บริษัทเทสลา เปิดตลาดรถ EV ในมาเลเซียอย่างเป็นทางการแล้ว ราคารถ EV ถูกกว่าประเทศไทย ราว 469,000 บาท และถูกกว่าในสิงคโปร์ เนื่องจากนโยบายส่งเสริมการลงทุนรถ EV ของรัฐบาลมาเลเซียกำลังดึงดูดเม็ดเงินลงทุนมหาศาลจากทั่วโลก
Tesla เป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้ารายล่าสุดที่เปิดตัวในมาเลเซีย ทั้งรุ่น Model 3 และ Model Y โดย เทสลาตั้งราคารถยนต์รุ่น Model Y ในตลาดมาเลเซียต่ำที่สุดในภูมิภาค โดยเริ่มต้นที่ 199,000 ริงกิต หรือราว 1,490,000 บาท ซึ่งถูกกว่าราคาที่ตั้งไว้สำหรับตลาดในไทยและสิงคโปร์
สำหรับราคาในประเทศไทยรถยนต์รุ่น Model Y มีราคาอยู่ที่ 1,959,000 บาท ส่วนรุ่น Model Y Long Range มีราคาอยู่ที่ 2,259,000 บาท และ Model Y Performance มีราคาอยู่ที่ 2,509,000 บาท
ส่วนรถยนต์รุ่น Model Y ที่จำหน่ายในสิงคโปร์มีราคาอยู่ที่ 87,990 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 2,268,000 บาท
มีรายงานว่า เทสลาเป็นรายแรกที่ได้รับการอนุมัติภายใต้โครงการ BEV ซึ่งอนุญาตให้บริษัทขายรถยนต์ในมาเลเซียโดยไม่ต้องใช้กฎ Approved Permit (AP) จึงทำให้รถยนต์นำเข้ามีราคาถูกลง และนอกจากเทสล่า จะเป็นรายล่าสุดที่มาเปิดตลาดในมาเลเซียแล้ว ปีนี้ปีเดียวยังมี 3 ค่ายรถไฟฟ้าจากจีนที่เปิดตัวในมาเลเซีย ได้แก่ BYD, Great Wall Motors และ Chery แต่ละแบรนด์ที่เข้าไปในมาเลเซีย ไม่ได้เพียงแค่ ขายรถเท่านั้น แต่ยังประกาศลงทุนอีกหลายด้าน เทสลาเองได้ตั้งสถานีซูเปอร์ชาร์จจำนวน 8 แห่งในมาเลเซีย และประกาศพร้อมเข้าร่วมโครงการของรัฐบาลมาเลเซียที่ตั้งเป้าหมายว่าจะมีสถานีชาร์จจำนวน 10,000 แห่งภายในปี 2568
Isabel Fan ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคของ Tesla พูดชัดเจนว่า หนึ่งในเหตุผลหลักที่บริษัทใช้ในการขยายตลาดไปยังประเทศต่างเพราะ รัฐบาลปัจจุบันมีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรม EV มาเลเซียจึงเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความพร้อมในโครงสร้างพื้นฐาน
การขยายการลงทุนในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิกของ Tesla มองว่า ในแถบนี้มีโรงงานประมาณ 2,000 แห่งแล้ว และมาเลเซียจะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนานี้อย่างมาก
ทั้งนี้ Tesla เปิดขาย Model Y และ Model 3 ทางออนไลน์ในมาเลเซีย และจะเปิดสำนักงานใหญ่และศูนย์บริการ Tesla Experience and Service Center ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ BEV (Battery Electric Vehicle) Global Leaders ของประเทศ ซึ่งรัฐบาลได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โครงการดังกล่าวทำให้
โดยสถานที่ตั้งของ Tesla มาเลเซียจะอยู่ใน Cyberjaya ในรัฐ สลังงอร์ ศูนย์กลางอุตสาหกรรมของประเทศใกล้กับกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งในรัฐนี้ยังเป็นที่ตั้งของผู้ผลิตรถยนต์และโรงงานประกอบรถยนต์ระดับนานาชาติหลายแห่ง เช่น โตโยต้า นิสสัน ฮอนด้า และวอลโว่ Porche, BMW และ Mercedes-Benz ก็ผลิตที่นี่เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานพัฒนาการลงทุนแห่งมาเลเซีย (MIDA) ได้อนุมัติโครงการลงทุน EV 58 โครงการ มูลค่ารวม 2.62 หมื่นล้านริงกิต (5.8 พันล้านดอลลาร์) ตั้งแต่ปี 2018 ถึงมีนาคม 2023 ครอบคลุมการประกอบรถยนต์ การผลิตชิ้นส่วน และส่วนประกอบการชาร์จ ประเทศนี้มีสถานีชาร์จเกือบ 1,000 แห่ง และวางแผนที่จะสร้าง 10,000 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2568
สำหรับประเทศไทย ที่กำลังอยากเป็นฮับในการลงทุนของอุตสาหกรรม EV ก็คงต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ปัจจุบันมาเลเซียเป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมยานยนต์ใหญ่เป็นอันดับสามของภูมิภาค รองจากอันดับ 1 คือ อินโดนีเซียและอันดับ 2 คือ ไทย โดยอุตสาหกรรมรถ EV มีสัดส่วน 4% ของ GDP มูลค่าราว4 หมื่นล้านริงกิตในปี 2564
Elon Musk ซีอีโอของ Tesla จัดวิดีโอคอลกับนายกรัฐมนตรี Anwar Ibrahim เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม และหารือเกี่ยวกับการลงทุนของบริษัทในมาเลเซีย รวมถึง Starlink บริการสื่อสารผ่านดาวเทียมของ SpaceX สำหรับพื้นที่ชนบท เมื่อวันพฤหัสบดี รัฐบาลอนุมัติให้ Starlink ให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม และประกาศว่าจะซื้ออุปกรณ์ Starlink จำนวน 40 ชุดสำหรับโรงเรียนและมหาวิทยาลัย
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อันวาร์กล่าวว่า Geely ของจีนจะลงทุน 10,000 ล้านดอลลาร์ในมาเลเซีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาและจัดตั้งศูนย์กลางระดับภูมิภาคใน Automotive High Tech Valley (AHTV) ซึ่งตั้งอยู่ใน Tanjung Malim ในรัฐ Perak Geely ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสองของ Proton ซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์ประจำชาติของมาเลเซีย
ที่มา Nikkei Asia , Tesla