แม้ว่าโลกธุรกิจจะถูกขับเคลื่อนด้วยหลักเหตุผลและข้อมูลเชิงประจักษ์ แต่ปรากฏการณ์ที่น่าสนใจคือ มนุษย์เรายังคงมีความเชื่อ ความศรัทธา และความสนใจในสิ่งที่เหนือธรรมชาติ สิ่งลี้ลับ และเรื่องราวที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์
บทความนี้จะพาท่านผู้อ่านสำรวจความสัมพันธ์ที่น่าสนใจระหว่างธุรกิจและสิ่งลี้ลับ ตั้งแต่พื้นฐานแห่งความเชื่อ ไปจนถึงกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้ประโยชน์จากความสนใจในเรื่องลึกลับ พร้อมทั้งเจาะลึกตัวอย่างและแนวคิดที่น่าสนใจ
บทความนี้ SPOTLIGHT จะพาท่านผู้อ่านสำรวจความสัมพันธ์ที่น่าสนใจระหว่างธุรกิจและสิ่งลี้ลับ ตั้งแต่พื้นฐานแห่งความเชื่อ ไปจนถึงกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้ประโยชน์จากความสนใจในเรื่องลึกลับ
พื้นฐานแห่งความจริง ทำไมมนุษย์ถึงยังคงเชื่อในสิ่งลี้ลับ แม้ว่าวิทยาศาสตร์จะก้าวหน้าไปมาก แต่ก็ยังมีปรากฏการณ์และประสบการณ์มากมายที่เรายังไม่สามารถอธิบายได้อย่างสมบูรณ์ เช่น ประสบการณ์ใกล้ตาย (Near-Death Experiences) หรือปรากฏการณ์ทางจิต (Psychic Phenomena) ความต้องการที่จะเข้าใจสิ่งเหล่านี้จึงเป็นแรงผลักดันให้มนุษย์แสวงหาคำตอบจากสิ่งที่เหนือธรรมชาติ นอกจากนี้ ความเชื่อในสิ่งลี้ลับยังตอบสนองความต้องการทางจิตวิญญาณ สร้างความหวัง และให้กำลังใจในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เช่น การสวดมนต์ขอพร หรือการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล
ธุรกิจจำนวนมากได้ใช้ประโยชน์จากความสนใจในสิ่งลี้ลับเพื่อสร้างรายได้และดึงดูดลูกค้า ตัวอย่างเช่น
การทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสิ่งลี้ลับก็มีความท้าทายเช่นกัน เนื่องจากเส้นแบ่งระหว่างความเชื่อและการหลอกลวงนั้นบางมาก ธุรกิจจึงต้องมีความรับผิดชอบและไม่ฉวยโอกาสจากความเชื่อของผู้บริโภค ตัวอย่างเช่น การขายวัตถุมงคลที่มีราคาสูงเกินจริง หรือการให้บริการดูดวงที่ไม่มีมูลความจริง อาจส่งผลเสียต่อทั้งผู้บริโภคและภาพลักษณ์ของธุรกิจในระยะยาว
มูลค่าการตลาดของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสิ่งลี้ลับนั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจและซับซ้อน เนื่องจากมีความหลากหลายและกระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก ยกตัวอย่างของไทย ธุรกิจสายมูเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปี 67 เงินสะพัดกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อและความศรัทธาของคนไทยที่มีต่อศาสตร์ลี้ลับต่างๆ ปัจจุบันมีธุรกิจสายมูจดทะเบียนอย่างถูกต้องทั้งสิ้น 134 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 135.89 ล้านบาท โดยกรุงเทพมหานครมีจำนวนธุรกิจสายมูมากที่สุด 62 ราย คิดเป็น 46.27% ของธุรกิจสายมูทั้งหมด ทำให้การประเมินมูลค่าที่แน่นอนเป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ตาม เราสามารถวิเคราะห์แนวโน้มและตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพรวมได้ดังนี้
ตัวอย่างมูลค่าตลาด
ธุรกิจสามารถใช้สิ่งลี้ลับเป็นเครื่องมือทางการตลาดเพื่อสร้างความแตกต่างและดึงดูดความสนใจ ตัวอย่างเช่น
แม้ว่ากระแสความเชื่อและศรัทธาจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทย แต่พบว่าธุรกิจที่ดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับความเชื่อและศรัทธามีการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลในสัดส่วนที่น้อยมาก โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงเลือกดำเนินธุรกิจในรูปแบบบุคคลธรรมดา
ข้อมูลปัจจุบันระบุว่ามีนิติบุคคลที่ดำเนินธุรกิจในสายมูเพียง 134 ราย ด้วยทุนจดทะเบียนรวม 135.89 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มีการดำเนินงานอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร คิดเป็นสัดส่วน 46.27% รองลงมาคือ ภาคกลาง 26.12%, ภาคตะวันออก 9.70%, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5.22%, ภาคเหนือ 5.22%, ภาคใต้ 4.48% และภาคตะวันตก 2.99% ตามลำดับ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงใคร่ขอเชิญชวนผู้ประกอบการธุรกิจสายมูให้พิจารณาจดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคล เพื่อเปิดโอกาสในการขยายธุรกิจและเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่จะช่วยส่งเสริมความมั่นคงและความยั่งยืนให้กับธุรกิจของท่านบนเส้นทางแห่งศรัทธา
ธุรกิจและสิ่งลี้ลับมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและสามารถนำมาใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ หากดำเนินการอย่างถูกต้อง ก็สามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจและประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับผู้บริโภคได้ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจต้องมีความรับผิดชอบและคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้บริโภคอยู่เสมอ การใช้สิ่งลี้ลับเป็นเครื่องมือทางการตลาดควรอยู่บนพื้นฐานของความเคารพในความเชื่อและไม่สร้างความเสียหายต่อสังคม
ที่มา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม