ธุรกิจการตลาด

TEMU อีคอมเมิร์ซจีน ซุ่มเงียบเปิดตัวในไทยแล้ว ประกาศลดราคากระหน่ำ 90%

30 ก.ค. 67
TEMU อีคอมเมิร์ซจีน ซุ่มเงียบเปิดตัวในไทยแล้ว ประกาศลดราคากระหน่ำ 90%

‘Temu’ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสัญชาติจีน เปิดตัวอย่างเงียบๆ ในประเทศไทยแล้ว ซึ่งเป็นตลาดที่สามในอาเซียน ที่เกิดขึ้นเกือบหนึ่งปีหลังจากเปิดตัวในมาเลเซียและฟิลิปปินส์ โดยการเปิดตัวในตลาดไทยครั้งนี้ Temu ได้มอบส่วนลดสูงถึง 90% สอดคล้องกับการเปิดตัวครั้งใหญ่ เช่นเดียวกับในอีกสองประเทศในกลุ่มอาเซียนก่อนหน้านี้

โดยเว็บไซต์ของ Temu ระบุว่า กำลังซื้อของคนไทยมีน้อย ซึ่งเหมาะกับรูปแบบธุรกิจและกลยุทธ์การตลาดของ Temu ที่ขายสินค้าในราคาที่ยอมรับได้มากที่สุด และให้ส่วนลดมากถึง 90% นอกจากนี้ Temu ยังเน้นความปลอดภัยของลูกค้าด้วยวิธีการชำระเงินที่ปลอดภัย รวมทั้งค่าจัดส่งที่น้อยมาก และส่วนใหญ่ไม่มีค่าธรรมเนียมการจัดส่งสำหรับผู้บริโภครายใหม่

ทั้งนี้ Temu ยังระบุด้วยว่า ความท้าทายที่แพลตฟอร์มอาจพบเจอ คือ การแข่งขันที่ดุเดือดมาก และกำลังซื้อของคนไทย โดยเฉพาะ ‘Shopee’ และ ‘Lazada’ ที่กินส่วนแบ่งอย่างแข็งแกร่งในตอนนี้ รวมทั้ง ‘TikTok Shop’ ที่มีฐานลูกค้าจำนวนมาก และเป็นหนึ่งในผู้นำเทรนด์การเติบโตของอีคอมเมิร์ซ

อย่างไรก็ตาม Temu ได้พัฒนาระบบโลจิสติกส์เพื่อจัดส่งสินค้าในทุกพื้นที่ รวมทั้งหลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดสาขาในกว่า 18 ประเทศแล้ว ซึ่งมีทั้งประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น และเวียดนาม ที่นำเสนอสินค้าข้ามพรมแดนหลากหลายประเภท พร้อมรีวิวและการให้คะแนนจากการใช้งานจริงของลูกค้าทั่วโลก

Temu กำลังมาเขย่าโลกการช้อปปิ้งออนไลน์?

Temu แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของ Pinduoduo ได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดอีคอมเมิร์ซในสหรัฐอเมริกาเช่นกันนับตั้งแต่เปิดตัว ด้วยข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่สำคัญของ Temu ที่มีสินค้าในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งอย่าง ‘Amazon’ มาก โดยมักจะลดราคาถึงครึ่งหนึ่ง ทำให้ผู้บริโภคในสหรัฐฯ หันไปใช้แพลตฟอร์มนี้กันอย่างรวดเร็ว

โดยเมื่อต้นปี 2024 Temu มีผู้ใช้งานรายเดือนมากกว่า 50 ล้านคนในสหรัฐฯ กระทบต่อภูมิทัศน์อีคอมเมิร์ซในสหรัฐฯ ชัดเจนอย่างมาก และยังเป็นแอปพลิเคชั่นที่มียอดดาวน์โหลดมากที่สุดในสหรัฐฯ เป็นเวลานาน ซึ่งการเติบโตนี้ ขับเคลื่อนด้วยส่วนลดจำนวนมาก และผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย

แม้ว่า Amazon จะยังคงครองตลาดต่อไปด้วยความพึงพอใจของผู้บริโภคที่สูง และตัวเลือกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย แต่ Temu ก็ได้เจาะกลุ่มลูกค้าเฉพาะที่สำคัญ ด้วยการเจาะกลุ่มผู้ซื้อที่คำนึงถึงราคาเป็นหลัก ในภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง ทำให้ Amazon ต้องสำรวจกลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อรักษากลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ไว้

ในขณะที่ตลาดประเทศไทย ผู้บริโภคชาวไทยซึ่งสนใจสินค้าราคาถูกอาจหันมาซื้อสินค้าจาก Temu มากขึ้น ส่งผลให้ผู้ค้าปลีกในท้องถิ่น อาจได้รับผลกระทบในทางลบ และเผชิญกับแรงกดดันที่ต้องลดราคาหรือปรับปรุงบริการเพื่อให้สามารถแข่งขันได้

เมื่อมีผู้เล่นใหม่ เป็นจีน ที่ใช้ราคาเข้ามาแข่งขัน คงหนีไม่พ้นสงครามราคา แม้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคในระยะสั้น แต่ก็อาจส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรของธุรกิจ และผู้เล่นรายเดิมที่มีความแข่งขันที่ดุเดือดอยู่แล้ว ซึ่งอาจนำมาสู่การปิดกิจการ หรือปลดพนักงานได้ในอนาคต เราคงต้องจับตาธุรกิจนี้อย่างใกล้ชิด หลังจีนบุกตลาดนี้

ที่มา Momentum Asia, TAMU App, Back Linko, Business of App, Business Insider

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT