ทำไมสภาพัฒน์ถึงหั่นเป้า GDP ไทยปีนี้ลงเหลือ 2.5%?

สภาพัฒน์ ประเมินเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/2567 เติบโต 1.5% ดีกว่าคาด แต่ทำไมสภาพัฒน์ถึงหั่นเป้า GDP ทั้งปีลงอีก? ปัจจัยเสี่ยงอะไรที่ส่งผลให้ประเมิน GDP ไทยปีนี้ต่ำลงอีก? แล้วเศรษฐกิจไทยมีปัจจัยหนุนในแง่บวกหรือไม่?

SPOTLIGHT พามาดูมุมมองของ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ต่อเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/2567 และในปี 2567 

คอนเทนต์แนะนำ

ด่วนกระบะ ชน จยย.พลิกคว่ำตกดอย เจ็บตายรวม 13 ราย

ลุ้นผลเลือกตั้ง นายกอบจ.อุบลราชธานี ใครจะได้เก้าอี้ไปครอง

หญิงไทยเสียชีวิตปริศนา แฟนต่างชาตินอนอยู่กับศพ 3 วัน

“สภาพัฒน์ ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2567 เหลือ 2-3% ค่ากลางที่ 2.5% จากเดิมที่ 2.2-3.2% และจากค่ากลางที่ 2.7%  จากปัจจัยเรื่องของสงครามการค้า ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ระดับสูง ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลต่อภาคการเกษตร” นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สศช.เผย 

โดยเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/2567 เติบโต 1.5% จากการบริโภคภาคเอกชนที่เพิมขึ้น 6.9% การลงทุนภาคเอกชน เพิ่มขึ้น 4.6% ปริมาณการส่งออกด้านบริการ เพิ่มขึ้น 24.8% สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร เพิ่มขึ้น 11.8% สาขาขนส่ง เพิ่มขึ้น 9.4% สาขาการค้า เพิ่มขึ้น 4.3% และสาขาการเงิน เพิ่มขึ้น 2.9%

ส่วนภาคไหนที่หดตัวบ้าง มีดังนี้ การอุปโภคบริโภคภาครัฐ ติดลบ 2.1% การลงทุนภาครัฐ ติดลบ 27.7% ปริมาณการส่งออกสินค้า ติดลบ 2.0% ภาคการเกษตร ติดลบ 3.5% สาขาอุตสาหกรรม ติดลบ 3.0% สาขาก่อสร้าง ติดลบ 17.3% 

สำหรับความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยปี 2567 

1. สงครามการค้า
2. ปัญหาภูมิรัฐศาตร์
3. ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ทั้งเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยที่ช้ากว่าที่คาด การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจและการค้าในช่วงที่หลายประเทศมีการเลือกตั้ง
4. หนี้สินครัวเรือนและภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูง

ในยุคเศรษฐกิจไทยที่มีปัจจัยเสี่ยงรอบด้านนี้ เราประชาชนคนไทยคงต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังลดการก่อหนี้ และใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น เพื่อป้องกันความเสี่ยงในอนาคต