ปัจจุบันโครงสร้างอุตสาหกรรมไฟฟ้าในประเทศไทย เป็นโครงสร้างกิจการไฟฟ้า รูปแบบ Enhanced Single Buyer Model (ESB) โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. หรือ EGAT เป็นผู้ผลิตไฟฟ้า ส่งไฟฟ้า และเป็นผู้รับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าเอกชน (IPP หรือ SPP) และรับซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศเพียงรายเดียว (Single Buyer) โดยส่งกระแสไฟฟ้าผ่านสายส่งไฟฟ้าแรงสูง และสถานีไฟฟ้าแรงสูง เพื่อจำหน่ายต่อไปให้กับ…
ทั้งนี้ กฟน. และกฟภ. จะเป็นผู้จำหน่ายไฟฟ้าให้กับผู้ที่ต้องการใช้ไฟฟ้า โดยกำหนดอัตราค่าไฟฟ้า สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทเดียวกันเป็นอัตราเดียวกันทั่วประเทศ (Uniform Tariff) ต่างกันแค่ประเภทผู้ใช้ไฟฟ้า แบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ บ้านอยู่อาศัย พาณิชย์ อุตสาหกรรม และอื่นๆ เช่น ความต้องการใช้ไฟไม่ส่ำเสมอ ใช้เพียงชั่วคราว เป็นต้น อุตสาหกรรม ซึ่งจะมีคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เป็นผู้กำกับดูแลโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าของประเทศในภาพรวม
ขณะที่บริษัทเอกชนที่ทำการผลิตไฟฟ้าของไทย ก็มีหลายบริษัทในขณะนี้ แต่วันนี้ SPOTLIGHT ได้พามาส่องงบ 5 บริษัทขนาดใหญ่ว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง ในยามที่ค่าไฟฟ้าพุ่งกระฉูดกันในขณะนี้
บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH บริษัทรูปแบบโฮลดิ้ง เข้าไปลงทุนบริษัทพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงประเภทต่างๆ โครงการพลังงานทดแทน ตลอดจนธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการผลิตไฟฟ้า และธุรกิจพลังงานด้านอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ
โดยปี 2565 มีรายได้รวม 81,788.08 ล้านบาท
มีกำไรสุทธิ 5,782.07 ล้านบาท
มีมูลค่าหลักทรัพย์ 83,193.75 ล้านบาท
มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 8,250.05 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น
โดยตัวเลขกำลังการผลิต ณ เดือนมีนาคม 2566 บริษัท มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นจากโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลักในประเทศ จำนวน 4,586.46 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการพัฒนาและก่อสร้างอีก จำนวน 809.88 เมกะวัตต์ และจากโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลักในต่างประเทศ จำนวน 1,736.26 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการพัฒนาและก่อสร้างอีก จำนวน 741.52 เมกะวัตต์
โดยตัวเลขกำลังการผลิต ณ เดือนมีนาคม 2566 บริษัท มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนลงทุนจากพลังงานทดแทน จำนวน 1,927.33 เมกะวัตต์
บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ผู้ประกอบธุรกิจการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และสาธารณูปโภคต่างๆ รวมถึง ธุรกิจ New S-curve ได้แก่ ธุรกิจแบตเตอรี่ ธุรกิจพลังงานอัจฉริยะ และธุรกิจเกี่ยวเนื่องทั้งในและต่างประเทศ
โดยปี 2565 มีรายได้รวม 126,416.06 ล้านบาท
มีกำไรสุทธิ 11,417.56 ล้านบาท
มีมูลค่าหลักทรัพย์ 621,856.95 ล้านบาท
มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 7,227 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น
บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจหลักด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียน รวมถึงการจัดหาและจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ การลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
โดยโครงสร้างธุรกิจหลักของกัลฟ์ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจพลังงาน ประกอบด้วยธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค และธุรกิจดิจิทัล
โดยปี 2565 มีรายได้รวม 95,076.17 ล้านบาท
มีกำไรสุทธิ 891.45 ล้านบาท
มีมูลค่าหลักทรัพย์ 83,193.75 ล้านบาท
มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 6,384.2 เมกะวัตต์
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO ประกอบธุรกิจด้านการลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทต่างๆ (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าทั้งในฐานะรายใหญ่ และรายเล็ก ธุรกิจการให้บริการด้านเทคนิคการจัดการแก่โรงไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ
ปัจจุบันโรงไฟฟ้าในกลุ่มเอ็กโก ผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงหลากหลายประเภท ทั้งก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน ซีวมวล พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานความร้อนใต้พิภพ
โดยปี 2565 มีรายได้รวม 65,344 ล้านบาท
มีกำไรสุทธิ 2,683 ล้านบาท
มีมูลค่าหลักทรัพย์ 83,181.41 ล้านบาท
มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 5,959 เมกะวัตต์
โดยมีกำลังการผลิตจากพลังงานหมุนเวียนรวม 1,364 เมกะวัตต์ ทั้งจากชีวมวล พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานความร้อนใต้พิภพ และเซลล์เชื้อเพลิง โดยโรงไฟฟ้าและโครงการต่างๆ ตั้งอยู่ใน 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา
บริษัท บ้านปู จำกัด(มหาชน) หรือ BANPU เป็นบริษัทพลังงานแบบครบวงจร ใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่
โดยปี 2565 มีรายได้รวม 275,263.44 ล้านบาท
มีกำไรสุทธิ 40,518.97 ล้านบาท
มีมูลค่าหลักทรัพย์ 80,314.53 ล้านบาท
มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 4,058 เมกะวัตต์