ข่าวเศรษฐกิจ

ส.อ.ท.วอนรัฐชะลอปรับขึ้นค่าแรง 400 บาท พยุงราคาพลังงาน 3 เดือน

15 พ.ค. 67
ส.อ.ท.วอนรัฐชะลอปรับขึ้นค่าแรง 400 บาท พยุงราคาพลังงาน 3 เดือน

เมื่อรัฐบาลเดินหน้าขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400 บาท ทั่วประเทศ ในวันที่ 1 ต.ค.2567 นี้  ภาคเอกชนต่างพากันคัดค้าน และไม่ต้องการให้การเมืองเข้ามาแทรกแซงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ด้านสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ก็มีความเห็นที่ตรงกัน 

2v0a0005

โดยนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการยังมีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ ดังนี้ 

  • ขอให้รัฐบาลชะลอการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำออกไปก่อน เนื่องจากภาคการผลิตยังชะลอตัวต่อเนื่อง และผู้ประกอบการ SMEs กว่า 3.18 ล้านราย ยังไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นได้ 

โดยมองว่าการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ จะต้องเป็นไปตามกลไกของคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำรายจังหวัด และคณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) โดยพิจารณาให้สอดคล้องกับปัจจัยทางเศรษฐกิจของแต่ละจังหวัด

  • ขอให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกมาตรการช่วยเหลือด้านราคาพลังงานเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการและลดภาระค่าครองชีพ เช่น การตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร การให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าแก่ SMEs รวมทั้งออกมาตรการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน
  • ขอให้รัฐบาลช่วยออกมาตรการส่งเสริมผู้ประกอบการให้มีการดำเนินการตามแนวคิด ESG รวมทั้งการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น ผ่อนปรนเงื่อนไขการเข้าถึงเงินกู้ Green Loan ให้ง่ายขึ้น อุดหนุนค่าใช้จ่ายที่นำไปลงทุนในเทคโนโลยีด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ลดค่าธรรมเนียมรับรองคาร์บอนเครดิต 50% ในปี 2567 

ส.อ.ท.

ดัชนีความเชื่อมั่นอุตฯ ลดฮวบ

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมของไทยในเดือนเมษายน 2567 อยู่ที่ระดับ 90.3 ปรับตัวลดลงจาก 92.4 ในเดือนมีนาคม 2567 เป็นการปรับตัวลดลงทั้งยอดขายโดยรวม คำสั่งซื้อโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ ผลจากประชาชนเริ่มระมัดระวังการใช้จ่ายกันมากขึ้น

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลง เป็นผลมาจากการชะลอตัวของอุปสงค์ในประเทศ อาทิ สินค้ายานยนต์, เฟอร์นิเจอร์, สิ่งทอ, เครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน ส่งผลให้ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่าย ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี มีความกังวลต่อนโยบายการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน เท่ากันทั่วประเทศ ซึ่งจะกระทบต่อต้นทุนการผลิต ขณะที่การสิ้นสุดมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลของภาครัฐ ส่งผลให้ต้นทุนด้านพลังงานและค่าขนส่งปรับตัวเพิ่มขึ้น

ขณะที่ผู้ประกอบการยังได้รับผลกระทบจากสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศเข้ามาทุ่มตลาดในประเทศไทยและอาเซียน และปัญหาภัยแล้งที่ทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลกระทบต่อผลผลิตสินค้าเกษตร และทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำ รวมถึง ปัญหาการลักลอบขนย้ายกากตะกอนแคดเมียม ส่งผลกระทบต่อประชาชน และภาพลักษณ์ของภาคอุตสาหกรรม

รวมถึง ผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางรุนแรงขึ้น ทั้งนี้ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังไม่คลี่คลาย ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานในตลาดโลก รวมถึงปัญหาความไม่สงบในประเทศเมียนมา ที่ส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดน

แต่ในเดือนเมษายนได้รับปัจจัยบวกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ส่งผลดีต่อยอดขายสินค้าในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ขณะที่ตลาดโลกมีความต้องการสินค้าอาหารเพิ่มขึ้น จากภาวะขาดแคลนอาหารและปัญหาภัยแล้ง

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่มีภาระหนี้ ยังได้รับผลดีจากการที่ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินหลายแห่ง ปรับลดอัตราดอกเบี้ย (MRR) ลง 0.25% เป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ตามคำร้องขอของนายกรัฐมนตรี

นายกรัฐมนตรีรับทราบกำหนดการค่าแรงขั้นต่ำมีผลภายใน ก.ย.-ต.ค.นี้

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดเพชรบุรี ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรีว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รับทราบความคืบหน้าการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศ โดยจะมีผลใช้บังคับภายในกันยายน-ตุลาคม 2567

ขณะที่นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานความคืบหน้าการกำหนดอัตราค่าจ้าง 400 บาท ทั่วประเทศ โดยกระทรวงแรงงาน และคณะกรรมการค่าจ้าง ได้นำไปดำเนินการดังนี้

  1. กำหนดให้สำรวจค่าใช้จ่ายที่จำเป็นของแรงงานทั่วไปแรกเข้าทำงานในภาคอุตสาหกรรม ปี 2567 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2567
  2. กำหนดให้มีการประชุมหารือผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในเดือนพฤษภาคม 2567
  3. สำนักงานคณะกรรมการค่าจ้างเสนอคณะกรรมการค่าจ้างพิจารณากรอบแนวทางและหลักเกณฑ์การทบทวนความเหมาะสมของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัด เพื่อให้การประชุมของคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดทุกจังหวัดและคณะอนุกรรมการวิซาการและกลั่นกรองเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดอย่างมีหลักวิชาการและเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2567
  4. สำนักงานคณะกรรมการค่าจ้างเสนอคณะกรรมการค่าจ้างพิจารณาข้อเสนออัตราค่าจ้างขั้นต่ำของคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดทุกจังหวัดและคณะอนุกรรมการวิชาการและกลั่นกรองเพื่อทบทวนการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ปี 2567 และเสนอประกาศ คณะกรรมการค่าจ้าง เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้ เดือนกันยายน-ตุลาคม 2567

advertisement

SPOTLIGHT