สินทรัพย์ดิจิทัล

นักขุดล้มตาย! ส่วนมากต้องชักปลั๊กหลัง Bitcoin Halving ?

28 เม.ย. 67
นักขุดล้มตาย! ส่วนมากต้องชักปลั๊กหลัง Bitcoin Halving ?

หลังจากผ่านเหตุการณ์ Bitcoin Halving ไปอย่างราบรื่นเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา ในส่วนของผลกระทบด้านราคาหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวดูจะยังไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากนัก แต่ผู้ที่ดูจะได้รับผลกระทบทันทีนั่นคือนักขุดหรือ Miner ที่เป็นผู้รักษาความแข็งแกร่งของ Bitcoin Blockchain

หลัง Bitcoin Halving รางวัลที่ได้จากการขุดจะลดลงเหลือครึ่งหนึ่งจาก 6.25 BTC เหลือ 3.125 BTC ต่อ Block นั่นเท่ากับว่าต้นทุนในการขุด Bitcoin จะสูงขึ้นสองเท่าทันทีที่เกิด Bitcoin Halving แล้วอย่างงี้ Miner ต้องปรับตัวยังไง มีความเสี่ยงอะไรกับ Bitcoin หรือไม่ ? โดยคำตอบของคำถามเหล่านี้จะขอแยกออกมาเป็น 3 ประเด็นดังนี้

1.การที่ต้นทุนสูงขึ้นอย่างฉับพลันจะมีคนที่ไม่สามารถขุดต่อได้ 

 

แน่นอนว่านักขุดที่ทำต้นทุนได้ไม่ต่ำพอที่จะมีกำไรอย่างคุ้มค่าก็จำเป็นต้องหาที่ตั้งเหมืองขุดใหม่ที่ให้ค่าไฟหรือ Operating Expense ที่ถูกกว่าหรืออีกทางหนึ่งก็ต้องมีการลงทุนเครื่องรุ่นใหม่ที่ทำประสิทธิภาพได้ดีกว่า แต่ถ้าหาทางออกไม่ได้ก็อาจจะต้องปิดเหมืองไป ซึ่งเมื่อมีการปิดเหมืองไปบางส่วนก็จะทำให้ค่า Difficulty ลดลงตาม Difficulty Adjustment Algorithm ของ Bitcoin เพื่อให้ระดับความยากในการขุดอยู่ในระดับพอดีที่กำลังขุดที่เหลืออยู่จะสามารถปิดบล็อกได้ในเวลาประมาณ 10 นาทีเหมือนเดิม และเมื่อมีการปรับระดับความยากลงจะทำให้ยังมีคนที่ขุดได้กำไรอยู่เสมอเพราะแต่ละคนมีต้นทุนค่าไฟและ Operating Expense ไม่เท่ากัน

halving1

ข้อสังเกตจาก Bitcoin Halving รอบก่อนเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2020 กำลังขุดของ Bitcoin ได้ลดลงไปประมาณ 25% ในเวลาประมาณ 2 อาทิตย์ แต่หลังจากนั้น Hash Rate ก็ค่อยๆ กลับมาที่เดิมและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นขาขึ้นมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน (มีช่วง 15 พฤษถาคม 2021 เป็นขาลงชั่วคราวเนื่องจากจีนแบนเหมืองขุดทำให้ต้องมีการโยกย้ายเครื่องขุดออกจากจีน)

ทางเรามองว่าการที่กำลังขุดหายไปช่วงหลัง Halving อาจเป็นเพราะความไม่แน่นอนในตลาดตอนนั้นที่พึ่งเจอ COVID 19 ไปและเกรงว่าราคาจะปรับตัวต่ำลงซึ่งส่วนที่ปิดไปอาจทำต้นทุนการขุดได้ไม่ต่ำพอจึงปิดเครื่องขุดบางส่วนเพื่อลดความเสี่ยง แต่เมื่อราคา Bitcoin สามารถรักษาระดับและค่อยๆเพิ่มขึ้นจนมีกำไรเพียงพอก็ถึงกลับมาเปิดเหมืองขุดใหม่ หรือไม่ก็พวกเขาสามารถแหล่งพลังงานที่ราคาถูกกว่าเดิมหรือได้เครื่องขุดที่ประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม

2.Bitcoin Halving เป็นสิ่งที่สามารถทำนายได้

 

halving2

การเกิด Bitcoin Halving ไม่ใช่สิ่งที่ใครคนใดคนหนึ่งหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่งสามารถกำหนดได้ แต่มันได้ถูกกำหนดไว้ด้วย Code ของ Bitcoin ตั้งแต่วันแรกที่ Bitcoin ถือกำเนิดขึ้น ดังนั้น Miner ที่ไม่ว่าจะเป็นรายย่อยหรือเหมืองขุดใหญ่ๆ ก็ต้องเข้าใจและรับรู้ได้ว่า Bitcoin Halving ครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นประมาณช่วงไหนและต้องเตรียมตัวอย่างไร

ด้วยเหตุนี้ไม่มีทางที่นักขุดเหล่านั้นจะมาคิดปรับตัวภายหลัง Bitcoin Halving แต่พวกเขาจำเป็นต้องมีการวางแผนไว้ก่อนแล้วทั้งการมองภาพธุรกิจในระยะยาว การทำ Feasibility Study เพื่อรับมือทั้ง Best Case และ Worst Case ไม่อย่างนั้นก็ไม่สามารถทำธุรกิจให้ยั่งยืนต่อไปได้ทำให้ผู้เตรียมตัวมาอย่างดีคือผู้ที่อยู่รอด สังเกตว่าเหมืองขุดใหญ่ๆจะมีการสั่งซื้อเครื่องขุดรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอยู่ตลอด ซึ่งเห็นได้จากการที่กำลังขุดในระบบของ Bitcoin เพิ่มขึ้นตลอดแม้จะอยู่ในช่วงตลาดหมี รวมถึงการแสวงหาโอกาสหรือสถานที่ที่จะทำให้ค่าไฟเป็นต้นทุนหลักของพวกเขาถูกลงอยู่เสมอ โดยจากตลอดหลายปีที่ผ่านมาเราก็ได้เห็นการเข้าสู่พลังงานสะอาด พลังงานส่วนเกินหรือพลังงานเหลือทิ้ง ซึ่งพลังงานที่ได้เหล่านี้อาจสามารถนับต้นทุนเป็น 0 ได้ด้วยซ้ำ

อย่างในกรณีของ Marathon Digital มีการใช้ประโยชน์จากแก๊สมีเทนจากกองขยะมาผลิตไฟฟ้าซึ่งสามารถทำให้ต้นทุนการขุด Bitcoin สามารถลดไปได้ต่ำกว่า $10,000 หรือก่อนหน้านี้ก็มี Exxon Mobil ที่ทำ Pilot Program กับ Crusoe Energy Systems เพื่อนำ Flare Gas มาผลิตไฟฟ้าเพื่อขุด Bitcoin หรือจะเป็นประเทศเอลซัลวาดอร์ที่ใช้พลังงานความร้อนจากภูเขาไฟมาผลิตไฟฟ้าเพื่อขุด Bitcoin เป็นต้น

สุดท้ายแล้วกำลังขุดในระบบจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในระยะยาวเพราะต้นทุนค่าไฟที่เคยเป็นต้นทุนหลักกำลังจะต่ำลงเรื่อยๆ จากการเข้าหาพลังงานสะอาดหรือพลังงานเหลือทิ้งจากที่กล่าวไปข้างต้น ในขณะเดียวกันทางนักขุดก็จะต้องคอยอัพเกรดเครื่องขุดให้เหมาะสม ซึ่งการอัพเกรดเครื่องขุดที่มีประสิทธิภาพดีขึ้นก็จะทำให้กำลังขุดในระบบค่อยๆ เพิ่มขึ้น ส่วนอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่นักขุดไม่สามารถควมคุมได้คือเรื่องของราคา โดยทางนักขุดอาจมีการใช้ Strategy อื่นประกอบกันได้ เช่น

  • การเก็บ Bitcoin ไว้บางส่วนโดยไม่ได้นำ Bitcoin ที่ได้ต่อวันมาขายในตลาดทั้งหมด ทำให้แรงขายต่อวันจากนักขุดก็ลดลงไปด้วย ซึ่งถ้ามีแรงซื้อเข้าก็จะสามารถผลักราคา Bitcoin ขึ้นไปได้ และเมื่อราคาขึ้นไปได้มากพอเครื่องขุดรุ่นเก่าๆ ก็สามารถนำมาขุดแล้วได้กำไรได้
  • การใช้เครื่องมือทางการเงินในการจัดการความเสี่ยง

3.การใช้เครื่องมือทางการเงินต่างๆ ในการ Hedging

halving3

การปรับตัวขึ้นของราคาที่ผันผวนมากๆ นำมาสู่ฟองสบู่ลูกใหญ่ที่มักจะมีการร่วงลงของราคาอย่างรวดเร็ว ทำให้ราคาสูงๆนั้นอยู่กับเราแค่ไม่นาน แต่การขุดนั้นกว่าจะได้ BTC ออกมาต้องใช้เวลาและจำนวนที่ได้ต่อวันก็ไม่ได้เยอะ ทำให้ Miner เสียโอกาสในการทำกำไร ณ จุดที่ราคาสูงๆ แต่ในโลกการเงินมีเครื่องมือที่สามารถใช้จัดการความเสี่ยงเหล่านี้ได้ นั่นก็คือ Futures หรือ Options โดย Miner สามารถทำเงินบางส่วนมาทำการ Hedging ในตอนที่ราคา Bitcoin สูงๆได้เพื่อจัดการความเสี่ยงได้

advertisement

SPOTLIGHT