สหรัฐฯ จ่อแบนไม่ให้มีการใช้ซอฟต์แวร์จีนในรถยนต์ไร้คนขับในสหรัฐฯ อ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย แต่คาดเป็นการกีดกันไม่ให้มีการใช้รถยนต์ไร้คนขับที่ผลิตในจีนในสหรัฐฯ ส่งผลให้สงครามการค้าระหว่างสองประเทศมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น
วันที่ 6 สิงหาคม 2567 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าวภายในว่า รัฐบาลสหรัฐฯ นำโดยนาย โจ ไบเดน กำลังเสนอที่จะห้ามไม่ให้มีการใช้ซอฟต์แวร์ของจีนในยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (automatic vehicles) ในสหรัฐฯ ที่มีสมรรถภาพในระดับ 3 ขึ้นไป โดยอ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย เพราะกังวลว่ารัฐบาลจีนจะใช้ซอฟต์แวร์เหล่านี้ในการเก็บข้อมูลประชากรสหรัฐฯ และโครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐฯ
ตามคำจำกัดความของ SAE International หรือ องค์กรดูแลมาตรฐานด้านวิศวกรรมเกี่ยวกับการขนส่ง ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 3 หรือ conditional automation คือ รถยนต์ที่เคลื่อนที่ระยะไกล ควบคุมการเลี้ยว เร่งและผ่อนเครื่องเองได้ตามสถานการณ์ โดยอาศัยเรดาร์ เซนเซอร์ และข้อมูลสภาพแวดล้อมภายนอกมาประมวลผล แต่คนนั่งก็สามารถกลับมาควบคุมพวงมาลัยตามเดิมได้ หากอยู่ในสถานการณ์อันตราย
โดยหากรัฐบาลไบเดนสามารถดันกฎดังกล่าวจนบังคับใช้ได้จริง ผู้ซื้อจะไม่สามารถนำยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 3 ขึ้นไปที่ผลิตในจีนมาใช้ในสหรัฐฯ ได้ไปด้วย เพราะรถยนต์ที่ผลิตในจีนส่วนมากจะใช้ซอฟต์แวร์ของบริษัทจีนทั้งหมด
จากผลกระทบที่เป็นวงกว้างนี้ ทำให้แม้รัฐบาลสหรัฐฯ จะอ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย นักวิเคราะห์กลับมองว่า นี่อาจจะเป็นกลยุทธ์หนึ่งของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการกีดกันเทคโนโลยีจีน นอกจากการเพิ่มกำแพงภาษี หลังจากรัฐบาลประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าอีวีจีนจาก 25% เป็นกว่า 100% ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้ รอยเตอร์ ยังรายงานอีกว่า รัฐบาลไบเดนยังมีแผนที่จะแบนไม่ให้มีการใช้รถยนต์จีนที่มีเทคโนโลยีสื่อสารแบบไวร์เลสในสหรัฐฯ และบังคับให้ผู้ผลิตรถยนต์และซัพพลายเออร์ต้องยืนยันว่า รถยนต์หรือชิ้นส่วนที่ใช้ผลิตรถยนต์ภายในประเทศนั้นไม่ได้ใช้ซอฟต์แวร์ หรือโปรแกรมที่ผลิตในประเทศที่สหรัฐฯ มองว่าเป็นภัย เช่น ประเทศจีน เพราะมองว่า รัฐบาลจีนสามารถใช้เครื่องมือเหล่านี้เก็บข้อมูลและสอดส่องประชากรสหรัฐฯ ได้เช่นกัน
ที่มา: Bloomberg