เปิด 6 วิธี ป้องกัน ถูกหลอกให้ติดตั้งแอปฯ ลิ้งก็ ดูดเงิน
กลโกงของมิจฉาชีพได้มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา ตามบริบทสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ตามกระแสที่เปลี่ยนไป มาทุกรูปแบบที่จะดูดเงินจากประชาชนทุกคนหลายๆ วิธี ไม่ว่าจะเป็นการแสดงละครเป็นหน่วยงานราชการ เช่น ตำรวจ ทหาร เจ้าหนี้กรมศุลกากร เจ้าหน้าที่สรรพากร เจ้าหนี้ศาล เจ้าหนี้บริษัทบัตรเครดิต เจ้าหน้าที่แบงก์ เพี่อสร้างความน่าเชื่อถือ ความหวั่นวิตกให้กับประชาชน เพื่อหลอกให้กดลิ้งก์ ติดตั้งแอปพลิเคชั่น เพี่อทำการดูดเงินในบัญชี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สิ่งที่ทำได้นอกเหนือจากผู้ที่ถูกหลอกลวง ต้องไปแจ้งความ แจ้งธนาคารให้ระงับบัญชีแล้ว สิ่งสำคัญที่จะสามารถป้องกันได้ คือ ประชาชนทุกคนต้องมีความรู้ ติดตามข่าวสาร เพื่อรู้เท่าทันมิจฉาชีพ
โดยสมาคมธนาคารไทยได้แนะนำประชาชน 6 วิธี ป้องกันมิจฉาชีพหลอกติดตั้งแอปพลิเคชันและดูดเงินจากบัญชี ดังนี้
- ไม่ดาวน์โหลดโปรแกรมจากแหล่งอื่น นอกจากแหล่งที่ได้รับการควบคุมและรับรองความปลอดภัยจากผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการที่เป็น Official Store อาทิ Play Store หรือ App Store เท่านั้น
- ไม่ตั้ง password ซ้ำ หรือ ใช้ร่วมกับ Mobile Banking
- ไม่ทำการสแกนใบหน้า หรือยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันที่ไม่รู้จัก
- 4.ไม่กดลิงก์จาก SMS แปลกปลอม โดยภาคธนาคารไม่มีนโยบายส่งข้อความ SMS แนบลิงก์ทุกชนิด หรือมีข้อความให้แอด Line ID หากได้รับ SMS ดังกล่าว อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด
- ควรสังเกตโล่ ที่อยู่ด้านหน้า Line account เสมอ ซึ่งควรมีโล่สีเขียว หรือน้ำเงินเข้ม เท่านั้น
- หากต้องการทำธุรกรรมใด ๆ ควรโทรกลับไปที่หน่วยงานที่ถูกแอบอ้างด้วยตนเอง
ทั้งนี้ หากลูกค้าธนาคารพบธุรกรรมผิดปกติหรือมีข้อสงสัย ขอให้ติดต่อคอลเซ็นเตอร์หรือสาขาของธนาคารที่ลูกค้าใช้งานทันที เพื่อแจ้งตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของธุรกรรม โดยธนาคารจะดูแลแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ สมาคมธนาคารไทย ได้ชี้แจงว่า จากกรณีที่มีผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอกติดตั้งแอปพลิเคชันและดูดเงินจากบัญชีไปกว่า 1 ล้านบาทนั้น ทางธนาคารสมาชิกที่เกี่ยวข้องได้รับทราบเหตุดังกล่าวและดำเนินการระงับธุรกรรมชั่วคราวทันทีเมื่อได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย และแจ้งให้ผู้เสียหายไปร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ณ สถานีตำรวจที่สะดวกหรือใกล้ที่สุด เพื่อขยายระยะเวลาการระงับธุรกรรมชั่วคราวไปอีก 7 วัน และดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามที่กฎหมายกำหนด
ขณะนี้ธนาคารที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างประสานกับผู้เสียหาย และเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยละเอียด เพื่อรวบรวมข้อมูลให้กับพนักงานสอบสวนต่อไป โดยภาคธนาคารมีความห่วงใยและพร้อมร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือ ป้องกันและติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
