เก้าอี้ประธานบอร์ด ธปท.กำลังร้อนแรง หลังคณะกรรมการคัดเลือก ลงมติเสร็จสิ้น แต่ยังคงอุบรายชื่อ ท่ามกลางกระแสข่าวลือ และความกังวลเกี่ยวกับการแทรกแซงธนาคารกลาง
ล่าสุด 'สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์' ประธานคณะกรรมการคัดเลือก ออกโรงยืนยัน กระบวนการคัดสรรโปร่งใส ไร้ใบสั่ง ยึดกฎหมาย และหลักธรรมาภิบาล พร้อมย้ำ ประธานบอร์ด ธปท. ไม่มีอำนาจแทรกแซงนโยบายการเงิน แล้วใครกันที่จะมานั่งเก้าอี้สำคัญนี้?
บทความนี้ SPOTLIGHT จะพาคุณไปเจาะลึก ทุกแง่มุมของการคัดเลือก ประธานบอร์ด ธปท. ตั้งแต่ขั้นตอน คุณสมบัติ ไปจนถึงบทบาทหน้าที่ และความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย
"สถิตย์" ยัน "ประธานบอร์ด ธปท." มีคุณสมบัติครบ ไร้การแทรกแซง ชงชื่อ 19 พ.ย.นี้
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือบอร์ดแบงก์ชาติ เปิดเผยในงาน "ECONMASS TALK EP.1" จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจว่า หลังจากคณะกรรมการมีมติเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ขั้นตอนต่อไปเลขานุการจะส่งหนังสือแจ้งรายชื่อต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังภายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
โดยในส่วนของรายชื่อประธานบอร์ด ธปท.นั้น รัฐมนตรีคลังจะเสนอชื่อต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อทูลเกล้าฯ ทรงแต่งตั้งต่อไป ส่วนรายชื่อกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 2 ท่าน รัฐมนตรีคลังมีอำนาจเปิดเผยได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของรัฐมนตรีคลัง
นายสถิตย์ กล่าวถึงข้อกังวลเกี่ยวกับการแทรกแซงนโยบายการเงินของ ธปท. โดยประธานบอร์ดแบงก์ชาติว่า อำนาจของประธานบอร์ดแบงก์ชาติมีขอบเขตตามที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธปท. ปี 2551 กำหนดไว้
โดยโครงสร้างของ ธปท. ประกอบด้วย 4 องค์กร ได้แก่ 1. คณะกรรมการ ธปท. 2. คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งมีผู้ว่าการ ธปท. เป็นประธาน 3. คณะกรรมการสถาบันการเงิน (กนส.) ซึ่งมีผู้ว่าการ ธปท. เป็นประธาน และ 4. คณะกรรมการระบบการชำระเงิน (กรช.) ซึ่งทั้ง 3 คณะกรรมการหลัง มีอิสระในการดำเนินนโยบาย และไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการ ธปท. หรือประธานบอร์ดแต่อย่างใด
อำนาจหน้าที่ของประธานบอร์ดแบงก์ชาติ จำกัดอยู่ที่การกำกับดูแลกิจการทั่วไปของ ธปท. เช่น งบประมาณ โครงสร้างองค์กร ข้อบังคับบุคลากร และการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งเน้นงานบริหารจัดการเป็นหลัก ประธานบอร์ดจึงไม่มีอำนาจในการแทรกแซงนโยบายการเงิน ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีคลังมีอำนาจเชิญผู้ว่าการ ธปท. เข้าหารือในประเด็นต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่านโยบายการเงินสอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล
"สถิตย์" ย้ำ "ประธานบอร์ด ธปท." ทำงานภายใต้กรอบกฎหมาย ไม่แทรกแซงนโยบายการเงิน
นายสถิตย์ กล่าวถึงความกังวลเรื่องการแทรกแซงเงินทุนสำรองระหว่างประเทศว่า แม้คณะกรรมการบอร์ด ธปท.จะมีหน้าที่ออกเกณฑ์ในการบริหารจัดการเงินทุนสำรองฯ ได้ แต่ไม่มีอำนาจบริหารจัดการโดยตรง
"การออกหลักเกณฑ์ต่างๆ ต้องผ่านการหารือในคณะกรรมการและต้องเปิดเผยต่อสาธารณะไม่สามารถดำเนินการได้โดยพลการ เพราะอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งและเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยากทำเช่นนั้น" นายสถิตย์กล่าว
นายสถิตย์ ยืนยันว่า ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ต้องปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กรอบกฎหมายและจรรยาบรรณของ ธปท.
"เมื่อได้รับการคัดเลือกแล้ว ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ถือเป็นบุคลากรของ ธปท. ต้องทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับ ธปท. เพื่อธำรงไว้ซึ่งความเป็นอิสระของธนาคารกลางไม่มีอำนาจแทรกแซงนโยบายการเงิน รวมถึง การปลดผู้ว่าการ ธปท."
นายสถิตย์ อธิบายเพิ่มเติมว่า การปลดผู้ว่าการ ธปท.ทำได้ตามกฎหมาย กรณีมีพฤติกรรมชั่วร้ายแรง หรือ ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ซึ่งผู้ว่าการ ธปท. คนปัจจุบัน ไม่ได้มีพฤติกรรมเข้าข่ายดังกล่าว และที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้ว่าการ ธปท. ก็มีความสัมพันธ์อันดี มีการหารือ พูดคุยกันด้วยดี
สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ นายสถิตย์ ยืนยันว่า คณะกรรมการคัดเลือกได้พิจารณาอย่างรอบคอบ โดยผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 3 ท่าน มีคุณสมบัติครบถ้วน ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย และล้วนมีความรู้ความสามารถไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐศาสตร์ เศรษฐกิจ บัญชี กฎหมายฯลฯ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของ ธปท.
นายสถิตย์ กล่าวถึงขั้นตอนการคัดเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติว่า เป็นการลงคะแนนลับ โดยใช้ชุดเอกสารและปากกาแบบเดียวกัน และไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อผู้ได้รับเลือกได้ เนื่องจากกระบวนการแต่งตั้งยังไม่เสร็จสิ้น
"ในฐานะประธานคัดเลือก ผมรู้สึกกดดันมาตลอด แต่ก็ยึดมั่นในกฎหมายและหลักการ เพราะผลการคัดเลือกเป็นไปตามกฎหมายและหลักการทุกประการ และผมไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลใดๆ ได้จนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น" นายสถิตย์กล่าว
ลุ้น! ใครนั่งเก้าอี้ "ประธานบอร์ด ธปท."
นายสถิตย์ กล่าวถึงขั้นตอนการคัดเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติว่า เป็นการลงคะแนนลับ โดยใช้ชุดเอกสารและปากกาแบบเดียวกัน และไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อผู้ได้รับเลือกได้ เนื่องจากกระบวนการแต่งตั้งยังไม่เสร็จสิ้น
"ในฐานะประธานคัดเลือก ผมรู้สึกกดดันมาตลอด แต่ก็ยึดมั่นในกฎหมายและหลักการ เพราะผลการคัดเลือกเป็นไปตามกฎหมายและหลักการทุกประการ และผมไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลใดๆ ได้ จนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น" นายสถิตย์กล่าว
กระบวนการคัดเลือกประธานบอร์ด ธปท. ดำเนินการภายใต้กรอบของ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 โดยคณะกรรมการคัดเลือกซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ มีหน้าที่กลั่นกรองคุณสมบัติของผู้สมัคร และลงมติเพื่อเสนอรายชื่อต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จากนั้น รัฐมนตรีฯ จะนำรายชื่อเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงแต่งตั้งในขั้นตอนสุดท้าย
แม้จะมีกระแสข่าวลือเกี่ยวกับรายชื่อผู้ที่ได้รับเลือก แต่คณะกรรมการคัดเลือกยังคงยืนยันที่จะไม่เปิดเผยรายชื่อ จนกว่ากระบวนการแต่งตั้งจะเสร็จสิ้น เพื่อธำรงไว้ซึ่งความโปร่งใส และความน่าเชื่อถือของกระบวนการ
นายสถิตย์ ย้ำถึงความโปร่งใส และความเป็นอิสระในการคัดเลือก โดยปราศจากการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง และยืนยันว่าผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ประชาชนคงต้องรอติดตามอย่างใกล้ชิดว่า ใครจะได้ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ด ธปท. ซึ่งถือเป็นบุคคลสำคัญที่มีบทบาทในการกำกับดูแล และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ