ครม. ผ่านแผนปรับปรุงรองรับวิกฤตน้ำมันเชื้อเพลิงครั้งที่ 2 ปลดล็อกเพดานเงินกู้กองทุนน้ำมันฯ 4 หมื่นล้าน คาดช่วยตรึงดีเซล 30 บาทได้นานขึ้น ยังไม่วางใจราคาน้ำมันโลกลดลง เชื่อตลาดยังผันผวน ขอประเมินสถานการณ์วันต่อวัน
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงวันนี้ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ (ร่าง) แผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2563 – 2567 (ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 2) เป็นการเปลี่ยนแปลงแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง ในส่วนของหลักเกณฑ์การบริหารจัดการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อให้มีความยืดหยุ่นในการรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ดังนี้
- การยกเลิกวงเงินบริหารกองทุนน้ำมันฯ ให้ยกเลิกการกำหนดวงเงินบริหารกองทุนน้ำมัน ฯ รวมวงเงินกู้ยืม 40,000 ล้านบาท จากเดิมแผนรองรับวิกฤต ฯ ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 ระบุว่า การบริหารจัดการกองทุนน้ำมัน ฯ ต้องมีจำนวนเงินเพียงพอเพื่อใช้ในการบริหารจัดการกองทุนน้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อรวมกับเงินกู้แล้วต้องไม่เกิน 40,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ เนื่องด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผันผวนตลอดเวลา การปรับยกเลิกครั้งนี้ เพื่อรองรับการดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการดูแลราคาน้ำมันให้กับประชาชน - การปรับกลยุทธ์การถอนกองทุนน้ำมัน ฯ (Exit Strategy) ให้ยกเลิกการปรับสัดส่วนการช่วยเหลือลงครึ่งหนึ่ง เมื่อฐานะกองทุนน้ำมันใกล้ติดลบ แต่ยังคงดำเนินการหารือการปรับลดภาษีสรรพสามิต เพื่อรักษาระดับราคาน้ำมันให้เหมาะสม ไม่ให้กองทุนขาดสภาพคล่อง จากเดิม กำหนดว่าให้ปรับสัดส่วนการช่วยเหลือลงครึ่งหนึ่ง หากกองทุนน้ำมันฯ ใกล้ติดลบเพื่อให้เกิดความคล่องตัว กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง เกิดประโยชน์สูงสุดในการช่วยเหลือประชาชนไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการดำรงชีพด้วยสาเหตุความผันผวนของราคาน้ำมัน
“ในที่ประชุมท่านนายกฯ ยังแนะให้ดูแลเรื่องราคาก๊าซธรรมชาติและก๊าสหุงต้ม รวมทั้งให้กองทุนน้ำมันฯ ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนให้ได้มากที่สุด”นายธนกร กล่าว
ขณะที่นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ได้กล่าวภายหลังการประชุม ครม. ว่า การปรับวงเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็น 40,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้การตรึงราคาน้ำมันดีเซล 30 บาทต่อลิตร ยาวขึ้นได้อีก โดยปัจจุบัน รัฐบาลอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 7 บาท
อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามราคาน้ำมันในตลาดโลกแบบวันต่อวัน เนื่องจากตลาดยังมีความผัยผวนสูง ส่วนการจะช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้น้ำมันเบนซินหรือไม่นั้น ยังไม่มีข้อสรุปในขณะนี้