ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนทั่วโลก แม้จะต้องเผชิญกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ และความไม่แน่นอนทางการเมืองอยู่บ้าง แต่ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง นวัตกรรมที่ก้าวล้ำ และศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว จึงไม่น่าแปลกใจที่ดัชนี S&P 500 ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทชั้นนำ 500 แห่งในสหรัฐฯ จะยังคงดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก
ปี 2567 นับเป็นปีแห่งการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยดัชนี S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางปัจจัยสนับสนุน เช่น นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย การลดอัตราดอกเบี้ย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี AI และการกลับมาของโดนัลด์ ทรัมป์ ในฐานะประธานาธิบดี บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจ 10 หุ้นเด่นในดัชนี S&P 500 ที่สร้างผลตอบแทนสูงสุด (Year-to-Date: YTD) ประจำปี 2567 พร้อมเจาะปัจจัยพื้นฐาน ศักยภาพ และความท้าทายของแต่ละบริษัท เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนของคุณ
10 หุ้น S&P500 ที่ดีที่สุดในปี 2024 ให้ผลตอบแทนสูงสุดตั้งแต่ต้นปี
ปี 2567 ถือเป็นปีที่ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาแสดงถึงสัญญาณการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดัชนี S&P 500 ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากหลากหลายมิติ อาทิ นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาปัญญาประดิษฐ์ (AI) และปัจจัยทางการเมืองจากชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี
จากข้อมูลของ KSecurities ณ วันที่ 29 ตุลาคม 2567 บ่งชี้ว่าหุ้น 10 ตัวในดัชนี S&P 500 ที่มีผลตอบแทนสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี (Year-to-Date: YTD) นำโดย Vistra Corp บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นถึง 231.42% ตามมาด้วย NVIDIA Corp บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก ผู้ผลิตหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ซึ่งมีอัตราการเติบโต 185.29%
ตารางแสดงรายชื่อหุ้น 10 อันดับแรกในดัชนี S&P 500 ที่มีผลตอบแทนสูงสุด (YTD)
อันดับ | ชื่อบริษัท | ผลตอบแทน (YTD) |
1 | Vistra Corp (VST) | 231.42% |
2 | NVIDIA Corp (NVDA) | 185.29% |
3 | Palantir Technologies Inc (PLTR) | 161.68% |
4 | Constellation Energy Corp (CEG) | 127.94% |
5 | Targa Resources Corp (TRGP) | 92.63% |
6 | United Airline Holding Inc (UAL) | 86.45% |
7 | Iron Mountain Inc (IRM) | 86.33% |
8 | Howmet Aerospace Inc (HWM) | 85.37% |
9 | Fair Isaac Corp (FICO) | 73.70% |
10 | NRG Energy Inc (NRG) | 73.64% |
รู้จัก 10 อันดับแรกในดัชนี S&P 500 ที่มีผลตอบแทนสูงสุด (YTD) ประจำปี 2567
- Vistra Corp (VST) ให้ผลตอบแทน YTD สูงถึง 231.42% Vistra Corp เป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า รวมถึงพลังงานนิวเคลียร์ และระบบกักเก็บพลังงาน ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโต คือ ความต้องการพลังงานนิวเคลียร์ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก สืบเนื่องจากวิกฤตพลังงาน และนโยบายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ การขยายธุรกิจระบบกักเก็บพลังงาน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม Vistra Corp ยังคงเผชิญความท้าทายจากความผันผวนของราคาก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า รวมถึงการแข่งขันในอุตสาหกรรมพลังงาน และความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ
- NVIDIA Corp (NVDA) มีผลตอบแทน YTD อยู่ที่ 185.29% NVIDIA เป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก ผู้ผลิตหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) สำหรับคอมพิวเตอร์ เกม และ AI ปัจจัยหนุนสำคัญ คือ ความต้องการ GPU สำหรับ AI ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการพัฒนาเทคโนโลยี เช่น รถยนต์ไร้คนขับ และ Metaverse รวมถึงการขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ เช่น ศูนย์ข้อมูล และยานยนต์ อย่างไรก็ตาม NVIDIA ยังคงต้องเผชิญกับการแข่งขันจากคู่แข่ง เช่น AMD และ Intel รวมถึงความเสี่ยงด้านห่วงโซ่อุปทาน และการขาดแคลนชิป
- Palantir Technologies Inc (PLTR) ให้ผลตอบแทน YTD ที่ 161.68% Palantir เป็นบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ สำหรับหน่วยงานภาครัฐ และภาคธุรกิจ ปัจจัยที่ผลักดันการเติบโต คือ ความต้องการซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูล ที่เพิ่มขึ้น จากการเติบโตของข้อมูล และความต้องการในการตัดสินใจเชิงธุรกิจ รวมถึงการขยายฐานลูกค้าไปยังภาคธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรม เช่น การเงิน และการดูแลสุขภาพ แต่ Palantir ก็ยังมีความท้าทายจากการแข่งขันกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Microsoft และ Amazon และความกังวลด้านความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยของข้อมูล
- Constellation Energy Corp (CEG) มีผลตอบแทน YTD อยู่ที่ 127.94% Constellation Energy เป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า รวมถึงพลังงานนิวเคลียร์ ปัจจัยหนุนคล้ายกับ Vistra Corp คือ ความต้องการพลังงานนิวเคลียร์ที่เพิ่มขึ้น และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานพลังงาน เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ Constellation Energy ต้องรับมือกับความท้าทายด้านกฎระเบียบ ความปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และการแข่งขันในอุตสาหกรรมพลังงาน
- Targa Resources Corp (TRGP) มีผลตอบแทน YTD ที่ 92.63% Targa Resources ให้บริการขนส่ง จัดเก็บ และแปรรูปก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันดิบ ปัจจัยหนุน คือ ราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น จากความต้องการที่เพิ่มขึ้น และปัญหาการขาดแคลน รวมถึงการขยายโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมพลังงาน อย่างไรก็ตาม Targa Resources ยังมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ รวมถึงความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัย
- United Airline Holding Inc (UAL) ให้ผลตอบแทน YTD ที่ 86.45% United Airline เป็นสายการบินที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หลังจากวิกฤต COVID-19 รวมถึงการควบคุมต้นทุน และการปรับปรุงประสิทธิภาพ แต่ยังคงมีความท้าทายจากราคาเชื้อเพลิงที่ผันผวน การแข่งขันในอุตสาหกรรม และความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ
- Iron Mountain Inc (IRM) ให้ผลตอบแทน YTD ที่ 86.33% Iron Mountain ให้บริการจัดเก็บ และจัดการข้อมูล เอกสาร และทรัพย์สิน ปัจจัยที่ผลักดันการเติบโต คือ ความต้องการบริการจัดเก็บข้อมูล ที่เพิ่มขึ้น จากการเติบโตของข้อมูล และการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัล รวมถึงการขยายธุรกิจไปยังบริการ เช่น การจัดการข้อมูล และความปลอดภัยทางไซเบอร์ อย่างไรก็ตาม Iron Mountain ต้องเผชิญกับการแข่งขันจากบริษัทเทคโนโลยี และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล
- Howmet Aerospace Inc (HWM) มีผลตอบแทน YTD ที่ 85.37% Howmet Aerospace ผลิตชิ้นส่วน และวัสดุ สำหรับอุตสาหกรรมอากาศยาน และอุตสาหกรรมอื่นๆ ปัจจัยหนุน คือ การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบิน และการลงทุนในเทคโนโลยี และนวัตกรรม แต่ยังคงมีความท้าทายจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และการแข่งขันในอุตสาหกรรม
- Fair Isaac Corp (FICO) ให้ผลตอบแทน YTD ที่ 73.70% Fair Isaac Corp พัฒนาซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูล และระบบการตัดสินใจ ปัจจัยที่ผลักดันการเติบโต คือ ความต้องการซอฟต์แวร์ และบริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูล ที่เพิ่มขึ้นในหลากหลายอุตสาหกรรม รวมถึงการขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ เช่น การป้องกันการทุจริต และการจัดการความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม Fair Isaac Corp ยังคงเผชิญกับการแข่งขันจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ และความท้าทายในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ
- NRG Energy Inc (NRG) ให้ผลตอบแทน YTD ที่ 73.64% NRG Energy เป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า รวมถึงพลังงานหมุนเวียน ปัจจัยหนุน คือ ความต้องการพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้น และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานพลังงานสะอาด อย่างไรก็ตาม NRG Energy ยังคงมีความท้าทายจากความผันผวนของราคาน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ รวมถึงการแข่งขันในอุตสาหกรรมพลังงาน
ข้อสังเกตและข้อควรพิจารณาในการลงทุน
สรุปบทความนี้ได้นำเสนอข้อมูลผลตอบแทนของหลักทรัพย์ 10 อันดับแรกในดัชนี S&P 500 ประจำปี 2567 ประกอบการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของแต่ละบริษัท เพื่อให้นักลงทุนได้พิจารณาภาพรวมของศักยภาพและความท้าทายในเชิงลึก อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาข้อมูลและปัจจัยต่างๆ ประกอบการตัดสินใจลงทุนอย่างรอบคอบ เนื่องจากผลตอบแทนในอดีตมิได้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงผลตอบแทนในอนาคต สำหรับนักลงทุนที่ประสงค์จะลงทุนในดัชนี S&P 500 สามารถเลือกลงทุนผ่านกองทุนรวมอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund: ETF) เช่น SPDR S&P 500 ETF (SPY US) และ Vanguard S&P 500 ETF (VOO US) ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ โดยนักลงทุนจำเป็นต้องแลกเปลี่ยนเงินตราเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และมีจำนวนขั้นต่ำในการซื้อขาย 1 หุ้น
นอกจากนี้ การกระจายการลงทุน และการจัดสรรพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท ก็เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยลดทอนความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจในระยะยาว ท้ายที่สุด ผู้เขียนใคร่ขอเน้นย้ำว่า การลงทุนมีความเสี่ยงโดยสภาพ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน และพึงปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน เพื่อรับคำแนะนำที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของแต่ละบุคคล
ที่มา KS Global Invest, Bloomberg, CFRA