พุ่งแรงแซงเฟด! Tesla ปรับขึ้นราคารถทุกรุ่นเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ ขึ้นสูงสุด 6,000 ดอลลาร์ ดันตัวท็อป Model X แตะ 4.2 ล้าน ขณะรุ่นล่างสุด Model 3 สตาร์ท 2 ล้าน
เว็บไซต์ Techcrunch รายงานว่า บริษัท Tesla Inc. ได้ปรับขึ้นราคารถยนต์อีกแล้วเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ หลังจากที่ขึ้นมาแล้ว 2 รอบ ในเดือน มี.ค. และ เม.ย. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ Tesla ไม่เคยให้เหตุผลในการปรับขึ้นราคารถ แต่เป็นที่คาดว่าน่าจะมาจากเหตุผลเรื่องอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐที่ปรับตัวสูงสุดในรอบ 40 ปี บวกกับปัญหาด้านซัพพลายเชนในจีน อันเนื่องมาจากการล็อกดาวน์เพราะโควิด-19
ก่อนหน้านี้ อีลอน มัสก์ CEO ของบริษัทเคยกล่าวเมื่อเดือน เม.ย. ว่า เขาเชื่อว่าปัญหาเงินเฟ้อนั้นรุนแรงกว่าที่มีการรายงานตัวเลขออกมา และคาดว่าจะยืดเยื้อไปตลอดทั้งปี 2022 ขณะที่ปัญหาซัพพลายเชนจะส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตรถยนต์ในนาคตด้วย
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีการปรับขึ้นราคาล็อตล่าสุด มีดังนี้ (ราคาในสหรัฐ ยังไม่รวมภาษีต่างๆ)
Model X
- เป็น SUV รุ่นเรือธงของเทสลา
- ขึ้นราคาประมาณ 6,000 ดอลลาร์ (ราว 2.1 แสนบาท)
- จาก 114,990 ขึ้นเป็น 120,990 ดอลลาร์ (ราว 4.23 ล้านบาท)
- แต่ตัวท็อปสุด Model X Plaid ยังไม่ขึ้นราคา ยังอยู่ที่ 138,990 ดอลลาร์ (ราว 4.86 ล้าน)
Model S
- เป็นไลน์ซีดานรุ่นเรือธงของเทสลา
- ขึ้นราคาประมาณ 5,000 ดอลลาร์ (ราว 1.75 แสนบาท)
- จาก 99,990 ขึ้นเป็น 104,990 ดอลลาร์ (ราว 3.67 ล้านบาท)
- แต่ตัวท็อปสุดของกลุ่มนี้ Model S Plaid ยังไม่ขึ้นราคา ยังอยู่ที่ 135,990 ดอลลาร์ (ราว 4.76 ล้าน)
Model Y
- จะขึ้นราคาประมาณ 2,000 - 3,000 ดอลลาร์ (ราว 7 หมื่น - 1.05 แสนบาท)
- รุ่น Long Range จะขึ้นจาก 62,990 เป็น 65,990 บาท (ราว 2.3 ล้าน)
- รุ่น Performance จะขึ้นจาก 67,990 เป็น 69,990 บาท (ราว 2.45 ล้านบาท)
Model 3
- จะขึ้นราคาประมาณ 2,500 ดอลลาร์ (ราว 8.75 หมื่นบาท)
- รุ่น Long Range จะขึ้นจาก 54,490 เป็น 57,990 บาท (ราว 2 ล้าน)