เปิดเคล็ดลับสำหรับนักช้อป “บัตรเครดิต” ถือเป็นตัวช่วย ที่มาพร้อมความสะดวก คล่องตัว ให้นักช้อปได้รูดก่อน จ่ายทีหลัง พร้อมสิทธิพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคะแนนสะสม เงินคืน (cashback) และโปรโมชันส่วนลดต่าง ๆ ที่อาจทำให้เราเพลิดเพลินใช้จ่ายเกินตัวได้
SPOTLIGHT มีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากนักช้อป หากไม่อยากมีหนี้เกินตัว ทำให้ผ่อนไม่ไหว รวมถึงการผ่อนจ่ายบัตรเครดิต
เป็นสิ่งแรกที่เราต้องคิดก่อนตัดสินใจสมัครบัตรเครดิต ว่าเรามีความพร้อมที่จะชำระบัตรเครดิ9
ด้วยตัวเองหรือไม่ พร้อมนี้เราควรประเมินจากรายได้ และรายจ่ายที่ผ่านมาในอดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อที่จะดูว่าหากในอนาคตเรามีเหตุฉุกเฉินซ้ำ ๆ ติดกัน การเงินเราจะเป็นอย่างไรในอนาคต
หากเรามีค่าใช้จ่ายที่ประจำอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น ค่าผ่อนบ้าน รถ เราต้องคำนวณแล้วว่า หากเรามีบัตรเครดิตอีกใบเราจะสามารถใช้จ่ายได้คุ้มหรือเปล่า ซึ่งเราไม่ควรมีรายจ่ายเหล่านี้เกิน 50% ของรายได้ เช่น หากรายได้ของเราในแต่ละเดือน 40,000 บาท รายจ่ายทั้งหมดรวมค่าบัตรเครดิตของเราก็ไม่ควรเกิด 20,000 นั่นเอง
การจำกัดวงเงินบัตรเครดิตเพื่อไม่ให้เกิดการใช้จ่ายที่มากเกินกำลังที่จะจ่ายได้ เพื่อไม่ให้ก่อหนี้
บัตรเครดิตมากจนจ่ายบัตรเครดิตไม่ไหว เราควรกำหนดวงเงินบัตรเครดิตไว้เสียแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่จะเจอปัญหาดอกเบี้ยบัตรเครดิตจากการจ่ายขั้นต่ำ หรือจ่ายไม่ไหวนั่นเอง
โดยเริ่มจากการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของตัวเอง ว่าที่ผ่านมา เราใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการูปแบบไหน ช่องทางไหน แล้วเลือกบัตรที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากที่สุด เช่น หากเป็นคนชอบช้อปปิ้ง ควรเลือกบัตรที่ให้สิทธิพิเศษได้เครดิตเงินคืน (Cash Back) เป็นต้น
ควรตรวจสอบข้อมูลค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตของแต่ละแบรนด์ หรือบัตรที่เราสนใจอยากสมัครมาเปรียบเทียบกัน ทั้งค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร เช่น เลือกเปิดบัตรเครดิตกับธนาคารที่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมแรกเข้า หรือเลือกเปิดบัตรเครดิตกับธนาคารที่กำหนดยอดค่าใช้จ่ายสะสมต่อปีไม่มาก เมื่อเราใช้จ่ายให้ครบตามจำนวนขั้นต่ำที่กำหนดไว้ก็จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปี
5. เช็กสิทธิประโยชน์ก่อนนำบัตรเครดิตไปรูดเสมอ
เช็กสิทธิพิเศษของบัตรเครดิตก่อนการใช้จ่าย เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าให้กับการใช้บัครเครดิตของเรา และจะได้ไม่พลาดสิทธิประโยชน์จากบัตร โดยปกติบัตรเครดิตจะมีสิทธิพิเศษต่าง ๆ ดังนี้
สิ่งสำคัญอีกข้อ คือ การหลีกเลี่ยงการจ่ายขั้นต่ำ เพราะดอกเบี้ยจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ การรูดบัตรเครดิตเป็นการใช้จ่ายแทนการถือเงินสด หากพูดให้เห็นภาพมากขึ้นก็เป็นการนำเงินในอนาคตมาใช้ก่อน ฉะนั้น เมื่อบิลบัตรเครดิตมาแล้ว ก็ควรจ่ายให้ตรงเวลาและเต็มจำนวน เพื่อหลีกเลี่ยงดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
เพราะบัตรเครติด คือ สินเชื่อประเภทหนึ่งและสามารถใช้กดเงินสดมาใช้ได้ แต่ดอกเบี้ยในการกดเงินสูงกว่าสินเชื่อส่วนบุคคล หรือบัตรกดเงินสด เพราะฉะนั้น จะต้องศึกษาอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขก่อนการใช้งาน
หากมีความจำเป็นต้องการเงินสดจริง ๆ แนะนำ สมัครบัตรกดเงินสดเพื่อตอบโจทย์เรื่องนี้ ถึงแม้อัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดอาจดูสูงกว่าการกดเงินสดจากบัตรเครดิต แต่เพราะไม่มีค่าธรรมเนียมในการเบิกถอนเงิน และ Vat 7% หากนำมาคำนวณแล้ว การกดเงินจากบัตรกดเงินสดมีความคุ้มค่ากว่าการใช้เงินสดจากบัตรเครดิต
สูตรคำนวณดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย = (จำนวนเงินที่รูดบัตร x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวัน) / 365
อย่างไรก็ตาม การมีบัตรเครดิตไว้เพื่อการใช้งานที่หลากหลาย เป็นข้อดีของความสะดวกสบายและความคุ้มค่าตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของการใช้จ่ายที่แตกต่าง
แต่เราจะต้องมีการจัดสรรการใช้บัตรให้ลงตัวเพื่อคงสภาพคล่องและสุขภาพทางการเงินที่ดี รวมถึง การจัดลำดับความสำคัญก่อนตัดสินใจที่จะใช้บัตรจะช่วยเพิ่มความคุ้มค่าในการจ่ายด้วยบัตรเครดิตมากขึ้น เพื่อลดภาระดอกเบี้ย และเลี่ยงการใช้จ่ายเกินตัว เหล่านี้จะช่วยรักษาสถานะทางการเงินที่ดีเมื่อมีบัตรเครดิต และใช้จ่ายในยามจำเป็นมากกว่าในยามต้องการ
ที่มา : fintips by ttb กรุงศรี