สั่นสะเทือนทั้งวงการเพชร เมื่อ De Beer บริษัทธุรกิจเครื่องประดับและอัญมณีรายใหญ่ของโลก ที่ ได้ตัดสินใจปรับราคาเพชรดิบในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 66 โดยปรับราคาลดลงเกือบ 40%
เพชร หนึ่งในอัญมณีล้ำค่า สัญลักษณ์แทนความรักชั่วนิรันดร์ ที่ผู้หญิงหลายๆคนอยากครอบครองในวันสำคัญ แม้กระทั่ง มาริลิน มอนโร ยังเคยกล่าวว่า “ผู้ชายอาจทำให้คุณเสียใจ แต่เพชรนั้นคือเพื่อนแท้ ที่ไม่เคยทำให้สาวๆต้องเสียใจ”
เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย ขนาดไก่ยังงามเพราะขน คนต้องงามเพราะแต่ง ทำให้ผู้หญิงหลายคนเลือกซื้อเพชรคู่ใจ เพื่อเป็นเครื่องประดับที่เสริมสร้างความมั่นใจ
แต่บางคนก็เลือกซื้อเพชร เพื่อหวังเป็นสินทรัพย์ที่ควรค่าต่อการลงทุนในระยะยาว เพราะมูลค่าไม่เลือนหายตามกาลเวลา เนื่องจากเพชรสามารถคงคุณภาพกับผู้ถือครองได้เป็นเวลานาน แม้ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย และยังถือว่าเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่ดี (Alternative Investment) สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ในตลาดสากล ไม่ต่างจากทองคำ เพราะเป็นสินทรัพย์ที่ใช้กันทั่วโลกและมีใบรับรองคุณภาพ (certificate) ที่มีมาตรฐานโลกรองรับ
ทีม SPOTLIGHT พามาเจาะสาเหตุทำไมเพชรแท้ถึงราคาตก และทำไมผู้บริโภคถึงนิยมเพชรแล็บมากกว่าเดิม
มรสุมราคาเพชรธรรมชาติ
หนึ่งในความจริงที่เราทุกคนรู้ คือ เพชรแท้ธรรมชาติ (Natural Diamond) นั้นเกิดจากกระบวนการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และยิ่งนานวันทรัพยกรธรรมชาติเหล่านี้ก็ย่อมหมดไปตามกาลเวลา เมื่อความต้องการของผู้บริโภคมีมากขึ้น ส่งผลต่อราคาเพชรธรรมชาติที่มีอยู่น้อยต้องปรับราคาขึ้นไป (ตามกฏของ Demand และ Supply)
ซึ่งก่อนหน้านี้ ราคาเพชรและอัญมณีชนิดอื่นๆ ได้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นช่วงปี 64 ราคาเพชรเติบโตถึง 27.4% และยังคงรักษาการเติบโตได้ดี ในปี 65
ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเพชรหลายคนออกมาวิเคราะห์ถึงตลาดในช่วงนั้นว่า "ประชาชนหลายคนต่างมีเงินสดที่พร้อมใช้ แต่ไม่สามารถเดินทางหรือออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านได้ในช่วงโควิด-19 เลยทำให้ไปทุ่มกับสินค้าหรูหราและอัญมณีมากมายที่อยากครอบครอง แต่เมื่อหลายประเทศเริ่มกลับมาเปิด เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ราคาเพชรก็เริ่มทรงตัว และพร้อมร่วงลงรุนแรงในเวลาต่อมา"
โดยช่วงเดือน มิ.ย.66 ราคาเพชรได้มีการปรับตัวลงกว่า 18 % และเมื่อต้นเดือนก.ย 66 ที่ผ่านมา De Beers ธุรกิจเครื่องประดับและอัญมณีรายใหญ่ของโลก มีอายุกว่า 135 ปี ได้ตัดสินใจปรับราคาเพชรดิบลดลงเกือบ 40% ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 66 เนื่องจาก ความต้องการบริโภคในเพชรธรรมชาติมีจำนวนลดลง ประกอบกับปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจที่คนหันมาซื้อเพชรแล็บ หรือ เพชรสังเคราะห์มากขึ้น
สำนักข่าว Bloomberg รายงานกว่า จากการที่บริษัท De Beers ตัดสินใจปรับราคาลง ส่งผลต่อบริษัทอื่นในวงกว้าง เช่นกําไรครึ่งแรกของปี 66 ในหน่วยของ Anglo American Plc ลดลงมากกว่า 60% เหลือเพียง 347 ล้านดอลลาร์ และมีราคาขายเฉลี่ยลดลงจาก 213 ดอลลาร์ต่อกะรัต เป็น 163 ดอลลาร์ต่อกะรัต
เพชรสังเคราะห์ครองใจผู้บริโภค
เพชรสังเคราะห์ หรือ เพชรแล็บ (Lab Diamond) คือเพชรที่เกิดจากกรรมวิธีการผลิตด้วยองค์ประกอบทางเคมีที่เหมือนเพชรธรรมชาติทุกประการ เพียงแต่เกิดจากมนุษย์ในห้องแล็บ เลยทำให้มีราคาถูกกว่าเพชรแท้
จากการรายงานของสำนักข่าว Bloomberg พบว่า หนุ่มสาวชาวอเมริกันใช้เงินไปกับการท่องเที่ยวหาประสบการณ์ใหม่ๆ มากกว่าการซื้อของฟุ่มเฟือย เช่นเดียวกับการหันไปซื้อแหวนหมั้นจากเพชรแล็บแทนเพชรที่ขุดตามเหมืองธรรมชาติ เนื่องจากราคาที่ถูกกว่าแถมคุณภาพก็แทบไม่ต่างกัน
แต่เหตุผลที่ทำให้เพชรแล็บได้รับความนิยม ไม่ใช่แค่เรื่องราคาแต่เพียงอย่างเดียว แต่หากเราจะดูถึงกระบวนการผลิต เพชรสังเคราห์นั้นมีกรรมวิธีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แถมยังไม่ต้องเกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานแบบละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งนี่นับว่าเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการเลือกบริโภคของหนุ่มสาวยุคใหม่ หลังจากมีประเด็นร้อนในเรื่องการใช้แรงงานของธุรกิจอัญมณีหลายแห่งในประเทศแถบแอฟริกา
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านเพชร ได้ออกมาวิเคราะห์ถึงสถาการณ์เหล่านี้ว่า "อาจเป็นเพียงแค่ปรากฏการณ์ระยะสั้นๆ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต เนื่องจากตอนนี้ลูกค้าส่วนมากเลือกซื้อเพชรสังเคราะห์ให้เหมาะสมกับสถานะทางเศรษฐกิจของตัวเอง และในระยะยาวลูกค้ากลุ่มนี้ก็เป็นคนละกลุ่มกับลูกค้าระดับไฮเอนด์ที่จะเลือกซื้อหรือสะสมเฉพาะเพชรแท้"
การลงทุนกับเพชร
คุณอัญ-อัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยกับทาง SPOTLIGHT ว่า "เพชร คือ ตัวกระจายความเสี่ยงในการลงทุนที่ดี เพราะไม่ว่าอะไรที่ผันผวนขึ้นลง เเต่เพชรนั้นเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำเเละราคาค่อยๆเติบโต"
เเต่ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าโควิดทําให้ชีวิตคนหลายคนเปลี่ยนไป เช่นเดียวกับกับวงการเพชร เพราะปกติเเล้วคนจะมองว่าการลงทุนในเพชรนั้นคือระยะกลาง (3-7ปี) ถึงระยะยาว (7ปีขึ้นไป) เเต่กลับกลายเป็นการลงทุนอย่างรวดเร็วในระยะสั้น (0-3 ปี) ถึงระยะกลาง
คุณอัญ ยังกล่าวเสริมอีกว่า ในปี2564 เราทุกคนตกอยู่ในสถานการณ์ล็อกดาวน์ อยู่ในความกังวล เเต่ตลาดเพชรต่างประเทศเริ่มเปิด ซึ่งราคาของเพชรนั้นคืออยู่กับกฎ Demand เเละ Supply โดยตรง หากผู้บริโภคมีความต้องการมากในตลาด ราคาเพชรก็จะสูงขึ้นตามลําดับ ซึ่งตลาดใหญ่ของวงการเพชรมี 4 ประเทศ นั้นก็คือ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เเละอินเดีย (เเค่สหรัฐอเมริกา เเละจีนก็กินส่วนเเบ่งในตลาดโลกเเล้วกว่า 60%)
นี่ส่งผลถึงตลาดเพชรในเมืองไทย เเม้ว่าร้านเพชร Jubliee Diamond ต้องปิดร้านชัาวคราวกว่า 130 สาขาในปี 64 เหลือเพียงเเค่ 2 สาขาที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าเท่านั้น เเต่กลับทํากําไรเเละได้ new high ได้
“เพชร เป็นเครื่องประดับที่มีเสน่ห์เพราะหากเราจะซื้อเพชรเพื่อการลงทุน เราก็ยังคงสวมใส่มันได้ เเละไม่เกิดความเสียหายใดๆ เพราะเพชรเป็นอัญมณีที่มีความเเข็งเเกร่งที่สุด เพราะฉะนั้นจะใช้หรือไม่ใช้ มูลค่ายังคงอยู่เเละเติบโตได้ “
นอกจากนี้ราคาของเพชรยังขึ้นอยู่กับคุณภาพของเพชร โดยสามารถเเบ่งออกเป็นได้ 4 คุณลักษณะ (4C) : 4 อย่างเหล่านี้ต้องทํางานสัมพันธ์กัน
C1 : Color สีของเพชร
สีของเพชรธรรมชาติจะถูกแบ่งออกตามความขาวใส จริงอยู่ที่เพชรส่วนใหญ่มีลักษณะขาวใส แต่คนทั่วไปที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านเพชร มักไม่ทันสังเกตว่าเพชรส่วนใหญ่มักจะมีสีอมเหลือง หรืออมน้ำตาล โดยเกรดจะแบ่งเป็น D – Z ซึ่งเพชรธรรมชาติที่ขาวใสไร้สีปนเปื้อนจะเป็นเพชรเกรด D ในขณะที่เพชรเกรด E – F ก็มีลักษณะแทบไม่แตกต่างจากเพชรเกรด D อย่างไรก็ตามหากต่ำกว่าเกรด E ลงไปจะเริ่มมีสีปนเปื้อนที่มองเห็นได้ชัดขึ้นตามลำดับ
C2 : Clarity ความสะอาดของเพชร
เพชรธรรมชาติโดยส่วนใหญ่มักมีตำหนิหรือร่องรอยบางอย่าง ที่เกิดจากแร่ธาตุชนิดอื่นที่ไม่ใช่คาร์บอนไดออกไซด์ ปะปนเข้ามากระบวนการสร้างตัวของเพชรธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ โดยเพชรธรรมชาติที่อยู่ในเกณฑ์ FL (Flawless) เป็นเพชรที่หายากมาก และมีราคาสูงลิบ
C3 : Cut การเจียรไนเพชร
เพชรธรรมชาติจะถูกเจียระไนให้ได้สัดส่วนที่ถูกต้อง ทั้งความลึก ความกว้าง รูปทรงหน้าเจียระไนหรือเหลี่ยมเพชร และความสมมาตร ซึ่งการเจียระไนมีผลต่อความงามของเพชรโดยตรง เพราะช่วยเสริมให้เพชรเกิดประกายรุ้งสวยงามยามกระทบแสง ซึ่งแสงที่ดีจะต้องกระทบออกด้านหน้าเพชร ไม่ควรหนีออกด้านล่าง หรือด้านข้างเพชร
นอกจากคุณสมบัติการเล่นไฟที่ดี และความสมมาตรของเพชรธรรมชาติที่มีผลต่อเกรดการเจียระไน ช่างอัญมณียังต้องพยายามรักษาเนื้อเพชรให้ได้มากที่สุด เพราะมีผลต่อน้ำหนักกะรัตของเพชรธรรมชาติโดยตรง ซึ่งเพชรเกรด Tripple Excellent หรือ เพชร 3EX คือเพชรที่เล่นไฟได้สมบูรณ์แบบ หรือเพชรที่ถูกเจียระไนอย่างไร้ที่ตินั่นเอง
C4 : Carat น้ำหนักของเพชร
หลายคนมักเข้าใจว่ากะรัตคือไซซ์เพชร แต่ความจริงแล้วกะรัตคือหน่วยของน้ำหนักเพชรธรรมชาติ ซึ่งเพชร 1 กะรัตจะมีน้ำหนัก 200 มิลลิกรัม หากต่ำกว่า 1 กะรัตจะเรียกว่าเพชรตัง ซึ่งเพชรธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่กว่า 1 กะรัตจะมีเพียง 1 ใน 1,000 เม็ด แปลว่าเพชรยิ่งมีขนาดใหญ่ ยิ่งหายาก และมีราคาสูงขึ้นตามลำดับ
ที่มา