การส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ย่อมหมายถึง การอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน และการผ่อนคลายในเรื่องพิจารณาการปล่อยสินเชื่อ การลดภาระดอกเบี้ยผ่อนชำระในหนี้ต่าง ๆ สำหรับประเทศไทย นักวิเคราะห์คาดหมายว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยคงจะมีการประชุม และพิจารณาประกาศลดอัตราดอกเบี้ยตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในช่วงเวลากลางปีเช่นกัน ซึ่งแต่เดิมนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าอยู่ที่การประชุมเดือนธ.ค ปีนี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของประเทศไทยนั้นติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 แม้ว่าจะมีข้อสังเกตว่าอัตราเงินเฟ้อของไทยนั้นไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงจากการแทรกแซงในเรื่องค่าใช้จ่ายบิลไฟฟ้า และค่าน้ำมัน
ด้านการลงทุนนั้น เมื่อมีการลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐก็จะกระทบสภาพคล่องการเงินของโลก ซึ่งไทยจะได้ประโยชน์จากกระแสเม็ดเงินต่างชาติที่จะไหลเข้าประเทศ ผลกระทบดังกล่าวมักจะส่งผลบวกต่อ ราคาตราสารหนี้ หุ้น กองทุนอสังหาฯ-รีท กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทองคำ น้ำมัน ให้ปรับตัวสูงขึ้นใน 3-6 เดือนนับจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งแรก โดยเศรษฐกิจสหรัฐรอบนี้จะเป็นภาพเศรฐกิจที่ชะลอตัว ไม่ใช่ภาพเศรษฐกิจหดตัวรุนแรง เนื่องจากตลาดแรงงานที่ยืดหยุ่นได้ดี
อย่างไรก็ดี ท่าทีของเฟดยังคงระมัดระวังในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่เร็วเกินไป อาจทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับมาสร้างปัญหาอีก
ครั้ง โดยเฟดยังเฝ้าติดตามตัวเลขการสำรวจการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของคนอเมริกันอย่างใกล้ชิด (หากคนส่วนใหญ่คาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะขึ้นมาก เฟดจะมีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยมากกว่า)
สำหรับบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกนั้นคึกคัก แต่ตรงกันข้ามกับตลาดหุ้นไทยที่นักลงทุนยังขาดความมั่นใจที่จะเติมเงินลงทุนเข้าสู่ตลาดหุ้นขณะนี้ ทั้งนี้เนื่องจากการผ่านพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณที่ล่าช้ากว่าปกติ
ทำให้สภาพคล่องในระบบเหือดแห้ง คนไทยระมัดระวังเรื่องการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากปีก่อน
ทีมวิจัยของหลักทรัพย์บัวหลวง ประเมินว่า กำไรของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 1/2567 ที่รอประกาศนั้น จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 4/2566 (เนื่องจากมีรายการค่าใช้จ่ายพิเศษมากในไตรมาสก่อน) แต่ตัวเลขกำไรบริษัทจดทะเบียนคาดว่าจะลดลงราว 6 % เทียบกับไตรมาสแรกปีก่อน ซึ่งกำไรไตรมาสแรกคิดเป็นสัดส่วนราว 24% ของประมาณการกำไรทั้งปี
“สถิติในอดีตผมคิดว่ากำไรหากออกมาตามที่นักวิเคราะห์เราคาดตามนี้ ตลาดหุ้นไทยไม่น่าจะเห็นจะปรับประมาณการกำไรรวมขึ้น สะท้อนว่า นักลงทุนจะยังไม่รีบซื้อหุ้นเพราะหุ้นคงแกว่งระดับนี้ไปอีก 3 เดือน ดังนั้นเรายังคงน้ำหนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยเท่าเดิม เน้นซื้อหุ้นรับปันผล ตราสารหนี้เรตติ้งลงทุน และลงทุนผ่านตราสาร ELN เพื่อสร้างผลตอบแทนในขณะตลาดหุ้นไทยทรงตัว”
กราฟ คาดการณ์สัดส่วนกำไรแต่ละไตรมาสเทียบประมาณการทั้งปี
ที่มา: ข้อมูลจากทีมวิจัยของหลักทรัพย์บัวหลวง และ Bloomberg
กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)