ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ภาคการเกษตรไทยกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายรอบด้าน ทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ กฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศที่เข้มงวด รวมถึงความต้องการอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น เพื่อก้าวข้ามผ่านอุปสรรคเหล่านี้ และขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยไปสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยพลังแห่ง "นวัตกรรม" เป็นกลไกสำคัญ
ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (ARDA) ได้จัดงานแถลงข่าวเผยผลงานวิจัยและนวัตกรรมเด่นประจำปี 2567 พร้อมเปิดตัวแผนการขับเคลื่อนนวัตกรรมงานวิจัยในปี 2568 ภายใต้แนวคิด “ARDA Impression Research 2025” โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรมอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างความท้าทายและผลกระทบเชิงบวกแก่ภาคเกษตรไทยในทุกมิติ พร้อมผลักดันให้ก้าวหน้าสู่มาตรฐานระดับโลกอย่างยั่งยืน
ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังมุ่งสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในยุคใหม่ โดยใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม การผสานความคิดสร้างสรรค์เข้ากับ “เกษตรอัจฉริยะ” จึงเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาภาคการเกษตรไทย โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีล้ำสมัย อาทิ โดรน, ระบบฟาร์มอัจฉริยะ, ปัญญาประดิษฐ์ (AI), นวัตกรรมประหยัดพลังงาน และแพลตฟอร์มบริหารจัดการ มาประยุกต์ใช้เพื่อช่วยให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างแม่นยำ ลดต้นทุน และสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งจะนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ ARDA เป็นหน่วยงานหลักของประเทศไทยในการบริหารจัดการทุนวิจัยด้านการเกษตร โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ARDA มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคการเกษตรอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.)
ARDA ให้ความสำคัญกับการผลักดันงานวิจัยให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม โดยยกระดับการทำเกษตรแบบดั้งเดิมสู่ยุคเกษตรสมัยใหม่ ภายใต้แนวคิด “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” โดยเน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีด้านการเกษตร (Agri-Tech) เช่น เกษตรแม่นยำ (Precision Agriculture) และเทคโนโลยีด้านอาหาร (Food Tech) เพื่อพัฒนาอาชีพด้านการเกษตร ประมง ปศุสัตว์ และอาชีพที่เกี่ยวข้อง
เป้าหมายสำคัญของ ARDA คือการสร้างความมั่นคงทางอาหาร คว้าโอกาสในตลาดใหม่ๆ รวมถึงตลาดอาหารฮาลาล เพื่อตอบสนองนโยบาย “ครัวไทยสู่ครัวโลก” ซึ่งเป็นจุดแข็งของประเทศไทยในการตอบสนองความต้องการของโลกด้านความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) นอกจากนี้ ARDA ยังมุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรและราคาพืชผล เพื่อยกระดับรายได้ของเกษตรกรอย่างยั่งยืน
ตลอด 22 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2546 ARDA ได้สนับสนุนโครงการวิจัยด้านการเกษตรมาแล้วกว่า 2,961 โครงการ คิดเป็นงบประมาณวิจัยกว่า 9,000 ล้านบาท โดยในปีงบประมาณ 2567 ARDA ได้สนับสนุนโครงการวิจัยจำนวน 300 โครงการ ใช้งบประมาณ 923 ล้านบาท ตัวอย่างโครงการวิจัยที่น่าสนใจ ได้แก่
ARDA ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายงานวิจัย เช่น การจัดอบรมหลักสูตร "การผลิตกาแฟอะราบิกาเชิงอุตสาหกรรมแบบครบวงจร" ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรยูนนาน และการพัฒนาเทคโนโลยีคลื่นเสียงความถี่ต่ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำน้ำฝน
จากการประเมินผลประโยชน์โครงการวิจัยจำนวน 41 โครงการในปี 2567 ซึ่งใช้งบประมาณ 191.48 ล้านบาท พบว่าสามารถสร้างมูลค่าผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคมรวมกว่า 4,232 ล้านบาท
ARDA ยังมุ่งมั่นขยายผลงานวิจัยสู่การใช้งานจริง โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ARDA ได้ขยายผลสู่เกษตรกรแล้วกว่า 1,081 โครงการ ในปีงบประมาณ 2567 มีผลงานวิจัยที่นำไปใช้ประโยชน์ทั้งในเชิงนโยบาย สาธารณะ และพาณิชย์ จำนวน 182 โครงการ เช่น
ในปี 2568 สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ ARDA ได้กำหนดแผนการจัดสรรทุนและกรอบการสนับสนุนทุนวิจัยอย่างชัดเจน มุ่งเน้นการพัฒนาทั้งในส่วนของการสนับสนุนงานวิจัยเชิงกลยุทธ์ (Strategic Fund: SF) และการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ (Research Utilization: RU) ครอบคลุม 5 หมวดสำคัญ ดังต่อไปนี้
การกำหนดทิศทางการสนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรมทั้ง 5 หมวดข้างต้น สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ ARDA ในการขับเคลื่อนประเทศด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อยกระดับภาคการเกษตร เสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนไทยอย่างยั่งยืน
"ที่ผ่านมา นวัตกรรมจากงานวิจัยของสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ ARDA ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากทั้งผู้ประกอบการ นักวิจัย และเกษตรกร สะท้อนความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม" ดร.วิชาญฯ (สันนิษฐานว่าเป็น ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการ ARDA) กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ พร้อมชี้ให้เห็นถึงผลลัพธ์อันน่าประทับใจ จากการประเมินภาพรวมโครงการวิจัยของ ARDA จำนวน 244 โครงการ นับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2547 จนถึง 2566 ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคมรวมกว่า 15,550 ล้านบาท
ในปี 2568 นี้ ARDA ยังคงเดินหน้าสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่มีศักยภาพสูง (High Impact) มุ่งตอบโจทย์ปัญหาสำคัญที่มีผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานวิจัยที่สอดคล้องกับนโยบายที่คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) กำหนด อาทิ การพัฒนางานวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาและสร้างความเชื่อมั่นว่าสินค้าไทยปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า ตามกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EU Deforestation Regulation: EUDR) ซึ่งหากไม่สามารถดำเนินการได้อย่างทันท่วงที ประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบคิดเป็นมูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท
นอกเหนือจากประเด็น EUDR แล้ว ARDA ยังให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้ในภาคการเกษตร เพื่อขยายผลสู่เกษตรกร โดยตั้งเป้าเพิ่มรายได้ครัวเรือนเกษตรกรเป้าหมายจำนวน 20,000 ราย ให้เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ต่อปี ภายในระยะเวลา 2 ปี ภารกิจสำคัญนี้จะดำเนินการผ่านการบูรณาการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสถาบันการศึกษาต่างๆ
ในส่วนของการขับเคลื่อนนโยบายหลักภาคการเกษตร ARDA ยังร่วมมือกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 และการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ
"ARDA ถือเป็นองค์กรสนับสนุนทุนวิจัยด้านการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย" ดร.วิชาญฯ กล่าวย้ำในตอนท้าย "เกษตรกร นักวิจัย และผู้ประกอบการต่างให้ความสนใจและเชื่อมั่นในบทบาทของเรา ไม่เพียงแค่ในฐานะผู้สนับสนุนทุนวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังมั่นใจว่า ทุกผลงานวิจัยที่ ARDA สนับสนุน จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงภาคการเกษตรไทย ให้สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างยั่งยืน พร้อมรับมือกับความท้าทายต่างๆ ในอนาคต"
ตลอดระยะเวลา 22 ปีที่ผ่านมา ARDA ได้พิสูจน์บทบาทการเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ผลงานวิจัยและนวัตกรรมมากมายที่ ARDA ให้การสนับสนุน ไม่เพียงแต่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและสังคม แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับประเทศ ตัวเลขความสำเร็จต่างๆ ทั้งมูลค่าผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคม จำนวนโครงการวิจัย งบประมาณสนับสนุน และผลงานที่นำไปใช้ประโยชน์ ล้วนเป็นประจักษ์พยานที่ชัดเจนถึงความมุ่งมั่นและความทุ่มเทของ ARDA ในการพัฒนาภาคการเกษตรไทย
จากความสำเร็จในอดีต สู่เป้าหมายอันท้าทายในอนาคต ARDA ยังคงเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งในการสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่มีศักยภาพสูง มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับมือกับกฎระเบียบ EUDR การส่งเสริมเกษตรอัจฉริยะ การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ การแก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติ และการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายหลักของภาคการเกษตร
ก้าวต่อไปของ ARDA ในปี 2568 และปีต่อๆ ไป จึงเต็มไปด้วยความหวังและความเป็นไปได้ ด้วยแผนการจัดสรรทุนและกรอบการสนับสนุนทุนวิจัยที่ชัดเจน ภายใต้แนวคิด “ARDA Impression Research 2025” มุ่งเน้นการสร้างผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่จับต้องได้ เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม และสร้างผลกระทบเชิงบวกในวงกว้าง ARDA พร้อมที่จะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในการนำพาภาคการเกษตรไทยก้าวข้ามความท้าทายต่างๆ สู่ยุคเกษตรสมัยใหม่ที่ยั่งยืน
หัวใจสำคัญของความสำเร็จนี้ ไม่ได้อยู่เพียงแค่การสนับสนุนทุนวิจัยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็ง การบูรณาการองค์ความรู้จากหลากหลายภาคส่วน และการผลักดันให้เกิดการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์อย่างแท้จริง ARDA ตระหนักดีว่า การจะบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ได้นั้น จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน ทั้งนักวิจัย เกษตรกร ผู้ประกอบการ ภาคเอกชน หน่วยงานภาครัฐ และสถาบันการศึกษา ARDA จึงพร้อมที่จะเป็นสะพานเชื่อมโยงทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรมเกษตร ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นผู้นำด้านการเกษตรในเวทีโลก
ในท้ายที่สุดแล้ว ความสำเร็จของ ARDA ไม่ได้วัดกันเพียงแค่ตัวเลขหรือผลงานวิจัยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้าง “ความยั่งยืน” ให้กับภาคการเกษตรไทย การยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร การสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับประเทศ และการรักษาสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติ ARDA มุ่งมั่นที่จะสานต่อภารกิจเหล่านี้ต่อไป เพื่ออนาคตที่สดใสและยั่งยืนของภาคการเกษตรไทย และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยทุกคน