นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การต่างประเทศ ยืนยันประธานาธิบดี ‘สีจิ้นผิง’ จากจีน ตอบรับเข้าร่วมประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก หรือ “เอเปค (APEC)” ที่มีไทยเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายนนี้แล้ว โดยล่าสุดทั้ง 21 ประเทศตอบรับเข้าร่วมการประชุม ส่วน ‘วลาดิเมียร์ ปูติน’ ยังรอยืนยัน
เป็นที่คาดเดากันมานานว่าจะมีผู้ใดเข้าร่วมงานประชุมระดับโลกครั้งนี้บ้างนับตั้งแต่มีข่าวออกมาว่า ประธานาธิบดี ‘โจ ไบเดน’ ยืนยันจะไม่มาร่วมการประชุมที่ไทย มาวันนี้สำนักนายกรัฐมนตรีประกาศแล้วว่าทั้ง 21 ประเทศสมาชิกตอบรับส่งบุคคลสำคัญเข้าประชุม โดยส่วนมากเป็นผู้นำสูงสุดของรัฐบาล แต่บางประเทศอาจเป็นผู้แทน เช่น 'กมลา แฮร์ริส' รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่ตกลงเดินทางมาร่วมประชุมแทนประธานาธิบดีไบเดนที่จะไปร่วมงานแต่งงานของหลานสาวที่ทำเนียบขาวแทน
นอกจากนี้ ยังมีการเชิญผู้นำประเทศที่ไม่ใช่ประเทศสมาชิก APEC อีก 3 ประเทศเข้าร่วมประชุม ได้แก่ ‘เอ็มมานูเอล มาครง’ ประธานาธิบดีประเทศฝรั่งเศส, 'เจ้าชายมูฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย' และ 'สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา' ในฐานะประธานอาเซียน ซึ่งทั้งหมดได้ตอบรับแล้วว่าจะเดินทางมาร่วมงาน
เปิดลิสต์ผู้นำงาน APEC ใครตกลงมาแล้วบ้าง
จากข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้นำที่ตอบรับคำเชิญเพื่อเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้แล้ว คือ
- ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จากจีน
- ประธานาธิบดี เหวียน ซวน ฟุก จากเวียดนาม
- รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส จากสหรัฐอเมริกา
- ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง จากฝรั่งเศส
- เจ้าชายมูฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย
- สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา
โดยรัฐมนตรีการต่างประเทศได้กล่าวว่า ในขณะนี้ทางรัฐบาลได้รับคำตอบรับจากทุกประเทศสมาชิกแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อเต็มได้ในขณะนี้เพราะมีข้อกังวลเรื่องความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม นายดอนกล่าวว่าในครั้งนี้จะมีผู้นำประมาณ 6-7 ประเทศ รวมไปถึงประเทศจีนเดินทางมาหารือที่ทำเนียบรัฐบาลอย่างเป็นทางการ
นอกจากนี้ยังมี 4 ประเทศและเขตเศรษฐกิจที่ยืนยันจะส่ง ’ผู้แทน’ มาร่วมประชุม ได้แก่ ‘มาเลเซีย’ ที่กำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้งในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้, ‘เม็กซิโก’ เนื่องจากปัญหาภายในประเทศ ‘ฮ่องกง’ เพราะเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ และ ‘ไต้หวัน’
โดยการประชุมครั้งนี้จะเป็นการประชุมแบบพบหน้ากันเป็นครั้งแรก หลังจากต้องจัดประชุมออนไลน์ผ่านวีดีโอในปีที่ผ่านมา เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อหารือเกี่ยวกับการค้าการลงทุนเสรีและการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค และส่งเสริมการเจริญเติบโตที่เน้นสร้างสมดุลในทุกด้าน
ที่มา: Infoquest