งแต่การชำระล้างร่างกาย แต่งหน้า แต่งกาย จัดวางในโลงศพ ไปจนถึงการจัดเตรียมสถานที่ฌาปนกิจ ทุกขั้นตอนล้วนดำเนินไปภายใต้สายตาของญาติผู้วายชนม์ และต้องใช้ทั้งทักษะ ความชำนาญ และความเคารพอย่างสูงสุด
การชำระล้างร่างกาย ไม่ใช่เพียงแค่การทำความสะอาด แต่เป็นการชะล้างความเหนื่อยล้า ความเจ็บปวด และความห่วงใยที่ผู้ล่วงลับอาจยังมีต่อโลกนี้ โนคันชิจะทำทุกอย่างอย่างเบามือ ภายใต้ผ้าคลุม เพื่อเป็นการให้เกียรติผู้วายชนม์ แม้แต่การแต่งกาย ก็ต้องใช้ความประณีตและชำนาญเป็นพิเศษ
ทุกขั้นตอนเต็มไปด้วยความเงียบสงบและสุขุม มีเพียงเสียงสัมผัสผ้านุ่มนวล และเสียงสะอื้นของญาติผู้สูญเสีย แม้สังคมญี่ปุ่นบางส่วนยังมองว่าโนคันชิเป็นอาชีพอัปมงคล แต่ในความเป็นจริง พวกเขาคือผู้ส่งวิญญาณสู่ภพภูมิด้วยหัวใจ เปลี่ยนช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้า ให้กลายเป็นความทรงจำที่งดงามและสมบูรณ์ที่สุด
ในปัจจุบัน ความต้องการบุคลากรในสายงานที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมหลังความตายกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากการเปิดหลักสูตรเฉพาะทางเพื่อ "โนคันชิ" ผู้เชี่ยวชาญในการเตรียมร่างผู้วายชนม์ ซึ่งมีให้เลือกทั้งหลักสูตรระยะสั้นและหลักสูตรเชิงธุรกิจ ณ สถาบัน Okuribito Academy ในกรุงโตเกียว โดยผู้สำเร็จการศึกษาจะได้รับใบรับรองคุณวุฒิ
แม้ว่าอาชีพสัปเหร่อ โนคันชิ หรือแม้แต่ธุรกิจบริการงานศพจะยังคงถูกมองว่าเป็นอาชีพที่ไม่เป็นมงคลในสายตาของคนบางกลุ่ม แต่ตัวเลขกลับบอกเล่าเรื่องราวที่แตกต่างออกไป สถิติยอดขายรายเดือนของธุรกิจงานศพในญี่ปุ่นระหว่างปี 2018-2022 ชี้ให้เห็นถึงการเติบโตที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนมีนาคม 2022 ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 14.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า แม้จะเผชิญกับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19
ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมนี้อาจมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย หนึ่งในนั้นคือความสะดวกสบายที่บริการครบวงจรนำเสนอ ตั้งแต่การจัดการร่างผู้วายชนม์ไปจนถึงการจัดหาสถานที่ประกอบพิธี นอกจากนี้ การมอบบริการที่ดีที่สุดให้กับผู้จากไปอาจเป็นเสมือนของขวัญชิ้นสุดท้ายที่ญาติมอบให้ เป็นการแสดงความเคารพและความรักอย่างสูงสุด แม้เราจะไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าดวงวิญญาณนั้นจะรับรู้หรือไม่ก็ตาม
จากเรื่องราวของภาพยนตร์ Departures และบทบาทของ "โนคันชิ" เราสามารถสรุปข้อคิดสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างธุรกิจจากสิ่งที่สังคมมองข้ามได้ดังนี้
ตัวอย่างธุรกิจที่สร้างจากสิ่งที่สังคมมองข้าม
ธุรกิจเหล่านี้อาจไม่ใช่อาชีพที่ใครหลายคนใฝ่ฝัน แต่ก็เป็นธุรกิจที่จำเป็นและมีคุณค่าต่อสังคม หากผู้ประกอบการสามารถมองเห็นโอกาสและสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับธุรกิจเหล่านี้ ก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จและสร้างรายได้ได้เช่นกัน ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ความตายจะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ทัศนคติและมุมมองต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกำลังเปลี่ยนแปลงไป และอาจเป็นโอกาสสำหรับผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพที่ให้คุณค่าและความหมายแก่ชีวิต แม้ในวาระสุดท้าย
ที่มา Okuribitoimdb, punpro, FB Okuribito Academy และ statista