โซนี่ (Sony) อีกหนึ่งยักษ์ใหญ่แห่งวงการเทคโนโลยีจากญี่ปุ่น สร้างเซอร์ไพรส์! ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 ด้วยกำไรที่พุ่งทะยานเกินคาด แม้จะเผชิญแรงต้านจากหลายปัจจัย แต่ PlayStation 5 ก็ยังคงเป็นพระเอก ช่วยดันยอดขายจนกวาดกำไรไปได้กว่า 1 แสนล้านบาท แต่ก็ยังมีเงาของความท้าทายรออยู่ข้างหน้า ทั้งต้นทุนการพัฒนาเกมที่พุ่งสูง การแข่งขันในตลาดเซ็นเซอร์ที่ดุเดือด และผลกระทบจากฮอลลีวูดสไตรค์ โซนี่จะรับมือกับความท้าทายเหล่านี้อย่างไร?
โซนี่ คอร์ปอเรชั่น (Sony Corporation) รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่สองของปีงบประมาณ 2567 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 73% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญมาจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจเกมและเครือข่าย ซึ่งช่วยหักล้างผลกระทบจากรายได้ที่ลดลงในธุรกิจภาพยนตร์และโทรทัศน์
แม้เผชิญกับความท้าทายในบางภาคส่วน แต่โซนี่ ซึ่งมีธุรกิจครอบคลุมหลากหลายสาขา อาทิ ดนตรี เซมิคอนดักเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยังคงยืนยันประมาณการกำไรสำหรับปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2568 ที่ 1.31 ล้านล้านเยน (8.51 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสอดคล้องกับค่าเฉลี่ยประมาณการของนักวิเคราะห์ 24 ราย ที่สำรวจโดย LSEG ที่ 1.34 ล้านล้านเยน
โซนี่ คอร์ปอเรชั่น ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สองของปีงบประมาณ 2567 ด้วยกำไรจากการดำเนินงานที่พุ่งสูงถึง 455,100 ล้านเยน ประมาณ 1 แสนล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 263,000 ล้านเยนในช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณที่ผ่านมา โดยปัจจัยหลักที่ผลักดันผลกำไรให้เติบโตอย่างโดดเด่น คือ ยอดขายเซ็นเซอร์รับภาพที่แข็งแกร่ง
นายฮิโรกิ โทโทกิ ประธานบริษัทโซนี่ คอร์ปอเรชั่น กล่าวถึงปัจจัยสนับสนุนผลประกอบการในไตรมาสนี้ว่า นอกเหนือจากรายได้จากการจำหน่ายซอฟต์แวร์จากพันธมิตรภายนอกที่เพิ่มขึ้นแล้ว ธุรกิจฮาร์ดแวร์เกมยังคงแสดงผลกำไรที่น่าพึงพอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการเปลี่ยนผ่านของผู้บริโภคจาก PlayStation 4 สู่ PlayStation 5 ซึ่งเป็นไปอย่างราบรื่น ส่งผลให้ยอดจำหน่ายซอฟต์แวร์เติบโตในทิศทางเดียวกัน
ภาคธุรกิจเกมและบริการเครือข่าย ซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักของโซนี่ คอร์ปอเรชั่น และมีสัดส่วนรายได้มากกว่าหนึ่งในสามของรายได้รวม ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในไตรมาสที่สองของปีงบประมาณ 2567 โดยมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าตัว คิดเป็น 138,800 ล้านเยน ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยสนับสนุนหลายประการ อาทิ ยอดจำหน่ายซอฟต์แวร์ที่แข็งแกร่ง และการเปิดตัว PlayStation 5 รุ่นปรับปรุงใหม่ ที่มาพร้อมประสิทธิภาพด้านกราฟิกที่เหนือชั้นยิ่งขึ้นเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
จากแนวโน้มผลการดำเนินงานดังกล่าว โซนี่ คอร์ปอเรชั่น จึงได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรจากการดำเนินงานประจำปีของภาคธุรกิจเกม เป็น 355,000 ล้านเยน จากเดิมที่ 320,000 ล้านเยน และส่งผลให้ประมาณการรายได้รวมประจำปีของกลุ่มบริษัทปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย เป็น 12.71 ล้านล้านเยน
แม้ยอดจำหน่าย PlayStation 5 ในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2567 จะปรับตัวลดลง 22% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมียอดจำหน่ายอยู่ที่ 3.8 ล้านเครื่อง ทว่า โซนี่ คอร์ปอเรชั่น ยังคงมั่นใจที่จะรักษาประมาณการยอดจำหน่าย PlayStation 5 สำหรับปีงบประมาณปัจจุบันไว้ที่ 18 ล้านเครื่อง
หนึ่งในปัจจัยท้าทายที่อุตสาหกรรมเกมกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ คือ ต้นทุนในการพัฒนาเกมที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โซนี่ คอร์ปอเรชั่น ได้ประกาศยุติการดำเนินงานของสตูดิโอพัฒนาเกม PlayStation จำนวน 2 แห่ง โดยหนึ่งในนั้นคือ Firewalk Studios ผู้พัฒนาเกม "Concord" ซึ่งได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2567
ในส่วนของธุรกิจภาพยนตร์ โซนี่ คอร์ปอเรชั่น รายงานกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสนี้ที่ 18,500 ล้านเยน ปรับตัวลดลงจาก 29,400 ล้านเยนในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเลื่อนกำหนดการออกอากาศซีรีส์ทางโทรทัศน์หลายรายการ ภายหลังสถานการณ์การประท้วงหยุดงานในฮอลลีวูดเมื่อปี 2566
แม้ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2567 ของโซนี่ คอร์ปอเรชั่น จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความแข็งแกร่งในธุรกิจเกมและเซ็นเซอร์รับภาพ แต่บริษัทก็ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายในหลากหลายมิติ เช่น ต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นในอุตสาหกรรมเกม การแข่งขันที่ทวีความรุนแรงในตลาดเซ็นเซอร์รับภาพ และผลกระทบจากสถานการณ์การประท้วงในฮอลลีวูดต่อธุรกิจภาพยนตร์
อย่างไรก็ดี ด้วยความหลากหลายของธุรกิจ โซนี่ คอร์ปอเรชั่น ยังคงมีศักยภาพในการปรับตัวเพื่อรับมือกับความผันผวนของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกลยุทธ์ที่สำคัญ อาทิ การเปิดตัว PlayStation 5 รุ่นปรับปรุงใหม่ การพัฒนาเทคโนโลยีเซ็นเซอร์รับภาพขั้นสูง และการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดใหม่ๆ ล้วนเป็นปัจจัยที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทในระยะยาว
ในอนาคต โซนี่ คอร์ปอเรชั่น มีวิสัยทัศน์ที่จะมุ่งเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีแห่งอนาคต เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Metaverse เพื่อสร้างสรรค์โอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และธำรงรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ นักลงทุนและผู้ที่สนใจติดตามความเคลื่อนไหวของโซนี่ คอร์ปอเรชั่น คงต้องเฝ้าสังเกตการณ์กันต่อไปว่า บริษัทจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรค และรักษาการเติบโตได้อย่างยั่งยืนท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก และการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
อ้างอิง reuters