โดยนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการยังมีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ ดังนี้
โดยมองว่าการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ จะต้องเป็นไปตามกลไกของคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำรายจังหวัด และคณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) โดยพิจารณาให้สอดคล้องกับปัจจัยทางเศรษฐกิจของแต่ละจังหวัด
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมของไทยในเดือนเมษายน 2567 อยู่ที่ระดับ 90.3 ปรับตัวลดลงจาก 92.4 ในเดือนมีนาคม 2567 เป็นการปรับตัวลดลงทั้งยอดขายโดยรวม คำสั่งซื้อโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ ผลจากประชาชนเริ่มระมัดระวังการใช้จ่ายกันมากขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลง เป็นผลมาจากการชะลอตัวของอุปสงค์ในประเทศ อาทิ สินค้ายานยนต์, เฟอร์นิเจอร์, สิ่งทอ, เครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน ส่งผลให้ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่าย ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี มีความกังวลต่อนโยบายการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน เท่ากันทั่วประเทศ ซึ่งจะกระทบต่อต้นทุนการผลิต ขณะที่การสิ้นสุดมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลของภาครัฐ ส่งผลให้ต้นทุนด้านพลังงานและค่าขนส่งปรับตัวเพิ่มขึ้น
ขณะที่ผู้ประกอบการยังได้รับผลกระทบจากสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศเข้ามาทุ่มตลาดในประเทศไทยและอาเซียน และปัญหาภัยแล้งที่ทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลกระทบต่อผลผลิตสินค้าเกษตร และทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำ รวมถึง ปัญหาการลักลอบขนย้ายกากตะกอนแคดเมียม ส่งผลกระทบต่อประชาชน และภาพลักษณ์ของภาคอุตสาหกรรม
รวมถึง ผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางรุนแรงขึ้น ทั้งนี้ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังไม่คลี่คลาย ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานในตลาดโลก รวมถึงปัญหาความไม่สงบในประเทศเมียนมา ที่ส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดน
แต่ในเดือนเมษายนได้รับปัจจัยบวกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ส่งผลดีต่อยอดขายสินค้าในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ขณะที่ตลาดโลกมีความต้องการสินค้าอาหารเพิ่มขึ้น จากภาวะขาดแคลนอาหารและปัญหาภัยแล้ง
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่มีภาระหนี้ ยังได้รับผลดีจากการที่ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินหลายแห่ง ปรับลดอัตราดอกเบี้ย (MRR) ลง 0.25% เป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ตามคำร้องขอของนายกรัฐมนตรี
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดเพชรบุรี ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรีว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รับทราบความคืบหน้าการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศ โดยจะมีผลใช้บังคับภายในกันยายน-ตุลาคม 2567
ขณะที่นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานความคืบหน้าการกำหนดอัตราค่าจ้าง 400 บาท ทั่วประเทศ โดยกระทรวงแรงงาน และคณะกรรมการค่าจ้าง ได้นำไปดำเนินการดังนี้