SPOTLIGHT จะพาส่องอนาคต KEX ทิศทางจะไปทางใด และที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ล่าสุด ผลประกอบการในไตรมาส 1/2567 ออกมา พบว่า ขาดทุนสุทธิ 1,149 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นถึง 50% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ถือว่าเป็นตัวเลขที่ขาดทุนสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
โดย KEX ให้เหตุผลการขาดทุนครั้งนี้จำนวนมาก สาเหตุมาจากการปรับปรุงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวของการปรับเปลี่ยนประมาณการทางบัญชี และการตั้งสำรองด้อยค่าสินทรัพย์ถาวร ขณะที่ปริมาณการจัดส่งพัสดุ ลดลถึง 18% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เหตุเป็นช่วง low season และการมุ่งเน้นกับลูกค้ารายย่อยและเศรษฐกิจไทยที่เติบโตช้าลง หนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น
นอกจากการแข่งขันที่รุนแรงแล้ว ยังมีปัจจัยเรื่องความผันผวนในปริมาณการจัดส่งพัสดุจากแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ที่ยังจะมีผลกระทบต่อการฟื้นตัว ซึ่ง KEX ได้มีการใช้เทคโนโลยี เช่น ระบบคัดแยกพัสดุอัตโนมัติในศูนย์คัดแยกพัสดุในบางภูมิภาค และการอัพเกรดแพลตฟอร์ทตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในแง่ของการบริหารจัดการต้นทุน
KEX มีแผนที่จะเพิ่มยอดขายจากผู้ใช้บริการรายย่อยและกลุ่มลูกค้าประเภทธุรกิจ รวมถึง ผู้ใช้บริการส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยจะเน้นหาลูกค้าที่สร้างรายได้ต่อพัสดุที่ระดับสูง ทั้งลูกค้าทั่วไป วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม องค์กรขนาดใหญ่ ชาวสวน ชาวประมง ผู้ผลิตสินค้าหัตถกรรม ผู้จัดและผู้ร่วมงานมหกรรมและอื่นๆ ซึ่งกลยุทธ์นี้เพื่อมีเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนรายได้ พร้อมทั้งรักษาส่วนแบ่งการตลาดในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซด้วยการให้บริการที่เป็นเลืศ
นอกจากนี้ การใช้บริการ KEX ได้นำแนวทางจาก เอสเอฟ เอ็กซ์เพรส มาปรับใช้ เช่น On-Time-in-Full หรือ OTIF และอัตราส่วนความพึงพอใจของลูกค้า เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าของ KEX จะพึงพอใจ ตามเป้าหมาย คือ การปรับปรุงคุณภาพการบริการอย่างต่อเนื่องและรักษาระดับความพอใจของลูกค้าให้สูงสุด
สำหรับก้าวต่อไปของ KEX นับจากนี้ จะมุ่งเน่นการกระจายธุรกิจไปสู่แหล่งรายได้ใหม่ เพิ่มอัตรากำไร และเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนเครือข่ายให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนของต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปรจากค่าใช้จ่ายในการเช่าพื้นที่และค่าใช้จ่ายพนักงานในศูนย์คัดแยกพัสดุ KEX จะมีการแบ่งกลุ่มตลาดใหม่
นอกจากนี้ KEX มีแผนจะให้บริการส่งพัสดุระหว่างประเทศ โดยจะให้ครอบคลุมเส้นทางกว่า 50 เส้นทางใน 45 ประเทศทั่วทวีปเอเซียแปซิฟิกและยุโรป ซึ่งจะร่วมมือกับ เอสเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่มีความเชี่ยวชาญในการส่งพัสดุระหว่างประเทศ และเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจการขนส่งแบบด่วน
ด้วยผลประกอบการในไตรมาส 1/2567 ขาดทุนมากกว่าที่ตลาดคาดนั้น บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า ในปีนี้ค่าใช้จ่ายของ KEX ยังคงอยู่ในระดับสูง แต่รายได้ในไตรมาสนี้เริ่มมีสัญญาณดีขึ้นเล็กน้อย สะท้อนว่า กลยุทธ์ของ KEX ที่เน้นบริการที่ให้อัตราผลตอบแทน (yield) ที่สูงเริ่มส่งผลให้เห็นบ้างแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ยังมองว่าปีนี้ KEX จะยังคงขาดทุนอยู่ ซึ่งประมาณการปีนี้จะมีผลขาดทุนสุทธฺ 3.47 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะขาดทุนไตรมาสละประมาณ 800-900 ล้านบาท จากการแข่งขันที่ดุเดือด และคาดรายได้ปีนี้ที่ 9.17 พันล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้าที่ 1.14 หมื่นล้านบาท
ขณะนี้ราคาหุ้น KEX ร่วงลงอย่างหนักในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา แต่ผลขาดทุนเริ่มนิ่งแล้ว จึงแนะนำถือหุ้น KEX ราคาเป้าหมายที่ 4.80 บาท/หุ้น ล่าสุด ราคาหุ้น KEX (14.45) อยู่ที่ 4.60 บาท/หุ้น ลดลง -1.93%