การวิจัยเชิงลึกครั้งนี้ ช่วยให้เราเข้าใจถึง 4 มิติสำคัญที่ขับเคลื่อนแบรนด์สู่ความสำเร็จ และยังเจาะลึกถึงพฤติกรรมผู้บริโภคทั้ง 7 เจน ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายและโอกาสสำหรับนักการตลาดในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย มาร่วมสำรวจกันว่า แบรนด์ใดบ้างที่สามารถคว้าตำแหน่ง "สุดยอดแบรนด์ทรงพลัง" ในปีนี้ไปครอง และอะไรคือกุญแจสำคัญที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน
เมื่อเร็วๆนี้ ภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดงานประกาศเกียรติคุณและมอบรางวัล “The Most Powerful Brands of Thailand 2024” หรือ "สุดยอดแบรนด์ทรงพลังของประเทศไทย 2567" ให้แก่แบรนด์ที่โดดเด่นที่สุดใน 29 กลุ่มผลิตภัณฑ์ การสำรวจและจัดอันดับแบรนด์ครั้งนี้ถือเป็นครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร รักษาการอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกก์ ภทรธนกุล หัวหน้าภาควิชาการตลาด ได้กล่าวถึงความสำคัญของการจัดอันดับแบรนด์ในครั้งนี้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยที่ภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องทุก 2 ปี และในปีนี้เป็นครั้งที่ 7 ของการจัดงาน นอกเหนือจากการประกาศรางวัลแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดใน 29 กลุ่มผลิตภัณฑ์แล้ว คณะผู้วิจัยยังได้ทำการวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบรนด์เหล่านี้ประสบความสำเร็จ เพื่อนำมาเป็นองค์ความรู้ในการพัฒนากลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดในยุคปัจจุบัน
รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฐพล อัสสะรัตน์ หัวหน้าโครงการวิจัย ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการประเมินความแข็งแกร่งของแบรนด์ โดยระบุว่าการประเมินจะครอบคลุม 4 มิติหลัก ได้แก่ ความตระหนักในแบรนด์ (Awareness), ความชื่นชอบในแบรนด์ (Preference), การใช้ผลิตภัณฑ์ (Usage) และภาพลักษณ์ (Image) ซึ่งการวิเคราะห์ทั้ง 4 มิตินี้จะช่วยให้เข้าใจถึงความสำเร็จของแบรนด์ได้อย่างรอบด้าน ทั้งในแง่ของส่วนแบ่งการตลาด (Market Share), ส่วนแบ่งความคิด (Mind Share) และส่วนแบ่งความรู้สึก (Heart Share)
ทั้งนี้ เพื่อให้ผลลัพธ์การวิจัยมีความน่าเชื่อถือและแม่นยำ ทีมวิจัยได้ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นจากกลุ่มตัวอย่างจำนวนมากถึง 24,000 คน แบ่งเป็นกลุ่มในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 12,000 คน และกระจายตัวอยู่ใน 13 จังหวัดหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศอีก 12,000 คน กลุ่มตัวอย่างเหล่านี้ล้วนเป็นผู้บริโภคชาวไทยที่มีอายุระหว่าง 18-69 ปี ครอบคลุมความหลากหลายทั้งทางเพศและวัย และที่สำคัญที่สุดคือ ทุกคนต้องเป็นผู้ที่ตัดสินใจซื้อและใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้น ๆ ด้วยตัวเอง เพื่อให้แน่ใจว่าเสียงสะท้อนที่ได้มานั้น เป็นเสียงจริงจากผู้บริโภคโดยตรง นำไปสู่การประเมินแบรนด์ที่แม่นยำและตรงใจที่สุด
รองศาสตราจารย์ หม่อมหลวงสาวิกา อุณหนันท์ รองประธานหลักสูตร Master in Branding and Marketing (MBM) และหนึ่งในทีมวิจัย ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจเพิ่มเติมว่า ในโลกปัจจุบัน แบรนด์ที่แข็งแกร่งและยั่งยืนนั้น ไม่ได้วัดกันเพียงแค่ชื่อเสียงหรือการสร้างคุณค่าให้กับผู้บริโภคเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงบทบาทต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย แบรนด์ยุคใหม่ต้องมุ่งสู่การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน คำนึงถึงผลกระทบในวงกว้าง
รองศาสตราจารย์ หม่อมหลวงสาวิกา ยังได้เน้นย้ำถึงพันธกิจของภาควิชาการตลาด ในการพัฒนาองค์ความรู้เพื่อยกระดับแบรนด์ไทยให้เท่าทันโลกยุคใหม่ และตอบสนองต่อความต้องการของสังคม การวิจัยครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การจัดอันดับ แต่เป็นก้าวสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจและสังคมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน
นอกจากการจัดอันดับแบรนด์แล้ว คณะวิจัยยังได้ทำการสำรวจค่านิยมและกระบวนการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอย่างละเอียด ทำให้สามารถจำแนกกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยออกเป็น 7 เจน (Generations) ซึ่งแต่ละเจนมีพฤติกรรมและการตัดสินใจซื้อที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน นี่ไม่ใช่แค่การแบ่งกลุ่มตามช่วงอายุแบบเดิม ๆ แต่สะท้อนถึงบริบทและความเปลี่ยนแปลงทางสังคมของไทยในปัจจุบันอย่างแท้จริง องค์ความรู้นี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักการตลาดในการวางกลยุทธ์ที่เข้าถึงและโดนใจผู้บริโภคแต่ละเจนได้อย่างแม่นยำ และสำหรับปีนี้ สุดยอดแบรนด์ทรงพลัง The Most Powerful Brands of Thailand 2024 ทั้ง 29 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่
การจัดอันดับ "สุดยอดแบรนด์ทรงพลังแห่งปี 2024" โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่เพียงแต่เป็นการยกย่องแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย แต่ยังเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงวิวัฒนาการของการสร้างแบรนด์ที่ต้องคำนึงถึงทั้งส่วนแบ่งการตลาด (Market Share), ส่วนแบ่งความคิด (Mind Share) และส่วนแบ่งความรู้สึก (Heart Share) อย่างสมดุล
แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในวันนี้ ไม่ได้มาจากการสร้างชื่อเสียงหรือมอบคุณค่าเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งใน 4 มิติแห่งความแข็งแกร่งของแบรนด์ และความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคแต่ละเจน
การเดินทางสู่การเป็น "สุดยอดแบรนด์ทรงพลัง" จึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สำหรับแบรนด์ที่สามารถผสานทุกองค์ประกอบเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว รางวัลนี้จะเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับแบรนด์อื่นๆ ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภคต่อไป