นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือนธันวาคม 2567 อยู่ที่ 108.28 เพิ่มขึ้น 1.23% (YoY) เทียบกับเดือนธันวาคม 2566 ที่ 106.96
โดยปัจจัยสำคัญที่ผลักดันอัตราเงินเฟ้อ คือ
1. ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ที่สูงขึ้นจากฐานราคาปีก่อน
2. ราคาสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะผลไม้สด เครื่องประกอบอาหาร และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์
สรุปการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าในเดือนธันวาคม 2567
หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์
ราคาสูงขึ้น 1.28% (YoY) เนื่องจาก
• สินค้าราคาสูงขึ้น:
• ผลไม้สด เช่น เงาะ มะม่วง กล้วยน้ำว้า ทุเรียน แตงโม
• เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เช่น กาแฟผงสำเร็จรูป น้ำอัดลม
• เครื่องประกอบอาหาร เช่น มะพร้าวขูด น้ำพริกแกง ซอสหอยนางรม
• เนื้อสัตว์ เช่น ปลานิล กุ้งขาว ปลาทูนึ่ง
• สินค้าราคาลดลง:
• ผักสด เช่น พริกสด มะเขือเทศ ผักชี
• เนื้อสุกร ไข่ไก่ อาหารโทรสั่ง
หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม
ราคาสูงขึ้น 1.21% (YoY) เนื่องจาก
• สินค้าราคาสูงขึ้น:
• น้ำมันเชื้อเพลิง เช่น น้ำมันดีเซล แก๊สโซฮอล์
• ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าเช่าบ้าน ค่าโดยสารเครื่องบิน
• สินค้าราคาลดลง:
• ของใช้ส่วนบุคคล เช่น แชมพู สบู่
• เสื้อผ้า เช่น เสื้อยืด เสื้อเชิ้ต
การเปรียบเทียบรายเดือน (MoM)
• ดัชนี CPI ลดลง 0.18% เทียบเดือนพฤศจิกายน 2567
• หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลง 0.51% จากราคาผักสด ผลไม้สด และไข่ไก่
• หมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหาร เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.07% จากราคาค่าเช่าบ้าน น้ำมันเบนซิน
ดัชนี CPI เฉลี่ยปี 2567
• เพิ่มขึ้น 0.40% (AoA) จากปี 2566
• สาเหตุหลัก: ราคาสินค้าในกลุ่มอาหารสำเร็จรูปและผลไม้สด
คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2568 จะอยู่ระหว่าง 0.3% - 1.3% (ค่ากลาง 0.8%) โดยมีปัจจัยสนับสนุนและกดดันดังนี้:
ปัจจัยสนับสนุนการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ
1. เศรษฐกิจฟื้นตัวจากการบริโภคและการท่องเที่ยว
2. ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศสูงขึ้น
ปัจจัยกดดันการลดลงของเงินเฟ้อ
1. มาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพจากภาครัฐ เช่น การลดค่าไฟฟ้า
2. ราคาผักและผลไม้สดที่อาจลดลงจากสถานการณ์เอลนีโญที่เบาบางลง
3. การชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์และการจำหน่ายรถยนต์
โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเดือน ธ.ค. 2567 เร่งตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 1.23% YoY สูงสุดในรอบ 7 เดือน และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเดือน ธ.ค. 2567 อยู่ที่ 0.79% YoY โดยมีปัจจัยหนุนหลักจากราคาพลังงานอย่างค่าไฟฟ้าและราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ปรับสูงขึ้นจากปัจจัยฐานต่ำในเดือน ธ.ค. 2566 เนื่องจากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของทางภาครัฐ ประกอบกับราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มบางรายการปรับตัวสูงขึ้น (รูปที่ 1) ส่งผลให้ทั้งปี 2567 เงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ 0.4% ต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 0.5% เล็กน้อย ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยปี 2567 อยู่ที่ 0.6%
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองปี 2568 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.7% เนื่องจาก ภาครัฐจะยังคงราคาพลังงานในประเทศในระดับใกล้เคียงเดิม โดยราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลยังมีแนวโน้มถูกตรึงอยู่ที่ไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร ท่ามกลางภาระหนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและกฟผ. ที่ยังอยู่ในระดับสูง แม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มลดลงมากขึ้น
ขณะที่ฐานราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล (Retail price including VAT) ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 นั้นอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 33 บาทต่อลิตรมาตรการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่มีผลตั้งแต่ 1 ม.ค. 2568 มาอยู่ที่เฉลี่ย 355 หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.9% คาดว่าจะส่งผลกระทบให้ต้นทุนแรงงานของธุรกิจเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 2%
อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตมีแนวโน้มส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมายังผู้บริโภคได้เพียงบางส่วน ท่ามกลางการแข่งขันสูง ประกอบกับแนวโน้มการบริโภคในประเทศที่อ่อนแรงลงตามความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้นและหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ผลต่อเงินเฟ้อคาดว่าจะมีจำกัดโดยอยู่ที่ราว 0.08%