เกิดเหตุการณ์ลอบยิง โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯจากพรรครีพับลิกัน ขณะกำลังปราศรัยที่เมืองบัตเลอร์รัฐเพนซิลเวเนีย เบื้องต้นมีรายงานขณะนี้ทรัมป์ปลอดภัยดีแต่ได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนเฉี่ยวที่หูขวา หลังเกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนำตัวทรัมป์ออกจากที่เกิด เหตุขณะที่ทรัมป์ยกมือชูกำปั้นสู้ๆ
ทรัมป์กล่าวบนแพลตฟอร์ม Truth Social ของเขา “ฉันถูกยิงกระสุนเจาะบริเวณหูข้างขวาของฉัน” “มีเลือดออกมาก”
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นมือปืนเสียชีวิตแล้ว และมีผู้ร่วมฟังปราศรัยเสียชีวิต 1 ราย ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และต้องมีการสืบสวนต่อไปว่าเป็นการจงใจลอบสังหารหรือไม่?
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประณามเหตุการณ์ลอบยิงที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่า ไม่มีพื้นที่ให้กับความรุนแรงแบบนี้ พร้อมทั้งระบุว่า จะได้มีโอกาสพูดคุยกับทรัมป์ต่อไป
เหตุการณ์ลอบยิงนี้เกิดขึ้นก่อน ‘การประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกัน’ หรือ Republican National Convention (RNC) จะถูกจัดขึ้นในวันที่ 15-18 กรกฎาคม ในเมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน ซึ่งเป็นการประชุมที่ตัวแทนของพรรครีพับลิกันจะมารวมตัวกันเพื่อเสนอชื่อนาย โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายน
ตามธรรมเนียมของการเลือกตั้งในสหรัฐฯ การประชุมใหญ่ของพรรคที่เป็นรัฐบาลอยู่ ซึ่งปัจจุบันคือ ‘พรรคเดโมแครต’ จะจัดขึ้นหลังจากการประชุมขอพรรคฝ่ายค้าน โดยในปีนี้ ‘การประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครต’ หรือ Democratic National Convention (DNC) จะจัดขึ้นในวันที่ 19-22 สิงหาคม
สื่อต่างประเทศรายงานว่าในขณะนี้ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในรัฐวิสคอนซิน และเมืองมิลวอกี กำลังจัดการรักษาความปลอดในการประชุม RNC ให้เข้มข้น และรัดกุมมากขึ้น หลังเกิดเหตุลอบยิงขึ้น ทั้งด้วยการขยายขอบเขตการตรวจตรา รวมถึงตั้งบัฟเฟอร์โซนรอบๆ สนาม Fiserv Forum
และล่าสุด เจ้าหน้าที่แคมเปญของทรัมป์ เผยว่าทรัมป์ปลอดภัยดี และจะยังคงเข้าร่วมการประชุม RNC เพื่อร่วมชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ในวันจันทร์ที่กำลังที่จะถึงนี้
นอกจากนี้ ในวันที่ 23 กรกฎาคม หรือ 13 สิงหาคมนี้ รองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส ยังจะเข้าร่วมในการดีเบตแสดงวิสัยทัศน์กับผู้ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งจัดโดย สถานีโทรทัศน์ CBS
ทั้งนี้ ทางรีพับลิกันยังไม่ตอบรับว่าจะส่งตัวแทนจากพรรคเพื่อเข้าร่วมการดีเบตกับ CBS หรือไม่ เพราะต้องการให้การดีเบตจัดโดย Fox News มากกว่า ซึ่งทางเดโมแครตยังไม่ตอบรับว่าจะส่งคามาลาเข้าดีเบตกับ Fox หรือไม่
ต้องยอมรับว่าการเลือกตั้งสหรัฐฯปี 2024 ถูกจับตามองจากทั่วโลก เพราะปัจจุบันสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์โลกกำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สหรัฐฯคือ มหาอำนาจที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลก การเปลี่ยแปลงผู้นำ จึงหมายถึงการเปลี่ยนแปลงในนโยบายของสหรัฐฯ ที่ขณะนี้โลกกำลังมีทั้งสงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมทั้งสงครามในตะวันออก กลางที่ยังไม่จบลง
ขณะที่การแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจ (decoupling) มีความชัดเจนและกำลังสะเทือนเศรษฐกิจทั่วโลกนับตั้งแต่หลังโควิดเป็นต้นมา การเลือกตั้งสหรัฐ2024 ถูกจับตาในประเด็นเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนด้วย เพราะอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการค้า ภาษี และซัพพลายเชน เนื่องจากชาติที่เป็นพันธมิตรมักจะทำธุรกิจร่วมกัน ขณะที่ย้ายการผลิตกระจายความเสี่ยงจากประเทศฝั่งตรงข้ามไปยังประเทศอื่นที่เป็นกลางมากกว่า
นอกจากนโยบายแล้ว ตัวผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งนี้ ก็ถูกจับตามองเช่นกัน เพราะอายุของทั้งทรัมป์ และ ไบเดน มากทั้งคู่ โดยเฉพาะไบเดนที่ปีนี้มีอายุถึง 81 ปีแล้วในปีนี้ ขณะที่ทรัมป์มีอายุ 78 ปี และนั่นหมายถึงความพร้อมทางสุขภาพของผู้นำ
ที่มา ภาพจาก AFP