จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเศรษฐกิจมังกรแผ่นดินใหญ่ส่งสัญญาณชะลอตัว สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลก กระทบถึงขั้นมหาเศรษฐีระดับโลกอย่าง "แบร์นาร์ด อาร์โนลต์" เจ้าของอาณาจักรสินค้าหรู LVMH ต้องสูญเสียความมั่งคั่งไปกว่า 4 แสนล้านบาท บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงความเชื่อมโยงของเศรษฐกิจจีน ผลกระทบต่อธุรกิจสินค้าฟุ่มเฟือย และอนาคตของ LVMH ภายใต้การนำทัพของอาร์โนลต์ ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก
แบร์นาร์ด อาร์โนลต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LVMH กำลังเผชิญกับภาวะผันผวนของมูลค่าทรัพย์สินส่วนบุคคลอย่างมีนัยสำคัญ โดยในช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ความมั่งคั่งของเขาปรับลดลงหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสอดคล้องกับสภาวะการณ์ฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง
ในปีนี้ อาร์โนลต์ต้องเผชิญกับความท้าทาย เมื่ออันดับมหาเศรษฐีโลกของเขาลดลงมาอยู่ที่อันดับ 5 ซึ่งสะท้อนถึงผลกระทบจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจ และความผันผวนของตลาดทุนทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวเป็นเพียงปรากฏการณ์ชั่วคราว เมื่อไม่นานมานี้ ภายหลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ อาร์โนลต์ก็สามารถฟื้นฟูฐานะ และกลับขึ้นสู่อันดับที่ 4 ก่อนจะขยับขึ้นมาครองอันดับ 3 ในดัชนี Bloomberg Billionaires Index ได้ในที่สุด
ทั้งนี้ ความผันผวนของมูลค่าทรัพย์สินของอาร์โนลต์ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างเศรษฐกิจมหภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจจีน กับภาคธุรกิจ ซึ่งในกรณีนี้คืออุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินธุรกิจ และความมั่งคั่งของบุคคลในระดับสูง
แบร์นาร์ด อาร์โนลต์ มหาเศรษฐีชาวฝรั่งเศสและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ LVMH กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่น่าวิตกกังวล เมื่อมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของเขาปรับตัวลดลงอย่างมากถึง 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 4.3 แสนล้านบาท ภายในช่วงเวลาเพียงสัปดาห์เดียว โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่งคั่งของอาร์โนลต์ในครั้งนี้ คือปฏิกิริยาของตลาดทุนที่ไม่ตอบรับแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจของจีนเท่าที่ควร
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนได้ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งประกอบด้วยมาตรการสำคัญต่างๆ เช่น การอัดฉีดเงินทุนเพื่อพยุงตลาดหุ้น และการออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูฯ ดังกล่าวยังคงขาดความชัดเจน ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของมาตรการ และนำไปสู่การเทขายหุ้นอย่างหนักในสัปดาห์นี้
ราคาหุ้นของ LVMH ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่อาร์โนลต์ถือหุ้นใหญ่ ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง โดยราคาหุ้นปรับตัวลดลงถึง 7% ในวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้มูลค่าหุ้นของอาร์โนลต์ลดลงกว่า 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามรายงานของ Business Insider แม้ว่าสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายในวันพุธ โดยมูลค่าความเสียหายลดลงเหลือ 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2 แสนล้านบาท แต่ก็ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก และความเชื่อมโยงระหว่างตลาดทุนทั่วโลกกับเศรษฐกิจจีน
ทั้งนี้ ผลกระทบดังกล่าวไม่ได้จำกัดอยู่เพียงภาคธุรกิจสินค้าฟุ่มเฟือยเท่านั้น แต่ยังส่งผลลุกลามไปยังหุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งราคาปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงไม่มั่นใจในทิศทางและประสิทธิภาพของแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจของจีน และความสามารถในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกของจีนในอนาคต
ตลาดเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อผลประกอบการของ LVMH โดยคิดเป็นสัดส่วนยอดขายสูงถึง 31% ในปี 2566 ซึ่งสาธารณรัฐประชาชนจีนถือเป็นตลาดหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตในภูมิภาค ความมั่งคั่งของนายแบร์นาร์ด อาร์โนลต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มีความสัมพันธ์โดยตรงกับ LVMH บริษัทโฮลดิ้งกลุ่มสินค้าแฟชั่นและเครื่องสำอางระดับโลก ซึ่งเขาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ด้วยสัดส่วนการถือครองประมาณ 48% LVMH นับเป็นหนึ่งในองค์กรธุรกิจชั้นนำของยุโรป ที่มีมูลค่าสูงสุด และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือย
แม้ว่าก่อนหน้านี้ นายอาร์โนลต์จะเคยดำรงตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แซงหน้าบุคคลสำคัญอย่างนายอีลอน มัสก์ และนายเจฟฟ์ เบโซส แต่ปัจจุบัน สถานการณ์ของตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยต้องเผชิญกับความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้องค์กรธุรกิจในกลุ่มดังกล่าว ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความท้าทาย หรือแม้กระทั่งประกาศแจ้งเตือนเกี่ยวกับแนวโน้มผลกำไรที่อาจลดลง
อย่างไรก็ตาม การครองตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดอันดับ 4 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.91 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 6.4 ล้านล้านบาท) ณ วันพุธที่ 10 ตุลาคม 2567 ยังคงสะท้อนถึงสถานะทางเศรษฐกิจที่มั่นคงของนายอาร์โนลต์ และศักยภาพการเติบโตของ LVMH ที่ยังคงดำเนินธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมา บริษัทได้ขยายการลงทุนเชิงรุก ผ่านการเข้าลงทุนใน Moncler แบรนด์เสื้อผ้าสำหรับเล่นสกีชั้นนำ การเข้าซื้อกิจการนิตยสาร Paris Match สื่อสิ่งพิมพ์ที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศส และการเป็นผู้สนับสนุนหลักของ Formula One เป็นระยะเวลา 10 ปี
ในขณะเดียวกัน ความคาดหวังเกี่ยวกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของสาธารณรัฐประชาชนจีน ยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม ซึ่งอาจเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจ และกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งย่อมส่งผลดีต่อธุรกิจของ LVMH รวมถึงความมั่งคั่งของนายอาร์โนลต์ และอาจผลักดันให้เขากลับไปครองตำแหน่งสูงสุดของทำเนียบมหาเศรษฐีโลกได้อีกครั้ง
กรณีศึกษาของ แบร์นาร์ด อาร์โนลต์ และ LVMH สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างเศรษฐกิจมหภาคกับความมั่งคั่งของบุคคลระดับสูง และความสำเร็จของธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งต้องพึ่งพากำลังซื้อของผู้บริโภค และการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ
แม้ว่าเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวจะส่งผลกระทบต่อ LVMH และมูลค่าทรัพย์สินของอาร์โนลต์ในระยะสั้น แต่ LVMH ยังคงเป็นองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง การขยายการลงทุนเชิงรุก การปรับตัว และการบริหารความเสี่ยง จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ LVMH สามารถรับมือกับความท้าทาย และรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือยต่อไปได้
นอกจากนี้ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีน การเติบโตของตลาดในภูมิภาคอื่นๆ และความสามารถในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค จะเป็นปัจจัยกำหนดทิศทางความสำเร็จของ LVMH และความมั่งคั่งของอาร์โนลต์ในอนาคต
อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การแข่งขันที่รุนแรง และปัจจัยภายนอกอื่นๆ ยังคงเป็นความเสี่ยงที่ LVMH ต้องเตรียมรับมือ การติดตามสถานการณ์ การวิเคราะห์ และการปรับกลยุทธ์อย่างเหมาะสม จะเป็นกุญแจสำคัญสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของ LVMH และการรักษาสมดุลแห่งความมั่งคั่งของอาร์โนลต์ ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก
ที่มา fortune